ทวียังสอดไส้อุ้มนช. ‘สมศักดิ์’โยนขี้ขรก.

"สมศักดิ์" โยนขี้ให้ ขรก.ชี้แจงไม่เคลียร์ปม "ทักษิณ" อยู่ รพ.ตร.ครบ 120 จวกไม่รู้ระบบกฎเกณฑ์ ทำงานเช้าชามเย็นชาม จนโดนปั่นเป็นนักโทษเทวดา ลั่นไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล "ทวี" รอความเห็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ชี้แจงอยู่เกิน 120 วันได้กี่วัน    "สมชาย" จี้กรมราชทัณฑ์ไปตรวจชั้น 14 รพ.ตร. หวั่นแพทย์ให้การเท็จ ชงฝ่ายค้านตัดงบเหลือ 0% หากไร้ขีดความสามารถคุมนักโทษ แฉระเบียบขัดแย้งกับระเบียบที่ประกาศไว้ก่อนหน้า 

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 ธันวาคม     นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจครบ 120 วัน จะทำให้กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ว่า ไม่กระทบ เพราะเงื่อนไขของกฎหมายและระเบียบราชทัณฑ์มีกรอบข้อปฏิบัติที่ชัดเจน  หากข้าราชการทำตามก็จะเดินหน้าไปปกติ แต่ถ้าทำอย่างไม่จริงใจและไม่เข้าใจก็จะเป็นปัญหา

ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านรณรงค์ไม่ให้มี ระบบอุปถัมภ์นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า   หากมีกรณีเด็กฝากหรือเป็นลูกท่านหลานเธอ จะทำงานโดยขาดความเข้าใจในระเบียบ แต่ก็ยังอยากรักษาตำแหน่งไว้ ก็จะเป็นปัญหาของสังคม  ซึ่งเราก็ต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้ามาทำให้ทุกอย่างโปร่งใส

"เป็นเพราะหน่วยงานทั้งหลายชี้แจงไม่เคลียร์ และไม่กล้าที่จะตอบ ไม่รู้ระบบกฎเกณฑ์อย่างแท้จริง ไม่ได้ทำการบ้านมา ทำงานเช้าชามเย็นชาม" นายสมศักดิ์กล่าวเมื่อถามถึงการปั่นกระแสว่านายทักษิณเป็นนักโทษเทวดา

เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวถูกโยงไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ    ว่าได้เดินทางกลับมาด้วย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องโยง ก็เป็นไปตามกฎเกณฑ์ หากเราไม่ได้คนที่ทำงานเข้าใจในระเบียบอย่างแท้จริงก็จะเป็นปัญหาแบบนี้

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม  กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า กฎกระทรวงได้ระบุถึงการรักษาตัวนอกเรือนจำว่า ถ้าพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วัน จะต้องขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งการให้เห็นชอบของอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะต้องฟังความเห็นจากแพทย์ผู้รักษา ซึ่งไม่ใช่แพทย์ของ รพ.กรมราชทัณฑ์ และหลักฐานอื่นประกอบร่วมด้วย สำหรับกำหนดที่เกิน 120 วันนั้น ไม่เคยมีการระบุว่าต้องเกินกี่วัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อธิบดีกรมราชทัณฑ์คงมีคณะในการตรวจสอบ ต้องให้เวลาตามกระบวนการรวบรวม โดยปกติต้องทำโดยเร็ว ไม่ควรเกิน 1 สัปดาห์

ส่วนในฐานะรัฐมนตรี จะต้องเห็นชอบตามความเห็นของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ด้วยหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่เห็นเอกสาร และยังไม่มีการรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเข้ามา แต่เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ระบุว่ากรมราชทัณฑ์ไม่ทำการบ้านหรือชี้แจงในกรณีข้างต้น พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ก็เห็นกรมราชทัณฑ์ทำแถลงรายงานทุกครั้ง

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เปิดให้สมาชิกปรึกษาหารือ โดยนายสมชาย แสวงการร สว. หารือว่า เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนของกรมราชทัณฑ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าชี้แจง ซึ่งเป็นการประชุมติดตามกรณีการพักโทษให้กับนักโทษเด็ดขาดนอกเรือนจำที่เกินเวลา 120 วัน เป็นครั้งที่ 3 โดยกรมราชทัณฑ์ระบุว่าผู้บัญชาการเรือนจำได้ทำเรื่องขออนุมัติ ซึ่งส่งเรื่องไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และแจ้งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้รับทราบตามหลักเกณฑ์แล้ว พร้อมหลักฐานสำคัญ คือ คำวินิจฉัยของแพทย์ที่ลงนามในใบรักษาระบุว่า ให้รักษาตัวต่อเนื่อง อีกทั้งกรมราชทัณฑ์ระบุว่าไม่มีอำนาจนำตัวผู้ต้องขังกลับจากโรงพยาบาล ด้วยเหตุผลตามความเห็นของแพทย์ที่ให้รักษาตัวต่อเนื่อง

"ขอเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง รวมถึง พ.ต.อ.ทวี  ตรวจสอบว่านักโทษที่ได้รับสิทธิดังกล่าวป่วยด้วยโรคอะไร เพราะเท่าที่ทราบคือ เป็นโรคปกติธรรมดา ทั้งความดัน เส้นเลือดตีบ เป็นโควิด ติดเชื้อที่ปอด  กระดูกเสื่อม ไม่จำเป็นต้องรักษาเกินระเบียบ หากแพทย์ให้ความเห็นว่าต้องรักษาตัวต่อเนื่อง ต้องป่วยด้วยโรคร้ายแรง ใกล้วาระสุดท้าย นอนติดเตียง"

นายสมชายกล่าวอีกว่า กมธ.มีข้อเสนอว่า กรมราชทัณฑ์ควรไปตรวจสอบที่ รพ.ตำรวจชั้น 14 ซึ่งไม่เคยไปตรวจเลย ไม่ใช่เพื่อไปคุกคามคนป่วย แต่เพื่อตรวจสอบว่าแพทย์ให้การเท็จหรือไม่ หากสังคมได้รับทราบว่าอดีตนายกฯ  ป่วยอะไรมากมาย ตนก็ยินดีให้ท่านรักษาต่อจนหายขาดไปอีกหลายปี กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าผู้คุมใน รพ.ตำรวจต้องถ่ายรูปคู่กับนักโทษทุก 2 ชั่วโมง ทาง กมธ.จึงขอเรียกหลักฐานภาพถ่ายดังกล่าวตั้งแต่วันแรกจนครบ 125 วันปัจจุบันนี้ ทั้งนี้ ทางผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยังอ้างว่ากล้องวงจรปิดใน รพ.ตำรวจกลับเสียมาหลายปี

 “รพ.ตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่กล้องวงจรปิดกลับเสีย เด็กอนุบาลก็ไม่เชื่อครับ เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีเงินผมจะออกเงินให้ติดกล้องวงปิด แล้วถ่ายทอดมาที่วุฒิสภา 24 ชั่วโมง หากกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมไร้ขีดความสามารถในการควบคุมนักโทษ ขอเสนอไปยังฝ่ายค้านว่า ให้ตัดงบประมาณของกรมราชทัณฑ์เหลือ 0% เนื่องจากหน่วยงานดังกล่าวไม่มีความจำเป็นแล้ว และขอเสนอประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษาผู้ใหญ่ ควรแก้ไข พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลยุติธรรม ตั้งศาลแผนกบังคับโทษ เพราะบ้านเมืองนี้หาที่พึ่งไม่ได้แล้ว"

นายสมชายกล่าวด้วยว่า สำหรับระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยให้สิทธินักโทษคุมขังนอกเรือนจำ จากการตรวจสอบแล้วพบว่าอาจเป็นระเบียบที่ขัดแย้งกันกับระเบียบที่ประกาศไว้ก่อนหน้านั้น ที่กำหนดให้สิทธินักโทษคุมขังนอกเรือนได้ แต่ต้องมีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมตามเกณฑ์ เช่น นักโทษที่อายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อยจะได้รับสิทธิเป็นต้น

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี พร้อมด้วยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และภาคีเครือข่ายรวม 8 ราย เดินทางมายื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้เพิกถอนระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุ้มครองในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 และกฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2563 พร้อมขอให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาระหว่างการพิจารณาคดีให้มีการระงับใช้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวไว้ก่อน

"การออกกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ กำลังทำให้ฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ซึ่งถูกดูแลโดยนักการเมือง มีอำนาจเหนือตุลาการ สามารถเปลี่ยนคำพิพากษาของศาลจากโทษจำคุกกลายเป็นโทษคุมขังหรือกักขังได้ การกระทำแบบนี้เป็นการทำลายระบบตุลาการของประเทศ ทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม" นพ.วรงค์กล่าว.