โอมิครอนพุ่ง!สธ.เปิดสายด่วน

ยอดโควิดรายใหม่ 2,532 คน เสียชีวิต 31 คน "ศบค." เผยโอมิครอนกระจาย 95 ประเทศทั่วโลก ไทยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 104 ราย กำชับ จนท.รัฐห้ามลาไป ตปท. เว้นมีเหตุจำเป็น แนะกลับปีใหม่ตรวจ ATK ทั้งไปและกลับมาทำงาน "อนุทิน" สั่ง สปสช.เตรียมสายด่วน 1330 รับมือติดเชื้อโอมิครอนพุ่ง สธ.ไฟเขียวเข็ม 4 บุคลากรการแพทย์-ด่านหน้า "ตร." รวบหนุ่มอิสราเอลหนีกักตัวเที่ยวพัทยา-สมุย "บิ๊กตู่" ขอคนไทยมีสติใช้ชีวิตอยู่กับโควิด

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,532 ราย ภายในประเทศ 2,443 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 2,393 ราย ค้นหาเชิงรุก 50 ราย เรือนจำ 48 ราย จากต่างประเทศ 41 ราย หายป่วยเพิ่ม 3,191 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 38,202 ราย อาการหนัก 845 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 231 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 31 ราย เป็นชาย 18 ราย หญิง 13 ราย เป็นผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป 24 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย เสียชีวิตมากที่สุด ที่ จ.นครศรีธรรมราช 4 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,199,061 ราย หายป่วยสะสม 2,139,388 ราย เสียชีวิตสะม 21,471 ส่วนยอดผู้ฉีดวัคซีนในประเทศเพิ่มเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 444,037 โดส ทำให้มียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งสิ้น 100,615,878 โดส

สำหรับ 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 421 ราย, ชลบุรี 150 ราย, สมุทรปราการ 128 ราย, นครศรีธรรมราช 71 ราย, ขอนแก่น 70 ราย, ตาก 70 ราย, นครสวรรค์ 68 ราย, ปัตตานี 67 ราย, กระบี่ 58 ราย และแม่ฮ่องสอน 58 ราย และมี 3 จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ ประกอบด้วย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู และมุกดาหาร ส่วนคลัสเตอร์การระบาดทั่วประเทศยังมีอยู่ ทั้งโรงงาน ตลาด งานศพ งานแต่ง แคมป์คนงาน ค่ายทหาร และร้านอาหาร

พญ.สุมนีกล่าวว่า ส่วนสถานการณ์โอมิครอนตอนนี้กระจายไปแล้ว 95 ประเทศทั่วโลก โดยสหรัฐอเมริกามีการติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวถึง 47 รัฐ คิดเป็น 73% ที่ประเทศอิสราเอลมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงมีมาตรการผิดพรมแดน และจำกัดการเดินทาง ขณะที่ประเทศไทยอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานว่าผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศไทยมีทั้งสิ้นจำนวน 104 ราย จำนวนนี้มีทั้งที่อยู่ระหว่างการรักษาและรักษาหายออกจากโรงพยาบาลแล้ว

"จากมติ ศบค.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศแล้ว ศบค.ยังมีมาตรการสำหรับคนไทย โดยเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐห้ามลาไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น คนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศขอให้พิจารณาชะลอหรือยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะการเดินทางไปประเทศยุโรป สหรัฐอเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง เน้นย้ำการตรวจ ATK ก่อนเดินทาง ที่ใช้เวลานานและมีคนแออัด และขอให้ตรวจ ATK ด้วยตัวเองเป็นระยะ ขอให้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ที่สำคัญมาตรการกิจกรรมช่วงปีใหม่ ขอให้ตรวจ ATK ทั้งก่อนไปภูมิลำเนาและก่อนกลับมาทำงาน และหลังเทศกาลปีใหม่ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เวิร์กฟรอมโฮมให้มากที่สุด เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด ขณะที่มาตรการทั่วไปภาครัฐเน้นย้ำปฏิบัติตามมาตรการโควิดฟรีเซตติงในการทำกิจกรรมต่าางๆ อย่างเคร่งครัด" พญ.สุมนีกล่าว

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวถึงการเปิดด่านที่ จ.หนองคาย ในลักษณะเทสต์แอนด์โกทางบกที่แรกว่า ต้องเลื่อนออกไปก่อน และจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดที่จังหวัดหนองคาย-สปป.ลาว ที่มีชายแดนติดกัน

จัดสายด่วนรับโอมิครอนพุ่ง

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าของผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนว่า พบผู้ติดเชื้อที่เข้าข่ายสายพันธุ์โอมิครอนรวมทั้งสิ้น 104 ราย จำนวนนี้ยืนยันผลชัดเจนแล้ว 27 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัสทั้งหมด โดยมี 1 ครอบครัวที่เดินทางจาก จ.กาฬสินธุ์ ไป จ.อุดรธานี ก่อนกลับเข้ามากรุงเทพฯ ภายหลังกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีการตรวจช่วงแรกที่เข้าประเทศไม่พบเชื้อ แต่เมื่อตรวจซ้ำแล้วพบเชื้อจึงติดตามตัว โดยมั่นใจว่าจะไม่เป็นคลัสเตอร์ใหญ่เพราะรู้เส้นทาง

"ทางการแพทย์ให้ข้อมูลเบื้องต้นเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนกับเดลตาอาการไม่ได้รุนแรงกว่ากัน แต่ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อเร็วกว่า จึงต้องพิจารณาเพิ่มเติมว่าการแพร่กระจายที่รวดเร็วในฝั่งยุโรปกับฝั่งประเทศไทยจะแตกต่างกันหรือไม่ เนื่องจากไทยมีมาตรการที่เข้มข้นในการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะไทยมี DMHT กว่า 90% รวมถึงการรับวัคซีนภายในประเทศ มาตรการในการเข้าประเทศของไทยมีความเข้มข้นกว่าต่างประเทศ โดยหากยังไม่มีการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าอาการจะตอบสนองอย่างรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ก็จะใช้มาตรการเฝ้าระวังต่อไป และที่สำคัญการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันก็จะเป็นการป้องกันได้ดี" นายอนุทินกล่าว

รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่หลบหนีจากสถานกักกันตัวว่า ตำรวจได้ติดตามอยู่แล้ว หากเจอตัวก็ต้องรีบรักษาก่อน จากนั้นจึงดำเนินการทางกฎหมายและเนรเทศออกจากประเทศ ขอให้ความมั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการควบคุมคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนผ่าน Thailand Pass กว่า 9 หมื่นคนก่อนการปิดระบบรับชั่วคราว หากเราไปปรับเปลี่ยนก็จะลำบาก แต่ก็ได้เพิ่มมาตรการที่เข้มข้นกว่าเดิม รวมถึงมีระบบการติดตามตัวด้วย

ส่วน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแผนการรับมือต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทั้งการยกระดับและปรับมาตรการในผู้ที่เดินทางเข้าประเทศให้เข้มข้นขึ้น รวมถึงการเตรียมความพร้อมระบบบริการสาธารณสุขเพื่อรองรับผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในส่วนของ สปสช. นายอนุทินได้สั่งให้เตรียมความพร้อมสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อรองรับหากมีการระบาดเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

"สปสช.ได้จัดระบบสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 เป็นจุดประสานงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านหรือ Home Isolation รวมถึงการจัดระบบประสานงานส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบริการหากมีอาการรุนแรงขึ้น ซึ่งได้จัดระบบคู่สายและเพิ่มจำนวนจาก 120 คู่สายในปี 2563 เป็น 3,000 คู่สายในปัจจุบัน เพื่อให้เพียงพอกับการให้บริการประชาชน รวมทั้งได้เตรียมพร้อมระบบการเบิกจ่ายงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยบริการ เพื่อให้การปฏิบัติงานของบุคลากรด่านหน้ามีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น" เลขาฯ สปสช.กล่าว

จับอิสราเอลหนีกักตัวแล้ว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวอิสราเอลว่า ตำรวจท่องเที่ยวและสถานทูตอิสราเอลประสานและจับกุมตัวได้แล้ว หลังชายชาวอิสราเอลที่เดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Test & Go ตรวจคัดกรองแบบ RT-PCR พบติดเชื้อโควิด-19 แต่ปฏิเสธการเข้ารับการรักษาและหลบหนีออกจากสถานที่กักตัวในกรุงเทพมหานครไปยังพัทยาและจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว

"ตอนนี้ได้ถูกนำตัวเข้าสู่ระบบขั้นตอนการรักษาที่โรงพยาบาลเกาะสมุยเรียบร้อยแล้ว นายกฯ ได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามกลุ่มเสี่ยงที่อาจสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายดังกล่าว นำตัวสืบสวนโรคด้วย ATK ในเบื้องต้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลัสเตอร์การแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ รวมทั้งให้มีการขยายผลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันว่า เบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นชอบมติเดินหน้าเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็มที่ 4 ให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า รวมถึงผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรังที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและมีการรับวัคซีนเข็ม 3 มา 3 เดือนแล้วขึ้นไป และฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี วัคซีนที่รับการอนุมัติจาก อย. โดยให้ทำความเข้าใจกลุ่มผู้ปกครอง เนื่องจากเป็นเด็กเล็ก โดยสถานที่ฉีดยังคงใช้สถานศึกษากรณีเด็กที่อยู่ในวัยเรียน ส่วนเด็กโฮมสกูลให้ใช้โรงพยาบาลหรือสถานศึกษาได้เช่นกัน

"มติดังกล่าวนั้นจะต้องมีการร่างและเวียนให้คณะกรรมการพิจารณาปรับแต่งถ้อยคำก่อนเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรับทราบต่อไป" อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 18 ถึงกรณีพูดบนเวทีย้ำหลายครั้งในเรื่องของการมีสติว่า อยากให้ระมัดระวังในเรื่องของโควิดและเรื่องต่างๆ เป็นการเตือนสติในการรับรู้รับทราบ โดยเฉพาะในมาตรการต่างๆ เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาด เราต้องเดินไปด้วยกันเรา ต้องเราต้องอยู่กับเขาอย่างมีสติเข้าใจหรือไม่ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในประเทศไทยถ้าเราเตรียมความพร้อมไว้ให้พร้อม และเราต้องเชื่อมั่นในระบบของเรา ถ้าเกิดขึ้นเราก็รักษาพยาบาล ต้องแก้ไขให้ได้เพราะมันพันกันไปหลายส่วนด้วยกัน

"เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกัน เพราะอีกฝ่ายต้องการเรื่องรายได้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก เราต้องดูทั้งสองทาง แต่สุขภาพก็สำคัญที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่า วันนี้การฉีดวัคซีนทะลุเป้าแล้วถือว่าประสบความสำเร็จแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ถือว่าดีแล้ว ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ขอให้อยู่กับโควิดอย่างมีสติ

จ.ภูเก็ต นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการยกเลิก Test & Go ว่า มีผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เป็นผลกระทบที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเป็นความสร้างสมดุลการควบคุมการระบาดกับเดินต่อทางเศรษฐกิจ เมื่อมีความจำเป็นเกิดขึ้น อาจมีการปรับเปลี่ยนระบบได้ แต่ต้องชัดเจนว่าใครที่ยื่น Thailand Pass มาได้รับอนุมัติ Test & Go มาแล้วก่อนหน้านี้ยังได้เข้ามาปกติ 
 
"ตลาดหลักของภูเก็ตคือรัสเซียกับคาซัคสถาน ยังอยู่ในแซนด์บ็อกซ์ปกติ ซึ่งทั้งสองตลาดนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนระบบตรงนี้ เพราะยังมีแซนด์บ็อกซ์ปกติอยู่ แต่แน่นอน จากประเทศที่จะเข้ามาในเดือน ม.ค.จะเป็นเดือนที่ท้าทายมากสำหรับภูเก็ต ขณะนี้มีสมมติฐานสองเรื่องคือเรื่องที่หนึ่งตัวเลขเข้าประเทศไทยลดลง แน่นอนภูเก็ตจะได้รับผลกระทบไปด้วย เรื่องที่สองอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากหลายที่ที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้มาเข้าที่ภูเก็ตแทน โดยอยู่ระหว่างการติดตามว่าจะเกิดสมมติฐานเรื่องไหนกันแน่ ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าอันไหนจะเกิดขึ้น เพราะอาจจะเร็วเกินไป คือคนที่จะเข้าเมืองไทยอยู่แล้วอาจเปลี่ยนมาเข้าภูเก็ตก่อน" นายกสมาคมธุรกิจกรท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าว

จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 2 รายในจังหวัดว่า ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนของจังหวัดขอนแก่น โดยเป็นคนจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดขอนแก่น ซึ่งทีมควบคุมโรคได้เร่งสอบสวนโรคและดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยผู้ป่วยดังกล่าวนั้น จากการสอบสวนโรคพบเดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมาด้วยสายการบินพาณิชย์ และมีอาการขึ้นมาจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อในพื้นที่จังหวัดที่ตัวเองเข้าพัก โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่ด้วยกันและเป็นสามี-ภรรยากัน เมื่อมีอาการจึงได้เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดขอนแก่น โดยขณะนี้ทีมสอบสวนโรคและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเข้มงวดแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง