"สิระ" ร่วง ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ฟันกรณีเคยติดคุกมาก่อน เป็นเหตุให้พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. ซวยซ้ำสองเสียหายหลายล้าน! ต้องคืนเงินเดือนและรายได้ทั้งหมดตั้งแต่เดือน มี.ค.2562 ทนายเสียงอ่อย ลูกความคงต้องพักผ่อน เตรียมเลือกตั้งใน 45 วัน คาดพลังประชารัฐส่งเมียลงแทน เพื่อไทยดันสุรชาติ เทียนทอง ชิง
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6)
จากเหตุเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2538 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา
ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังจากศาลแขวงปทุมวันมีคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 812/2538 หมายเลขแดงที่ 2218/2538 แล้ว ได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 พ.ศ.2539 ประกาศใช้ ผู้ถูกร้องย่อมได้รับการล้างมลทินโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งถือว่าผู้ถูกร้องมิเคยถูกลงโทษจำคุกฐานฉ้อโกงในคดีนั้นมาก่อน เข้าเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ว่าผู้ถูกร้องไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และศาลจังหวัดแพร่อาจใช้ดุลยพินิจรอการลงโทษตามมาตรา 56 นี้ ให้แก่ผู้ถูกร้องได้
แต่การได้รับประโยชน์จากการล้างมลทินดังกล่าว ไม่มีผลเป็นการลบล้าง การกระทำความผิดในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 812/2538 หมายเลขแดงที่ 2218/2538 ของศาลแขวงปทุมวัน ที่ผู้ถูกร้องเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุด ว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญาได้ นอกจากนี้ข้อกล่าวอ้างขอผู้ถูกร้องที่ว่า เอกสารราชการที่ผู้ถูกร้องส่งไปปรากฏว่ามีส่วนราชการหรือเจ้าพนักงานผู้จัดทำ หรือผู้ครอบครอง รับรองความถูกต้อง ไม่สามารถนำมารับฟัง ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความแพ่งนั้น
เมื่อเอกสารดังกล่าวผู้อ้างส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ รับรองสำเนาความถูกต้อง อันถือเป็นการรับรองว่าได้รับ หรือคัดถ่าย มาจากผู้จัดทำเอกสารเหล่านั้น ทั้งผู้ถูกร้องไม่ได้อ้าง ถึงความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้องของข้อความในเอกสารนั้นว่าเป็นอย่างไร และที่ถูกควรเป็นเช่นใด ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีอำนาจรับฟังเอกสารนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 27 และสามารถนำเอกสารดังกล่าวมารับฟังเพื่อค้นหาความจริงว่าเป็นเช่นใดได้ ฉะนั้นข้อกล่าวอ้างของผู้ถูกร้องทุกข้อไม่อาจรับฟังได้
ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า พ.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ เป็นผู้เสียหายในคดีอาญา หมายเลขดำที่ 812/2538 หมายเลขแดงที่ 2218/2538 ของศาลแขวงปทุมวัน และ พ.ต.ต.เขมรินทร์ไม่เคยยอมความกับผู้ถูกร้อง หรือถอนคำร้องทุกข์คดี อันเป็นเหตุให้ศาลแขวงปทุมวันได้จำหน่ายคดีจากสารบบความภายในระยะเวลาอุทธรณ์ เช่นนี้คำพิพากษาดังกล่าวจึงถึงที่สุดไปตามคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน ผู้ถูกร้องจึงเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ว่าได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อผู้ถูกร้องเคยถูกคำพิพากษาจนถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ว่ากระทำโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ผู้ถูกร้องจึงเป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้ สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6)”
เลือกตั้งใหม่ใน 45 วัน
ส่วนสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายสิระสิ้นสุดนับแต่เมื่อใด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 100 บัญญัติว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเริ่มต้นแต่วันเลือกตั้ง เมื่อรัฐธรรมนูญมาตรา 101 บัญญัติว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงเมื่อ (6) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 ประกอบมาตรา 98 บัญญัติว่าบุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (10) เคยต้องทำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว เป็นบทบัญญัติว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นสิ้นสุดลงเมื่อมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว
กล่าวคือ ต้องไม่เคยต้องทำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มิใช่ต้องไม่มีอยู่ในขณะรับเลือกตั้งเท่านั้น แต่ต้องไม่มีตลอดระยะเวลาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นมีเหตุใดเหตุหนึ่งตามที่บัญญัติ เป็นลักษณะต้องห้ามเมื่อใด ย่อมต้องทำให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นสิ้นสุดลงทันทีที่มีลักษณะต้องห้ามนั้น
จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกร้องมีลักษณะต้องห้ามตั้งแต่วันที่ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือวันที่ 4 ก.พ.2562 แล้ว แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 100 บัญญัติให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเริ่มตั้งแต่วันเลือกตั้ง เช่นนี้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องจึงสิ้นสุดลงนับแต่วันเลือกตั้งคือ 24 มี.ค.2562
เมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ทำให้มีตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลง แต่ต้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 105 วรรค 1 (1) ประกอบมาตรา 102 จึงให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงคือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 76 วรรค 1 ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่านคือวันที่ 22 ธ.ค. 2564
อาศัยเหตุดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายสิระ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบ มาตรา 98 (10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ 24 มี.ค.2562 และให้ถือว่าวันศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 76 วรรค 1 ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่าน คือวันที่ 22 ธ.ค.2564 เป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากการเลือกตั้งแบบเขตว่างลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 105 วรรค 1 (1) ประกอบมาตรา 102 ”
ทั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง เห็นว่านายสิระมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.
"สิระ" คงต้องพักผ่อน
ขณะที่นายทิวา การกระสัง ผู้แทนนายสิระเผยว่า จากนี้ไปนายสิระคงต้องพักผ่อน จะไม่ได้ทำหน้าที่ ส.ส. ทำหน้าที่เพื่อสังคมต่อไปในฐานะคนไทยคนหนึ่ง จนกว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือมีการเปลี่ยน คนเราทำเพื่อประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพียงแต่ไม่มี ส.ส.ที่ชื่อสิระ ส่วนที่นายสิระไม่มาเพราะมอบให้ตนมาฟังแทน โดยโทร.มาเมื่อ 06.00 น.ของวันนี้ บอกเพียงจะเข้าสภาไปลงมติ ให้ตนมาฟังคดีนี้แทน
เขากล่าวว่า ถ้าจะเรียกค่าตอบแทนคืน ก็ต้องพิจารณาว่าเราสุจริตหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการตีความกฎหมายว่าคดีสิ้นสุดหรือยัง เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 28 ปีที่ผ่านมาที่มีการตีความรัฐธรรมนูญฉบับนี้ย้อนหลัง ตนจึงขอฝากให้ดูว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องนี้ มาตรา 98 (10) ให้รอดูคดีของนายกรัฐมนตรีที่อยู่ครบ 8 ปี ว่าย้อนหลังหรือไม่ มาตรฐานจะเท่ากันหรือไม่
"ในฐานะนักกฎหมาย ไปดูว่าศาลจะวินิจฉัยมาตรฐานเดียวกันหรือสองสามมาตรฐานว่าย้อนหลังหรือไม่ย้อนหลัง แต่อย่างไรเราก็ยอมรับคำพิพากษา เพราะเราก็อยู่ภายใต้กฎหมาย" นายทิวากล่าวยอมรับว่าเคยคุยกับนายสิระ ซึ่งก็ยอมรับว่าคนมีคดีไม่มีความสุข
นายทิวายังกล่าวทิ้งท้ายว่า ใครจะคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีกับประเทศนี้ แต่ตนว่าใช้ได้ ขณะที่เขาได้รับหน้าที่เขาก็ทำหน้าที่เต็มที่ที่ได้รับ และเมื่อศาลให้พักผ่อนก็ต้องพักผ่อน ส่วนนายสิระจะส่งภรรยาสุดที่รักลงสมัครรับเลือกตั้งแทนหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐว่าใครจะลงแทน แต่ในส่วนของตัวนายสิระคงเล่นการเมืองต่อไปไม่ได้ หากต้องคำพิพากษาเพราะการตีความย้อนหลังแบบนี้ ซึ่งต้องรอจนกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในมาตรานี้ หากต้องคำพิพากษาคือไม่จะเป็นต้องถูกจำคุกหรือไม่ แบบนี้ทุกคนก็โดนหมด ย้อนหลังไปถึงการทำความผิด 50 ปี 100 ปี มันเท่าเทียมกันทุกคน
ทั้งนี้ ล่าสุด สำนักการคลัง สภาผู้แทนราษฎร กำลังตรวจสอบเพื่อเรียกคืนเงินเดือนและรายได้ทั้งหมดของนายสิระที่ได้จากสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่เดือนมี.ค.2562 ได้แก่ 1.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 113,560 บาท ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2562 ถึงวันที่ 22 ธ.ค.2564 2.เงินเดือนผู้ช่วย ส.ส.ของนายสิระ จำนวน 7 คน ตั้งแต่ 15,000-20,000 บาท และ 3.ค่าเบี้ยประชุม-ค่าเดินทางต่างๆ ของนายสิระระหว่างดำรงตำแหน่งส.ส.
ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมว่า มีจำนวนเงินจ่ายให้นายสิระไปทั้งหมดเท่าใด จะต้องเรียกคืนทุกบาททุกสตางค์ หลังจากคำนวณวงเงินที่นายสิระต้องจ่ายคืนเสร็จแล้ว จะส่งหนังสือให้นายสิระรับทราบเพื่อคืนรายได้ทั้งหมดที่ได้ไปให้สภาต่อไป
นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.หัวหน้าภาค กทม. พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขั้นตอนต่อไปเตรียมเรียกประชุมคณะทำงานภาค กทม.ในเร็วๆ นี้ เพื่อนำรายชื่อบุคคลต่างๆ มาพิจารณาส่งสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่เขต 9 กทม.ของ นายสิระ
ส่งเมีย "สิระ" ลงแทน
จากนั้นเมื่อได้รายชื่อแล้วก็จะนำเข้าคณะกรรมการสรรหา ส.ส. ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานพิจารณาก่อน ที่จะส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้า พปชร. เห็นชอบต่อไป
รายงานข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยว่า สำหรับตัวผู้สมัครที่จะลงสมัครเลือกตั้งซ่อมแทนนายสิระ โดยจะสอบถามนายสิระก่อนว่าจะสนับสนุนผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งแทน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะโยกนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสิระ ที่เดิมวางตัวไว้ เป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในเขตดอนเมือง ย้ายกลับมาลงสมัคร เลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ของนายสิระ ส่วนสุดท้ายจะเป็นนางสรัลรัศมิ์หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของพรรคเพื่อไทยว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่อย่างไร แต่นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ถือเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม ปัจจุบันก็ลงทำพื้นที่มาโดยตลอดต่อเนื่องไม่เคยทิ้งพื้นที่ ตรงนี้เป็นข้อเท็จจริงที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของพรรคเพื่อไทยโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มแน่นอนว่า ถ้าไม่ส่งจะทำให้ประชาชนผิดหวัง และพรรคจะเสียโอกาส แต่สุดท้ายขอให้รอกระบวนการของพรรคก่อน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในเร็วๆ นี้ว่าจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งหรือไม่ แต่พื้นที่ดังกล่าว นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย มีคะแนนเสียงเป็นอันดับที่ 2 ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา และอาจจะต้องรักษาพื้นที่ดังกล่าวไว้ โดยข้อสรุปทั้งหมดจะมีการเรียกหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเร็วๆ นี้
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. โดยระบุว่า "เสียใจด้วย สิระ เราเป็น นักเลง ไม่ซ้ำเติมใครให้จนมุม เราให้อภัยที่นายทำกับเราไว้มาก แต่เราจะดูแลพี่น้องชาวหลักสี่ กทม.แทนนายเอง พักผ่อนให้สบาย เหนื่อยมามากแล้ว".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รมช.คลังตอบชัด ปฏิรูประบบภาษี ศึกษาไร้ทิศทาง
เก้าอี้ดนตรี! "ศิริกัญญา" ตั้งกระทู้ถามปฏิรูประบบภาษีให้ "นายกฯ" ตอบ แต่ "อุ๊งอิ๊ง" ส่ง "รมว.คลัง" ตอบแทน
20สส.รอซบ‘กล้าธรรม’ ขอถอยคดี‘ไร่ภูนับดาว’
"พปชร." ลงมติขับ "20 สส.ก๊วนธรรมนัส" พ้นสมาชิกพรรค
ตั้ง2ข้อหาหนัก‘โกทร-ลูกน้อง’ การเมืองท้องถิ่นปมฆ่าสจ.โต้ง
"ผบ.ตร." สั่งเข้มกองปราบฯ ลงพื้นที่สางคดียิง “สจ.โต้ง” ดับคาบ้าน "สุนทร วิลาวัลย์" ฮึ่มเหตุอุกฉกรรจ์ใครเอี่ยวฟันหมด
จ่อถกเหล่าทัพหาจุดตรงกลาง
“ประยุทธ์” ขอแก้ไข 24 ข้อบกพร่อง กม.กลาโหม ก่อนดันเข้าสภาอีกรอบ “บิ๊กเล็ก” จับเข่าคุยเหล่าทัพ-ภูมิธรรม
ประชานิยมภาค2 ‘อิ๊งค์’โชว์เดี่ยวขายฝันปี68แจกแหลก ปชน.ฟันฉับ!สอบตกแค่ฝากงานรมต.
"นายกฯ อิ๊งค์" ร่ายยาวผลงานรัฐบาล 90 วัน เปิดอนาคตปี 68
20 สส.ก๊วนธรรมนัสโบกมือลา พปชร. บอกยังรักเคารพลุงป้อม!
'20 สส.ก๊วนธรรมนัส' ถูกขับพ้น 'พปชร.' แล้ว 'อรรถกร' บอกจากกันด้วยดี ขอเวลาหารือ 'พรรคกล้าธรรม' ก่อน ย้ำ ยังรักเคารพ 'ลุงป้อม' อยู่