ลั่นชำแหละงบฯ67เต็มที่ เคาะประชามติ1คำถาม

"ชัยธวัช" โวยรัฐบาลให้เวลาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบ 67 น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เทียบยุค "ลุงตู่" ได้  14-17 วัน ยันจะทำให้ดีที่สุดลุยชำแหละเต็มที่ "ภูมิธรรม"  เคาะทำประชามติคำถามเดียว “แก้ รธน.-ไม่แตะหมวด 1  หมวด 2” คาดชงเข้า ครม.มกรา 67 ส่วนคุณสมบัติ "ส.ส.ร." โยนรัฐสภาพิจารณาขั้นตอนแก้ รธน.มาตรา 256  “วิษณุ” ชี้ช่อง กม.กู้เงิน 5 แสนล้านผ่านวาระ 1 แล้ว รบ.ลอยตัวได้ แต่ถ้าคว่ำก่อนต้องรับผิดชอบลาออก-ยุบสภาฯ

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2567 ว่า หากนายกรัฐมนตรีพร้อมก็น่าจะเลื่อนเวลาให้ฝ่ายค้านได้อ่านเอกสารอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ในสมัยที่แล้วพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เวลาแค่ 14-17 วัน เราก็เห็นว่าน้อยเกินไป

 “แต่ครั้งนี้ถือว่าน้อยที่สุดในรอบหลายปี เพียงแค่ 7 วันเท่านั้น น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจริงๆ ไม่มีเหตุผลอย่างยิ่งที่ให้เวลากระชั้นขนาดนี้ โดย 7 วันที่ให้ยังคร่อมปีใหม่ด้วย แต่ต้องทำให้ดีที่สุด และยังหวังว่ารัฐบาลน่าจะให้เวลากับ สส.ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะ สส.ฝั่งฝ่ายค้านอย่างเดียว  สส.ทุกคนควรมีเวลาอ่าน เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้  แม้จะยังไม่ได้เป็นฉบับของรัฐบาลใหม่ 100% แต่ก็ถือว่าเป็นฉบับที่จะต้องมีการจัดสรรงบประมาณใหม่ เพื่อตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เราจะต้องตรวจสอบว่าการจัดสรรงบประมาณใหม่ตอบโจทย์สถานการณ์ และเป้าหมายอย่างที่รัฐบาลบอกว่าจะเร่งดำเนินการหรือไม่” นายชัยธวัชระบุ

ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี  โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แถลงข่าวถึงความพร้อมของพรรคในการอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในวาระแรก ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-5 ม.ค. 67 ว่า ขอยืนยันว่าพรรคมีบุคลากรจำนวนมาก และมีความพร้อมในการคัดสรรบุคคลเพื่อมาทำหน้าที่เป็น กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 ตามสัดส่วนที่ได้รับการจัดสรรคือ 4 ตำแหน่ง ซึ่งตรงนี้พรรคจะพิจารณาบุคคลที่มีความพร้อมมาทำหน้าที่ กมธ. โดยได้นัดประชุมเตรียมความพร้อมในวันที่ 28 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ในเวลา 10.30 น. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

ทั้งนี้ พรรคจะพิจารณาบุคคลที่มีความเหมาะสม มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณ และได้เตรียมผู้ที่มีประสบการณ์คือ นายจุติ ไกรฤกษ์ อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายวิทยา แก้วภราดัย สส.หลายสมัย มาทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนให้ความรู้ สส.อีก 36 คน ในการพิจารณางบประมาณที่จะเข้าสภาฯ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลได้รับการจัดสรรเวลาในการอภิปรายจำนวน 20 ชม. โดยพรรคจะจัดสรรบุคคลในการอภิปรายตามสัดส่วน และตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 แถลงผลการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 3 ว่า ที่ประชุมมีความเห็นเกี่ยวกับคำถามประชามติว่าจะใช้คำถามเดียว โดยถามว่า ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์

"โดยเรื่องนี้จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม.) ช่วงเดือนมกราคม 2567 หรืออย่างช้าไม่เกินไตรมาสแรก พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะมุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ผ่านไปให้ได้ภายใน 4 ปี พร้อมจะผลักดันอย่างเต็มที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงเร่งออกกฎหมายลูกเพื่อให้มีการเลือกตั้งด้วยบริบทใหม่ หลังจากที่เราทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีเหตุให้ดึง เพราะนายกฯ ก็ถามตนอยู่ทุกวันว่าไปถึงไหนแล้ว"

นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า คณะกรรมการฯ ยังเห็นว่าควรทำประชามติ 3 ครั้ง แต่ให้ความสำคัญกับครั้งแรกก่อนเพื่อให้ผ่านให้ได้ ส่วนการจะแก้กฎหมายประชามติเพื่อให้เสียงผ่านประชามติง่ายขึ้นนั้น ก็มอบให้ ครม.เป็นผู้พิจารณาว่าจะแก้ไขหรือไม่

เมื่อถามว่า ประชาชนจะได้เข้าคูหาลงประชามติครั้งแรกเมื่อใด นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้า ครม.เห็นชอบก็จะส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กกต.ก็จะดำเนินการทำประชามติในกรอบเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน  แต่ไม่เกิน 120 วัน

เมื่อถามว่า กระบวนการกำหนด ส.ส.ร.อยู่ในขั้นตอนใด นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้าหากการทำประชามติครั้งแรกผ่าน ก็จะมีการยื่นแก้ไขมาตรา 256 จาก สส.และ สว. ก็จะเป็นผู้กำหนดคุณสมบัติดังกล่าว

ถามว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะหมดวาระตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังอยู่แต่ขึ้นอยู่กับ ครม.จะมีมติอย่างไรต่อไป

นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองปี 2567 จะมีอะไรพลิกผันหรือไม่ว่า ไม่ทราบ ตนตอบไม่ถูก เมื่อถามถึงกรณีที่ สว.จะหมดวาระ 5 ปี วันที่ 11 พ.ค. จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สว.ชุดนี้ไม่อยู่ก็มี สว.ใหม่มา บทบาทเขาก็เล่นอีกแบบหนึ่ง ในส่วนนี้คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก เพียงแต่ว่าอาจมีการเปลี่ยนเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนรัฐบาลจะปรับ ครม.หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ อยู่ที่รัฐบาลและนายกฯ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ     

เมื่อถามย้ำว่า หากพ้นวันที่ 11 พ.ค.ไปแล้ว สว.ชุดเดิมจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกนายกฯ แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีอำนาจเลือกนายกฯ แต่เรื่องอื่นยังมีอำนาจอยู่จนกว่าจะมี สว.ชุดอื่นเข้ามา คาดว่าจะใช้เวลา 2 เดือน

เมื่อถามถึงปี 2567 รัฐบาลจะเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากไม่ผ่านสภาฯ นายกฯ ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ถ้าไม่ผ่านสภาฯ วาระที่ 1 เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ด้วยการยุบสภาฯ หรือลาออก แต่ถ้าไม่ผ่านในวาระ 2 หรือ 3 หรือในชั้น สว.ไม่เป็นไร เพราะถ้าสภาฯ รับหลักการวาระหนึ่งแล้ว กฎหมายนั้นก็ถือเป็นกฎหมายของสภาฯ เพราะมีการไปแก้ไขแล้ว หลังจากนั้นจะผ่านไม่ผ่านก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่ช่วงวาระหนึ่งถือเป็นเรื่องของรัฐบาลที่เสนอเข้าไป ถ้าไม่ผ่านก็เท่ากับไม่ไว้ใจรัฐบาล เรื่องนี้ไม่มีกฎหมายบังคับ แต่ธรรมเนียมปฏิบัติเป็นเช่นน้ัน ขณะที่วาระ 2 วาระ 3 ไม่มีธรรมเนียมด้วยซ้ำไป

เมื่อถามย้ำว่า หากกฎหมายไม่ผ่านตั้งแต่วาระหนึ่งก่อนรับหลักการ นายกฯ ไม่ลาออกได้หรือไม่เพราะไม่มีกฎหมายบังคับ นายวิษณุกล่าวว่า มันเป็นธรรมเนียมประเพณี มิเช่นนั้นจะถูกตำหนิ เช่นสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม กฎหมายไม่ผ่านก็ลาออก สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กฎหมายไม่ผ่านก็ยุบสภาฯ ในอังกฤษในญี่ปุ่นก็เป็นเช่นนั้น เป็นธรรมเนียมไม่ได้เขียนเป็นกฎหมายไว้ที่ไหน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปิยบุตร' ดักคอพรรคจ้องดูด สส.งูเห่า เอาไปก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อเสถียรภาพรัฐบาล

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ สัดส่วนพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมนัดแรก