“ภูมิธรรม” ยันที่มา ส.ส.ร. จากการเลือกตั้ง ปชช. แต่ต้องคำนึงถึงความแตกต่างและคนส่วนน้อยด้วย เล็งเคาะก่อนชงเข้า ครม.อังคารนี้ "นิกร" โต้ "พริษฐ์" บอกไม่ต้องกังวล 100 คนมาจาก ปชช.ล้วนๆ ไม่มีแต่งตั้ง แต่กลุ่มหลากหลาย 23 คนมาจากทางอ้อมที่เลือกกันเอง "พริษฐ์" ยันต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด กังวล สว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมีสิทธิเลือก ส.ส.ร.ด้วย แนะจัดเลือกตั้ง 3 ประเภท หากยังเห็นต่างควรถาม ปชช. ในคำถามรองทำประชามติ
เมื่อวันอาทิตย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล เสนอให้มีการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทั้งหมด 100% ว่า ที่มาของ ส.ส.ร.เป็นเรื่องที่เราไปรับฟังความคิดเห็นมา และที่ผ่านมาได้มีการประชุมกับทุกภาคส่วน โดยมีตัวแทนวิชาชีพต่างๆ เข้าร่วม ได้เสนอว่า หากต้องไปเลือกตั้ง อาจจะสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็จำเป็นว่าอยากให้มีตัวแทนจากหลายวิชาชีพเข้ามา ทั้งเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน ผู้พิการ รวมทั้งวิชาชีพต่างๆ ซึ่งเห็นว่าเป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง แม้การเลือกตั้ง 100% เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย แต่จะทำให้คนที่อยู่ในการเมืองประสบความสำเร็จอยู่ฝ่ายเดียว
"เรายินดีที่จะมี ส.ส.ร.จากประชาชน แต่กลไกที่ได้มาจะ 100% หรือไม่ จะต้องคำนึงถึงความแตกต่าง และคำนึงถึงคนส่วนน้อยด้วย โดยทั้งหมดจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 25 ธ.ค. และจะสรุปเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง โดยคาดว่าภายในไตรมาสแรกของเดือนมกราคม 2567 น่าจะผ่าน ครม. หลายๆ เรื่องคงจะจบและได้ข้อยุติ ซึ่งถ้าทำได้เร็วกว่านี้อาจจะได้ข้อยุติและดำเนินการได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้าเลย"
นายภูมิธรรมกล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นก็ยังไม่เป็นเอกภาพ ยังมีหลายความเห็น แต่ก็เห็นว่าการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน 77 จังหวัด ก็ถือว่าเป็นเหตุผล ส่วนตัวแทนวิชาชีพก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่ามีมากน้อยขนาดไหน อาจจะมี 23 คน ครบ 100 คน หรืออาจจะมีส่วนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องของกรรมการจะต้องไปตรวจสอบและพิจารณาแต่งตั้ง โดยการเสนอข้อมูลให้รัฐบาลจะเสนอทั้ง 2 ด้าน
สำหรับขั้นตอนการทำประชามติ ยังยืนยันที่ 3 ครั้งหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า การทำประชามติ 3 ครั้ง ก็เป็นหลักประกันที่ทำให้รัฐธรรมนูญผ่านได้โดยไม่ตก แต่ก็มีปัญหาว่า การใช้จำนวนครั้งที่มาก ก็มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งถ้าลดจำนวนลงก็ดี โดยขณะนี้กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ และหาทางเจรจากับทาง กกต. ว่าถ้าสามารถรวมกับการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้ได้ ก็จะลดงบประมาณลง
ส่วนข้อเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยทำประชามติแค่ครั้งเดียว จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เกรงว่าจะมีปัญหาว่าตนดึงเรื่องและทำให้ทุกอย่างล่าช้า ซึ่งมีเหตุผลและมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ได้ทั้งนั้น ดังนั้นวันนี้จะดูให้ครบส่วน และจัดการให้ดีที่สุด โดยจะอยู่ในเงื่อนไขที่วางเอาไว้ตั้งแต่ตั้ง ครม.คือ จะไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และเป็นรัฐธรรมนูญที่ต้องผ่านให้ได้ ภายใน 4 ปีต้องจบ และมีกฎหมายลูกให้เสร็จ พร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ในกติกาใหม่ทันที
นายนิกร จำนง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทําประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อข้อเสนอที่มาของ ส.ส.ร. ควรมาจากการการเลือกตั้งทั้งหมด 100% ว่า ทางคณะอนุฯ เราเห็นว่าการได้มาของ ส.ส.ร.ที่เราเสนอก็มาจากประชาชนทั้งหมดด้วยเช่นกัน คือตัวแทนของ 77 จังหวัด ซึ่งเป็นส่วนมากนั้น จากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน กลุ่มหลากหลายของประชาชน 5 กลุ่ม กลุ่มนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นส่วนน้อยแค่ 23 คน ก็มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมจากในกลุ่มของเขาเองกลุ่มละจำนวนหนึ่ง แล้วให้รัฐสภาซึ่งในขณะนั้นก็เป็น สส.ที่มาจากประชาชนโดยตรง และ สว.ที่มาจากการเลือกตั้งจากกลุ่มอาชีพของประชาชนเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่ สว.ชุดปัจจุบันที่ส่วนใหญ่มาจากการแต่งตั้งพิจารณา
"ดังนั้น ส.ส.ร.ส่วนที่คุณพริษฐ์เป็นกังวลก็มาจากประชาชนล้วนๆ เช่นกัน มิได้มาจากรัฐบาลแต่งตั้งขึ้นแต่อย่างใด ที่สำคัญมากของการให้ฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามามีส่วนในการร่วมพิจารณา ส.ส.ร.โดยอ้อมด้วยในส่วนน้อยก็เพื่อยึดโยงกับรัฐสภา ป้องกันการถูกร้องว่าไม่ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปี 2564 ที่ได้กำหนดว่า "รัฐสภามีหน้าที่ และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่" อันเป็นแนวทางเพื่อไปสู่การดำเนินการให้สัมฤทธิผล"
นายนิกรระบุว่า การนำเสนอกรอบที่มาของ ส.ส.ร.นี้ยังไม่ถือเป็นที่สุดในชั้นนี้ ต้องรอให้คณะกรรมการชุดใหญ่โดยนายภูมิธรรมพิจารณาแล้วเสนอต่อ ครม. เพื่อนำรอไปบรรจุในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ถ้าประชามติของประชาชนเห็นชอบให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายร่างแก้ไขนั้น ก็จะไปยุติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ที่น่าจะมีนายพริษฐ์ และพรรคก้าวไกลอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน จึงยังจะมีทางเดินเพื่อการปรับปรุงแก้ไขที่ยาวไกลอยู่พอสมควร จึงอยากขอให้ช่วยประคับประคองกัน
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องเดียวกันว่า การเลือก ส.ส.ร.โดยตรงทั้งหมดก็มีทั้งข้อดีและมีข้อจำกัด เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตัวแทนทั้งหมดจะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือไม่ และกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ดังนั้น การมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือทางเลือกที่มีส่วนผสมมาจากการเลือกตั้งและการคัดสรรด้วย จะเป็นสูตรที่มีข้อเสียน้อยกว่า เพราะได้ตัวแทนที่มาจากประชาชน และคนที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้นๆ มาร่วมกันกลั่นกรองเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริงอีกครั้ง
"ดิฉันเห็นด้วยกับแนวทางของนายนิกร ด้วยหลักการคือควรให้ ส.ส.ร.มีสัดส่วนผสมระหว่างคนที่มีความเชี่ยวชาญส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน แต่จำนวนของ ส.ส.ร.จะเป็นเท่าไหร่นั้น ในส่วนนี้ก็จะต้องเป็นข้อถกเถียงที่เข้าไปสู่สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ว่าในแต่ละสัดส่วนควรมีจำนวนเท่าไหร่ หากผลของประชามติผ่านแล้วว่าให้มี ส.ส.ร.ในการร่างรัฐธรรมนูญ" น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าว
ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันเหมือนเดิมว่า หากเราต้องการการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มีความชอบธรรม มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ส.ส.ร.ก็ควรมาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ การที่จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาจากประชาชนอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด คือมาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้มีข้อกังวลที่จำกัดเพียงว่า ส.ส.ร.บางส่วน จะมาจากการแต่งตั้งหรือการคัดเลือกของรัฐบาลเท่านั้น แต่หากมาจากการแต่งตั้งของรัฐสภาส่วนหนึ่ง คือสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถึงแม้จะไม่ใช่ สว. 250 คนในชุดปัจจุบัน ที่ถูกแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ สว.อีก 200 คนในชุดถัดไปก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่เป็นวิธีการให้ผู้สมัครคัดเลือกกันเอง หากนายนิกรพยายามจะชี้แจงว่า ส.ส.ร.ไม่ได้มาจากการแต่งตั้งของรัฐบาล แต่มาจากการแต่งตั้งของรัฐสภา เราก็ยังมีความกังวลอยู่ดี
นายพริษฐ์กล่าวว่า เราสามารถออกแบบระบบเลือกตั้งที่เปิดพื้นที่ให้กับคนกลุ่มต่างๆ ได้ โดยยังคงหลักการว่า ให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งมีหลายทางเลือก แต่อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้ระบบเลือกตั้งที่ประชาชนมีบัตรเลือกตั้ง 3 ใบ เพื่อเลือกตั้ง ส.ส.ร.ทั้ง 3 ประเภท 3 ใบเลือกตั้ง ประเภทที่ 1 ส.ส.ร. การเลือกตั้งตัวแทนพื้นที่ โดยกำหนดได้ว่าจะใช้อะไรเป็นเขตเลือกตั้ง ประเภทที่ 2 ส.ส.ร.ที่เป็นตัวแทนผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์ หรือฝ่ายวิชาการ ประเภทที่ 3 การเลือกตั้ง ส.ส.ร.ประเภทตัวแทนกลุ่มความหลากหลาย วิธีนี้จะทำให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด จึงย้ำว่าไม่ควรใช้เหตุผลว่า ส.ส.ร.ต้องมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญผู้มีประสบการณ์ หรือกลุ่มผู้มีความหลากหลายมาเป็นข้ออ้างว่า ส.ส.ร.จะมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้
"แต่หากเรายังเห็นต่างกันจริงๆ ในเรื่องนี้ เราเสนอว่าควรให้ประเด็นนี้เป็นหนึ่งในคำถามรองที่ถูกถามในการจัดทำประชามติครั้งแรก นอกเหนือจากคำถามหลัก หากประชาชนลงความเห็นไปในทิศทางใดผ่านการทำประชามติ เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาทุกคนก็พร้อมเดินหน้าต่อตามเสียงของประชาชน" นายพริษฐ์ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ
“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป
ล่า ‘หมอบุญ’ เมียแค้นเอาคืน
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวก 9 คน ร่วมหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนธุรกิจ รพ.ขนาดใหญ่หลายโครงการ เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท
บี้ MOU44 เดือด ‘นพดล’ เกทับ! จบออกซ์ฟอร์ด
ปะทะคารมเดือด! “นพดล” โต้ “หมอวรงค์” หาความรู้เรื่องเอ็มโอยู 44 ให้ลึกซึ้ง โต้คนอย่างตนไม่ตอบมั่วๆ เพราะจบกฎหมายจากออกซ์ฟอร์ดและจบเนติบัณฑิตไทยและเนติบัณฑิตอังกฤษ
ลุ้นระทึก! เลือก ‘อบจ.’ 3 จว. ‘กกต.’ จับตาที่อุดรฯแข่งดุ
“เลขาฯ แสวง” มั่นใจเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี แข่งขันสูงไม่ใช่ปัญหา แต่ช่วยกระตุ้นประชาชนออกมาใช้สิทธิ เผยมีเรื่องร้องเรียน 2 เรื่อง ใส่ร้ายระหว่างผู้สมัคร เร่งตรวจสอบ
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี