"ภูมิธรรม-วรชัย" ประสานเสียงป้อง "ทักษิณ" บอกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ขอใจกว้างอย่ามองเป็นเรื่องการเมือง หวั่นกลับไปสู่ความขัดแย้งเดิม ยันคนวัยนี้ป่วยเรื่องปกติ นอน รพ. 120 วันอยู่ในดุลยพินิจแพทย์ "ทนายแม้ว" ขู่ฟ้อง! พวกล้ำเส้นเรียกร้องเปิดข้อมูลส่วนตัว แถมใส่ร้ายไม่ได้ป่วยจริง "แกนนำคปท." ท้าฟ้องมาเลย ลั่นอย่าใช้กระบวนการยุติธรรมขู่คนอื่น "ชลธิชา" จี้ถามสิทธิพิเศษคุมขังทักษิณ "ทวี" ยันชั้น 14 ไม่ใช่วีไอพี ปัดไร้อำนาจอนุญาต น.ช.แม้วนอน รพ. อยู่ที่อธิบดีราชทัณฑ์ "กมธ.ตำรวจ" เอาแน่บุกชั้น 14 พิสูจน์ข้อเท็จจริง "วัชระ" ระบุหมอรับเองกล้องวงจรปิด รพ.ตำรวจเสียทุกตัว
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีครบ 120 วัน การรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่โรงพยาบาลตำรวจว่า หลังจากนี้แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงกรมราชทัณฑ์ที่คุมขังนักโทษที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จะลงความเห็นว่าจะสามารถรักษาตัวต่อได้หรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะมีแนวทางการรักษา มาตรการอย่างไร แต่ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการและระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะเรื่องการที่จะให้นักโทษที่ไม่มีความรุนแรงหรือเวลาที่ออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ซึ่งระเบียบนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น เพราะในเรือนจำมีความแออัดเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 60 ซึ่งอยากให้นักโทษได้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่แออัด แต่ต้องมีระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ
"เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ เพราะนายทักษิณเข้ามาตามกระบวนการ และคำพิพากษาเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม การเจ็บป่วยมีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็มีหน้าที่ดูแลอยู่ ขอยืนยันว่าไม่มีใครไปเกี่ยวข้องหรือแทรกแซง ไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งนายทักษิณอายุ 70 กว่าปีแล้ว ขนาดผมยังเพิ่งไปรักษาตัว เพราะคนวัยนี้ต่างเจ็บป่วย จะมากจะน้อยก็แตกต่างกันไป อยากให้นำเรื่องนี้ออกจากทางการเมืองบ้าง เพราะหากนำทุกเรื่องไปยุ่งการเมือง ประเทศนี้จะเดินไปไม่ได้" นายภูมิธรรมกล่าว
ถามว่า สังคมเกิดข้อกังขาเป็นสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของสองมาตรฐาน วันนี้นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการเหมือนกับประชาชนทั่วไป ที่เป็นนักโทษชายหรือนักโทษหญิง ยืนยันอีกครั้งว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้ออกมาเพื่อนายทักษิณ แต่ออกมาเพื่อประชาชนและการจัดระเบียบ ในเรือนจำที่มีความแออัด อยากให้เข้าไปดูว่าตอนนี้จะสร้างมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ ดังนั้นกระบวนการของกรมราชทัณฑ์มีระเบียบพิจารณาให้กับนักโทษที่อยู่นาน และมีความประพฤติดี เหลืออายุการต้องโทษอีกไม่มาก อยากให้มาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ซึ่งเป็นหลักสากลที่ต่างประเทศก็มีความคิดเช่นนี้ ประเทศไทยควรมีความคิดเหมือนกัน วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและระเบียบ ไม่อยากให้นำไปเป็นปัญหาทางการเมือง
"หากคิดว่าทุกอย่างการเมือง ประเทศไม่สงบสุขหรอกครับ เราหลุดพ้นจากความขัดแย้งมาเยอะแล้ว ก็อยากให้ใจกว้าง อยากให้เชื่อมั่นในกระบวนการของแพทย์ ที่จะต้องวินิจฉัยอย่างดีที่สุด อยากให้หลีกห่างจากความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าได้" นายภูมิธรรมกล่าว
นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทุกคนจ้องไปที่นายกฯ ทักษิณ เพราะนายกฯ ทักษิณกลับเข้ามาในประเทศแล้วยอมรับเงื่อนไขของกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ เมื่อท่านไม่สบายก็จำเป็นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ทุกอย่างเป็นตามกระบวนการ ถึงอย่างไรเราต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ที่ถูกกระทำจากการยึดอำนาจ แล้วมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาเพื่อจัดการกับนายทักษิณโดยเฉพาะ
ทนายแม้วขู่ฟ้องพวกล้ำเส้น
นายวรชัยกล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมขั้นต้นเกิดจากการยึดอำนาจ จึงไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ต้น นำไปสู่คดีความที่ศาลตัดสินคดี วันนี้ทุกคนได้รู้แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นประเทศชาติไม่ได้เสียหาย จึงต้องขอความเป็นธรรมให้นายกฯ ทักษิณด้วย เพราะท่านถือเป็นอดีตนายกฯ ที่ทำให้ประเทศไทยที่อยู่ในสถานะประเทศที่ต้องกู้เงิน กลับมาชำระหนี้หมดสิ้น ทำงบประมาณสมดุลได้สำเร็จ ทำให้คนไทยมีศักดิ์ศรี
"อยากให้คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีนายกฯ ทักษิณ ตั้งสติว่าสิ่งที่กระทำอยู่จะนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่เหมือนในอดีตที่มีการปลุกระดมประชาชนให้ขัดแย้งแล้วนำไปสู่การยึดอำนาจในปี 2549 รวมถึงปี 2557 ที่ประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรมถูกใส่สีตีความจนเกิดการยึดอำนาจถึง 2 ครั้ง ในเวลาไม่ถึง 10 ปี วันนี้ประเทศชาติอยู่ในรูปในรอย มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์ที่สุด แตกต่างจาก 9 ปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันรักษาสิ่งนี้เอาไว้ ไม่พอใจอะไรก็ให้กระบวนการในสภามันเดินไป อย่าขยายความขัดแย้งให้บานปลายจนประเทศกลับไปสู่วังวนเดิม" ที่ปรึกษารองนายกฯ กล่าว
ขณะที่ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า อย่าล้ำเส้น ผู้ใดเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยการอ้างข่าวลือให้ร้ายนายทักษิณ ชินวัตร ว่าไม่ได้ป่วยจริง ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือเป็นอภิสิทธิ์ชน ทั้งกล่าวหาพาดพิงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการกล่าวใส่ความ ยุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
นายวิญญัติกล่าวว่า การอ้างข้อเท็จจริงเลื่อนลอยให้สังคมหรือประชาชนเกิดความสับสน โดยไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง หรืออ้างว่ามีหน้าที่ แต่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นโดยจงใจ หรือมุ่งหวังกระแสสังคมให้คิดลบหรืออาศัยสถานะของตนที่มีช่องทางสื่อสาร สัมภาษณ์ต่อสาธารณะโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ทำให้เสื่อมเสียต่อ ชื่อเสียง เกียรติยศ นั่นคือเจตนากระทำความผิดต่อกฎหมาย
"อนึ่ง ภายใต้เงื่อนไขสำคัญและภายใต้อายุความ จึงจำเป็นที่ต้องใช้สิทธิ์ดำเนินคดีกับผู้ใดก็ตาม ที่กระทำการละเมิดสิทธิของนายทักษิณ ชินวัตร" ทนายความประจำตัวนายทักษิณกล่าว
ช่วงท้ายนายวิญญัติระบุหมายเหตุว่า ในฐานะทนายความ เมื่อพบเห็นการกระทำใดหรือความพยายามใช้สิทธิที่เข้าข่ายเจตนากระทำละเมิดสิทธิของลูกความ จึงเป็นธรรมดาที่ต้องปกป้องสิทธิใดๆ ตามครรลองและตามกฎหมาย
ด้านนายพิชิต ไชยมงคล ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายวิญญัติ ทนายความประจำตัวนายทักษิณว่า ฟ้องมาเลย ผมชื่อนายพิชิต ไชยมงคล ฟ้องมาเลยครับ รีบฟ้อง จะได้เรียกเอกสารทางการแพทย์มาตรวจเสียที อย่ามาขู่กัน ไม่มีใครกลัวหรอก คนที่สู้นะเขาเคารพกระบวนการยุติธรรม ใครเขาไปละเมิดสิทธิเทวดา มีแต่นักโทษเทวดานั่นละที่ได้รับการเอื้อสิทธิเหนือนักโทษคนอื่น
"ฟ้องมาฟ้องกลับไม่มีโกง อย่ามาใช้กระบวนการยุติธรรมมาขู่คนอื่น ทั้งที่นายใหญ่พวกคุณลอยตัวหนีเรือนจำ ทำลายกระบวนการยุติธรรม พวกคุณร่วมกันเป็นขบวนการใช่ไหม รักษาการนายกฯ ภูมิธรรม ก็ออกมาฟอกขาวให้นักโทษ โดยอ้างแก่และป่วย ป่วยอะไร 120 วันไม่หาย นี่เป็นสิ่งที่สังคมเขาถาม ที่บอกว่าอย่าเอาการเมืองมาปนนั้น พวกคุณต่างหากเอาการเมืองมาพา น.ช.ทักษิณ หนีเรือนจำ" นายพิชิตกล่าว
ตัวแทน คปท.กล่าวว่า รัฐบาลจะอธิบายอย่างไร วันแรกเข้าเรือนจำก็ถูกพาตัวออกมานอกเรือนจำเลย
ประชาชนเขาถามไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่มันคือข้อเท็จจริง ที่พวกคุณร่วมกันปกปิด วันก่อนคุณภูมิธรรมบอกไม่รู้เรื่อง น.ช.ทักษิณ อยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ วันนี้มาบอก น.ช.ทักษิณป่วย เข้ากระบวนการรักษา ใครเอาการเมืองมาปนความยุติธรรมกันแน่
"สรุปแล้วรัฐบาลเศรษฐาปกป้องและเอื้ออภิสิทธิ์เป็นการพิเศษให้ น.ช.ทักษิณ ใช่ไหมครับ ตอบมาตรงๆ เถอะว่า น.ช.ทักษิณใหญ่กว่ารัฐบาลเศรษฐา ตอบมาตรงๆ เถอะว่าที่เศรษฐาพักร้อนเพื่อให้ภูมิธรรมจัดการพานายใหญ่กลับจันทร์ส่องหล้า" ตัวแทน คปท.ระบุ
ชลธิชาจี้ปมนักโทษเทวดา
ส่วนนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุกรณีนายทักษิณเข้าเกณฑ์ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ว่า สิ่งที่นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์นั้นไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของสังคมที่ทราบข้อเท็จจริง รายละเอียดดีว่านายทักษิณจะได้รับประโยชน์จากระเบียบนี้ด้วย ส่วนใครจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นการดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์นั้นก็มีสิทธิพูดได้ แต่กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา คือการกระทำที่แสดงออกมาภายนอกเป็นเครื่องชี้ถึงสภาพจิตใจของผู้กระทำทุกคนว่าที่ร่วมกันมีเจตนาทำเพื่อใคร
“เรื่องของนายทักษิณเห็นชัดว่าคือความอยุติธรรมในรัฐบาลนี้ ทุจริตคอร์รัปชันวันเวลาติดคุก อ้างหลักนิติธรรมจอมปลอม แล้วประชาชนจะไปหวังอะไร” โฆษกพรรค ปชป.กล่าว
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.การคลังว่า เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา นายเศรษฐาให้คำมั่นสัญญาต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ว่าจะสร้างความเข้มแข็งให้กับหลักนิติธรรม และหลักประกันว่ากฎหมายจะเป็นธรรม บังคับใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาค จึงอยากถามถึงความเป็นธรรมและการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ต้องขัง รวมทั้งสิทธิในการรับการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง เพราะผู้ต้องขังทุกคนต้องมีสิทธิ์เข้าถึงสถานพยาบาลอย่างเหมาะสม กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็เช่นเดียวกัน และกรมราชทัณฑ์ จะมีการเกณฑ์พิจารณาการให้สิทธิ์ผู้ต้องขังออกไปรับการรักษาพยบาลด้านนอกอย่างไร เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสงสัย
น.ส.ชลธิชากล่าวว่า กรณีของนายทักษิณ ทำให้สังคมตั้งคำถาม และขอให้ชี้แจง แสดงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความจำเป็นที่นายทักษิณต้องพักรักษาตัวในห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่เป็นชั้นวีไอพี มีความเหมาะสมและจำเป็นอย่างไร เพราะตามเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ห้ามแยกผู้ต้องขังอยู่ห้องพิเศษแยกออกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเลือกปฏิบัติผู้ต้องขังที่ร่ำรวย รวมถึงการออกระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์ให้คุมขังนอกเรือนจำได้ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณหรือไม่ คดีใดบ้างจะเข้าตามระเบียบใหม่
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงแทนนายเศรษฐาว่า กรณีนายทักษิณที่ทุกฝ่ายเรียกร้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ทราบว่าพักรักษาตัวนอกเรือนจำครบ 120 วัน ซึ่งตนจะพูดเฉพาะข้อเท็จจริงที่ได้รับเป็นเอกสารเท่านั้น เพราะหากพูดเกินไปจะถูกมองว่าเป็นศรีธนญชัย ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้รับเอกสารใดๆ ทั้งนี้ รับทราบจากอธิบดีราชทัณฑ์ว่าวันที่ 21 ธ.ค. จะส่งรายงานมายังตน และตนมีหน้าที่เพียงรับทราบ แต่ไม่ใช่ผู้อนุมัติ
“ผมทราบว่ามีตัวแทนของหมอ รพ.ตำรวจเข้าชี้แจงต่อ กมธ.การตำรวจ และผมได้พูดคุยว่าเรือนจำคือที่คุมขังผู้ต้องขัง และสิ่งที่ต่อเนื่องตามกฎหมายถือว่าออกไปไหนไม่ได้ และมีผู้ควบคุม ไม่มีใครเยี่ยมได้ ซึ่งเป็นระเบียบเดียวกันกับเรือนจำ ผมถามหมอตรงๆ ท่านยืนยันว่านายทักษิณป่วยจริง มีหลักฐานตามที่ปรากฏจริง และจากรายงานจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำ พบว่าผู้ป่วยเป็นหลายโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง และเป็นความเห็นของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่ยืนยันว่าป่วยจริง”พ.ต.อ.ทวีกล่าว
รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า สำหรับระเบียบราชทัณฑ์เป็นเกณฑ์ปกติ ไม่ใช่เฉพาะนายทักษิณ ซึ่งออกระเบียบแล้วไม่ใช่จะจบเรื่อง เพราะต้องเข้าประชุมกรรมการ ที่จะประชุมต้นเดือน ม.ค.67 ที่มีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกร่วมด้วย และขณะนี้ตนเตรียมออกระเบียบอีกฉบับให้การคุมขังนอกเรือนจำครอบคลุมผู้ที่อยู่ระหว่างสอบสวนด้วย โดยให้ศาลพิจารณา
“ตามรายงานที่ปรากฏมาให้ผม ชั้น 14 ไม่ใช่ชั้นพิเศษ และผมยังพบผู้ใหญ่บางคนไปเยี่ยมญาติที่ชั้น 14 เหมือนกัน แต่เป็นคนละส่วนกัน แต่การรักษาความปลอดภัยมีตามระบบของราชทัณฑ์ ส่วนเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพ เรื่องอาการป่วย ไม่สามารถให้ได้ เพราะตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ จะต้องเป็นความลับ และรายละเอียดอื่นจะมอบให้” รมว.ยุติธรรมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชี้แจงของพ.ต.อ.ทวี บางช่วงเป็นไปอย่างตะกุกตะกัก และบางคำชี้แจงยังพบเป็นประเด็นวนเวียนและอ้ำอึ้ง โดยเฉพาะในส่วนอาการป่วยของนายทักษิณและหลักเกณฑ์คุมขังนอกเรือนจำ
กมธ.ตีฆ้องบุก รพ.ตร. 12 ม.ค.
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมาธิการการตำรวจ ที่มีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. ในฐานะประธานคณะ กมธ. เป็นประธาน พิจารณาวาระคำร้องของนายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรค ปชป. ที่ขอให้ทาง กมธ.ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายทักษิณรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ โดยได้เชิญ พ.ต.อ.ทวีมาชี้แจง ซึ่ง พ.ต.อ.ทวีได้มอบหมายให้นายสิทธิ สุทธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชฑัณฑ์ เป็นผู้มาชี้แจงแทน รวมทั้งยังมี พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์ (สบ 7) โรงพยาบาลตำรวจ และนายวัชระในฐานะผู้ร้องเข้าชี้แจงด้วย
ต่อมานายชัยชนะแถลงผลการประชุมว่า ในที่ประชุมได้ข้อสรุป 1.เรื่องการวินิจฉัยให้นายทักษิณรักษาตัวที่โรงพยาบาลใดนั้น เป็นความเห็นของแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า มีอาการป่วยอะไรบ้าง อย่างโรคไวรัสตับอักเสบบี และนายทักษิณมีอาการแน่นหน้าอกช่วงกลางดึก ซึ่งเป็นผลมาจากที่นายทักษิณเคยติดโควิดมาก่อน ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับปอด แพทย์ จึงมีความเห็นว่า ให้ส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
2.เงินที่ใช้รักษาตัวนายทักษิณนั้น เป็นการใช้สิทธิตามสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์แจ้งว่า หากใช้เกินสิทธิ์ที่ สปสช. กำหนด ผู้ต้องขังมีสิทธิจ่ายเงินส่วนต่างได้ ตนจึงถามกลับไปว่า มีระเบียบข้อไหนที่ระบุว่า สามารถดำเนินการเช่นนี้ได้ ก็ขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งเอกสารกลับมายัง กมธ.
3.ขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งเอกสารข้อมูล ภาพถ่ายผู้คุมที่ปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่นายทักษิณออกจากเรือนจำกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งการผลัดเปลี่ยนเวรต่างๆ ว่ามีจำนวนผู้คุมเท่าไหร่
4.ทางกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงกับ กมธ.ว่า ให้ดูใบกรอกประวัติอิเล็กทรอนิกส์ว่า นายทักษิณได้กรอกข้อมูลเบื้องต้น ก่อนเข้ารับโทษ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อย่างถูกต้องเรียบร้อย แต่ทางผู้ร้องได้ระบุว่า ให้นำใบกรอกกระดาษ ท.ร.101 มาด้วย ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ก็จะรวบรวมส่งเอกสารให้เราต่อไป 5.ทาง กมธ.มีมติว่า จะเดินทางไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ในเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ม.ค.2567 ก่อนวันเด็กแห่งชาติเพียง 1 วัน แต่หากในวันนั้นตรงกับการประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน
นายวัชระให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงเรื่องกล้องวงจรปิดใน รพ.ตำรวจเสียทุกตัวว่า ได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.สามารถ แพทย์ (สบ 7) รพ.ตำรวจว่าเป็นเรื่องจริง และกล้องเสียมานานหลายปีแล้ว ทาง สส.ที่เป็น กมธ.จึงรับปากจะช่วยแปรญัตติของบประมาณในส่วนนี้ให้กับ รพ.ตำรวจด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้
สจ.จอยประกาศไม่เผาศพ!
7 ผู้ต้องหาคดียิง "สจ.โต้ง" คอตกเข้าคุกเรียบร้อย
กกต.ย้ำ1ก.พ.เลือก47อบจ. พท.จ่อเคาะชื่อเก้าอี้โคราช
กกต.ย้ำเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด 1 ก.พ.2568
พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี
"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล
รมช.คลังตอบชัด ปฏิรูประบบภาษี ศึกษาไร้ทิศทาง
เก้าอี้ดนตรี! "ศิริกัญญา" ตั้งกระทู้ถามปฏิรูประบบภาษีให้ "นายกฯ" ตอบ แต่ "อุ๊งอิ๊ง" ส่ง "รมว.คลัง" ตอบแทน