ย้ำ3-5มค.ถกงบฯ67 ชัยธวัชบี้ส่งเอกสาร

นายกฯ คัมแบ็กทำเนียบฯ  บ่ายวันศุกร์ ก่อนช่วงค่ำชมมวยคู่บิ๊กแมตช์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย “พีระพันธุ์” เมิน “สุริยะ” ผุดไอเดียขึ้นภาษีเบนซินคนกรุง ชี้มีวิธีอื่นอีกเยอะ วิป 4 ฝ่ายปัดตกข้อเสนอก้าวไกลเคาะถกงบ 67 ตามเดิม 3-5 ม.ค. "ชัยธวัช" โวยรัฐบาลส่งเอกสารช้าเลี่ยงตรวจสอบ “เฉลิมชัย” โว ปชป.มีเอกภาพ เลิกจำศีล ตั้ง “ดร.เอ้” คุมศูนย์พีอาร์เปิดช่องทางสื่อสารประชาชน "เดชอิศม์" ลั่น 3 เดือน เพิ่มสมาชิกหมื่นคน

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ลาราชการและจะกลับมาทำงานในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ช่วงบ่าย จากนั้นเวลา 20.30 น. นายกฯ เดินทางร่วมชมการแข่งขันศึก ONE ลุมพินี 46 ที่ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี) รามอินทรา ส่วนในวันที่ 23 ธ.ค. นายกฯ มีภารกิจเดินทางไป จ.น่าน ลงพื้นที่พบปะประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดการวันที่ 22 ธ.ค.​ จะไปชมมวย “ศึก ONE ลุมพินี 46” ตามคำเชิญนายพิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา โดย “ศึก ONE ลุมพินี 46” ถือเป็นปรากฏการณ์ซอฟต์พาวเวอร์ของมวยไทย เพราะได้เปลี่ยนโฉมวงการมวยในสายตาชาวโลก และเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไปสู่ผู้ชมทั่วโลกทุกคืนวันศุกร์ โดยในเวลา 20.30 น. จะรับชมการชกของมวยคู่เอก ตะวันฉาย VS ซุปเปอร์บอน ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เตรียมหารือร่วมกับกระทรวงพลังงานเพื่อจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วม โดยมีแนวคิดว่าปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินในปั๊มน้ำมันในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เพื่อจูงใจให้ประชาชนมาใช้รถไฟฟ้าว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่การมาจูงใจให้คนใช้รถไฟฟ้ามีมาตรการอื่นอีกตั้งเยอะ และเรื่องนี้มันก็จะเป็นการไปสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนอีก ซึ่งรัฐบาลเป็นกังวลอยู่แล้ว แต่หารือกันได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การขึ้นภาษีน้ำมันเบนซินเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑล สามารถทำได้หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า “การขึ้นภาษีอยู่ที่รัฐบาล แต่สำหรับผม ผมคงไม่ขึ้นหรอกครับ เพราะตอนนี้มาตรการของเราคือจะให้ลด ไม่ได้ให้ขึ้น และตอนนี้ยังไม่ได้มีการประสานที่จะหารือมา”

เมื่อถามย้ำว่า การขึ้นภาษีน้ำมันเบนซินเฉพาะ กทม.และปริมณฑล อาจทำให้คน กทม.และปริมณฑลไม่พอใจ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ต้องไปถามนายสุริยะ เพราะตนไม่ได้เป็นต้นเรื่องในเรื่องนี้ 

นายพีระพันธุ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประกาศจะตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น หลังได้รับโปรดเกล้าฯ  เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นเรื่องปกติ ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบเข้มข้นทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด ถ้าบอกว่าไม่ตรวจสอบเลยถึงจะประหลาด ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระแรกในวันที่ 3-5 ม.ค.67 นั้น ควรจะรีบจบให้เร็ว อะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดก็ทำตามนั้น เท่านั้นเอง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัชประกาศจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ภายหลังได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะการทำงานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องมีการทำงานทั้งของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ต้องขอขอบคุณนายชัยธวัช ที่แสดงจุดยืนเพื่อเป็นประโยชน์ของการทำงานในระบอบรัฐสภา เพราะบางครั้งข้อมูลที่มาถึงรัฐมนตรีจากฝ่ายปฏิบัติงานอาจถูกแปลงสารหรือมาไม่ครบถ้วนบ้าง ฉะนั้นการทำงานของฝ่ายค้านจะมีช่องทางที่ได้ข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์กับรัฐบาล

นายวราวุธกล่าวว่า หากเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไป 1 สัปดาห์ จะตรงกับช่วงวันเด็ก ซึ่งหน่วยราชการทุกหน่วยจะวุ่นวายในการจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ และงบประมาณปี 2567 มีความล่าช้ามากว่าครึ่งปีแล้ว แม้ล่าช้าออกไปอีก 7 วัน ดูเหมือนไม่เยอะ แต่มีความกังวลว่าจะทำให้กระทบการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการทำงานภายใต้กรอบงบประมาณปี 2567 และใกล้กับช่วงการตั้งงบประมาณปี 2568 ถ้าหากเป็นไปได้ควรจะเป็นช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. เพราะมีข้อจำกัดหลายประการ

เคาะถกงบ 67 หลังปีใหม่

ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2567 ว่า การที่ฝ่ายค้านเสนอให้เลื่อนการพิจารณาไปวันที่ 9-12 ม.ค. เพราะอยู่ในกรอบเวลาตามกฎหมายที่ดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้ไม่ได้เอกสารจากรัฐบาล โดยฝ่ายค้านอยากขอรายละเอียดเป็นแบบดิจิทัลก่อน เพื่อศึกษาว่าการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลสามารถตอบโจทย์กับนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชนหรือไม่ รวมถึงมีการฉวยโอกาสไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งการบรรจุทันทีในวันที่ 3-5 ม.ค. ฝ่ายค้านสร้างข้อสังเกตว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหรือไม่ เนื่องจากจนถึงวันนี้ยังไม่ได้เอกสารเลย และแจ้งว่าจะได้รับเอกสารเร็วสุดวันที่ 26 ธ.ค. ตรวจสอบข้อมูลซึ่งเหลือเวลาน้อยมากในการตรวจสอบข้อมูลและขอเอกสารเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะทำงานตรวจสอบอย่างเต็มที่ ส่วนการแบ่งประเด็นในการอภิปรายกับพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน อยู่ในระหว่างรอพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเพิ่งประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ครั้งแรก และต้องรอเอกสารงบประมาณก่อน ดังนั้น ช่วงนี้จึงเป็นการประสานงานภายใน และหลังจากปีใหม่จะมีการประชุมร่วมกันอย่างเป็นทางการ

ต่อมา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยผลการประชุมวิป 4 ฝ่ายว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน  รองประธานสภาฯ ได้ประชุมตัวแทน 4 ฝ่าย ได้แก่ วิปฝ่ายค้าน วิปรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้าน และตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการกำหนดวันพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 วาระแรก โดยที่ประชุมมีมติพิจารณาตามกำหนดเดิม คือระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.67 โดยรัฐบาลจะส่งร่างฯ ให้สภาภายในวันที่ 26 ธ.ค. ส่วนการแบ่งเวลาอภิปรายของแต่ละฝ่ายจะได้หารือเพื่อกำหนดต่อไป

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ นัดแรกว่า ได้แจ้งให้ กก.บห.ทราบว่าแนวทางขับเคลื่อนพรรค 3-6 เดือนแรก จะขับเคลื่อนรูปแบบใด ซึ่งในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ช่วงเดือน เม.ย.67 จะต้องทำให้คนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เช่น ข้อบังคับพรรคที่ล้าสมัย ไม่เปิดโอกาสให้คนนอกมีส่วนร่วม คนใหม่ๆ มีส่วนร่วมได้น้อย จึงมอบหมายให้ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรค ไปดูแลในเรื่องของการแก้ไขข้อบังคับพรรคในทุกประเด็นในสมบูรณ์ที่สุด แล้วให้นำเสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีเดือน เม.ย.

นอกจากนี้ เราจะมีการตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร โซเชียล เทคโนโลยีนวัตกรรม โดยใช้พื้นที่ในพรรค ซึ่งจะเป็นช่องทางในการสื่อสารกับสื่อมวลชน โดยจะมีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคภาค กทม. เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้เลขาธิการพรรคเป็นผู้ไปดำเนินการขับเคลื่อนพรรค ส่วนการขับเคลื่อนพรรคในแต่ละภูมิภาคได้มอบหมายให้รองหัวหน้าแต่ละภาคไปดำเนินการ โดยดูถึงการจัดทำแผน ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนพรรคในแต่ละภาค

ปชป.ลั่นเลิกจำศีลแล้ว

ส่วนขณะนี้ความเชื่อมั่นของพรรคประชาธิปัตย์ลดน้อยลง จะมีการเดินสายพบปะประชาชนเพื่อทำความเข้าใจหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาพรรคขับเคลื่อนไม่ได้ เพราะพรรคไม่มีเอกภาพ ฉะนั้นตลอดระยะเวลาหลังการเลือกตั้งทำให้คนมองว่าประชาธิปัตย์จะไปทิศทางไหน ใครจะมาเป็นหัวในการนำพาพรรคไป ทำให้พรรคนิ่งอยู่กับที่เหมือนกบจำศีล วันนี้ออกพรรษาแล้ว กบก็เลิกจำศีลแล้ว หลังจากนี้เป็นต้นไปคือการขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง

"ขอโอกาสและขอให้พวกเราช่วยกันจับตาดู ในขณะเดียวกันหลังจากตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ฯ ขึ้น ก็สามารถส่งความคิดเห็น ให้คำแนะนำมาที่ศูนย์ของเรา โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาต่อไป การขับเคลื่อนของพรรคประชาธิปัตย์จากนี้ จะเป็นการขับเคลื่อนโดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมากขึ้น ซึ่ง ดร.เอ้จะต้องทำแผนงานขึ้น ผมเองก็ยังไม่ค่อยคุ้น แต่นี่คือจุดของการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้” หัวหน้าพรรค ปชป.ระบุ

นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป. กล่าวถึงกำหนดระยะเวลาหรือแนวทางพิสูจน์ตัวเองว่า จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน คงต้องทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจจะไม่เปลี่ยนแบบ 360 องศา แต่อย่างน้อยสัก 90 องศา น่าจะเริ่มมองเห็น โดยคาดว่าจะต้องมีสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้น อาจจะเป็น 1-2 หมื่นคนภายในเวลา 3 เดือน เป็นแบบตลอดชีพ ซึ่งหลังจากเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่ ถือว่ามีการลาออกไปน้อยมาก มีเฉพาะคนที่ดังๆ ที่ออกมาในข่าว ไม่ถึงร้อย

"วันนี้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนในอนาคตผมจะไปพูดแทน สส.และ กก.บห.ของพรรคไม่ได้ จะเห็นได้ว่าในปี 62 ก็มีการพูดแทนทั้ง สส.และ กก.บห. สุดท้ายพอมีประชุมร่วม สส.และ กก.บห. กลายเป็นว่ามีมติร่วมรัฐบาล ฉะนั้นวันนี้จะเร็วเกินไปที่ผมจะพูดค้านหรือเข้าร่วม เพราะต้องคำนึงถึงสองส่วนนี้" นายเดชอิศม์ระบุ

สำหรับการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลนั้น ต้องคุยกัน เพราะเพิ่งได้หัวหน้าพรรค ซึ่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลยกหูมาคุยกับตน ซึ่งจะได้นัดคุยกันในทุกบทบาทช่วงหลังปีใหม่ พร้อมกับมั่นใจว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะมีบทบาทสำคัญอย่างแน่นอน  ตนได้ให้การบ้าน สส.ไปแล้ว.