นักเที่ยวเฮ! กฎหมายขยายเวลาสถานบริการเปิดถึงตี 4 มีผลแล้ว “อนุทิน” เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย บอกหากทำผิดก็ยกเลิกได้ อึ้ง! กทม.เผยมีร้านประกอบกิจการอยู่ 146 แห่งใน 3 โซนเท่านั้น
เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธ.ค.2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิด-ปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญเป็นการขยายเวลาให้สถานบริการใน 5 จังหวัด/พื้นที่ ประกอบด้วย สถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, ชลบุรี, เชียงใหม่ และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทั่วประเทศ ให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นได้ โดยกฎกระทรวงจะเริ่มผลบังคับทันที ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นไปตามกรอบเวลาเริ่มต้นที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้นโยบายไว้ เพื่อให้ระยะเวลาเปิดบริการที่ยาวขึ้น ช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน
“เฉพาะในคืนส่งท้ายปีเก่า (31 ธ.ค.) ตามกฎกระทรวงฉบับนี้จะขยายเวลาให้สถานบริการในทุกท้องที่ทั่วประเทศสามารถเปิดบริการไปจนถึงเวลา 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันปีใหม่ (1 ม.ค.)ได้ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับกฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 1 ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 2547 เพื่อส่งเสริมบรรยากาศให้ประชาชนได้เฉลิมฉลองในวันขึ้นปีใหม่”
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า เพื่อให้การขยายระยะเวลาการเปิด-ปิดของสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กำชับหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย ให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดดูแลให้การขยายเวลาเปิด-ปิดของสถานบริการให้เป็นไปตามกฎหมาย อาทิ สถานบริการต้องไม่มีการละเลยให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด การพกอาวุธเข้าไปในพื้นที่ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุความรุนแรง การตรวจสอบป้องกันไม่ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าในพื้นที่สถานบริการ ตลอดจนวางแนวทางเพื่อกวดขันไม่ให้มีการเมาแล้วขับ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
ด้านนายอนุทินกล่าวว่า ขอให้ทุกคนทำตามกฎหมาย ปฏิบัติให้ถูกต้อง หากอายุไม่ถึงเกณฑ์ก็ห้ามเข้าไปใช้บริการ ห้ามมีการขายยาและพกพาอาวุธเข้าไปในสถานบริการ โดยหากไปเที่ยวก็ขอให้ไปหาความสุขความบันเทิง ดื่มไม่ขับและใช้บริการรถสาธารณะแทน ซึ่งต้องการให้ทุกคนมีความสุข แต่ก็ต้องมีขอบเขต โดยขณะนี้เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ทั้งตำรวจ ป.ป.ส. และฝ่ายปกครอง รวมถึง กทม. ขออย่ากระทำผิดกฎหมาย เพราะหากมีก็สามารถถอนประกาศดังกล่าวได้ เพราะหากไม่ทำตามกฎหมายก็ต้องยกเลิก
เมื่อถามว่า จะมีบางร้านเปิดเกินเวลาที่กำหนดอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หากอนุญาตให้เปิดถึงตี 4 แล้ว คงไม่มีที่ไหนเปิดเกินเวลา หากเป็นประเภทร้านอาหารจะเปิดถึงเช้าก็คงไม่มีใครว่า แต่อย่าขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเที่ยงคืน ต้องเป็นร้านที่ได้รับอนุญาตและจดทะเบียนใบอนุญาตถูกต้องแล้วเท่านั้น ถึงสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เกินเที่ยงคืน ซึ่ง กทม.ได้มีการจัดโซนนิงไว้แล้ว พยายามคำนึงถึงความปลอดภัยมากที่สุด ขณะเดียวกันต้องพูดถึงกลุ่มพนักงานและผู้ให้บริการภายในร้านที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ถือเป็นการช่วยเหลือซึ่งกัน
“ผู้ประกอบการทราบดีว่ากฎระเบียบเป็นอย่างไร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยพยายามอำนวยความสะดวกให้ จึงขอให้ทางผู้ประกอบการและผู้ใช้สถานบริการเคารพกฎหมายการขยายเวลาเปิดสถานบริการไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร หากทุกคนทำตามกฎหมาย”นายอนุทินกล่าว
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ร้านที่จะสามารถเปิดให้บริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ต้องเป็นสถานบริการตามใบอนุญาต ซึ่งใน กทม.มีทั้งหมด 207 แห่ง แต่ขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 140 แห่ง เนื่องจากบางแห่งได้มีการปิดบริการไปแล้ว อย่างเช่นพื้นที่ทองหล่อ ที่ขณะนี้แทบไม่มีร้านที่ให้บริการประเภทดังกล่าว ซึ่งจริงๆ แล้วสถานบริการอยู่ใน 3 โซน ได้แก่ รัชดาฯ สีลม และอาร์ซีเอ ซึ่งจะมีการทำรายละเอียดออกมาว่าร้านไหนเข้าข่ายสถานบริการที่ได้รับอนุญาตบ้าง
ทั้งนี้ ในพื้นที่ กทม.มีสถานบริการที่สามารถขยายเวลาได้นั้นจะอยู่ในโซนนิง 3 โซน ได้แก่ สีลม, พัฒน์พงศ์, อาร์ซีเอ เพชรบุรีตัดใหม่ และรัชดาภิเษก รวมถึงกลุ่มที่ได้รับใบอนุญาตสถานประกอบการ ซึ่งฐานข้อมูลใบอนุญาตจาก 50 สำนักงานเขต มีกิจการที่มีใบขออนุญาตสถานบริการ 207 แห่งใน 33 เขต โดยอยู่ในพื้นที่โซนนิง 73 แห่ง เป็นสถานบริการที่อยู่ในโรงแรม 8 แห่ง, อยู่นอกพื้นที่โซนนิง 134 แห่ง เป็นสถานบริการที่อยู่ในโรงแรม 24 แห่ง โดยปัจจุบันยังเปิดบริการอยู่ 146 แห่ง ปิดปรับปรุง 3 แห่ง และปิดกิจการ 58 แห่ง โดยพื้นที่ที่มีสถานบริการจำนวนสูง 5 เขต ได้แก่ 1.เขตห้วยขวาง 39 แห่ง เปิดบริการ 33 แห่ง และปิดกิจการ 6 แห่ง 2.เขตดินแดง 31 แห่ง เปิดบริการ 14 แห่ง และปิดกิจการ 17 แห่ง 3.เขตบางรัก 21 แห่ง เปิดกิจการ 20 แห่ง และปิดกิจการ 1 แห่ง 4.เขตวัฒนา 21 แห่ง เปิดกิจการ 16 แห่ง และปิดกิจการ 5 แห่ง 5.เขตคลองเตย 11 แห่ง เปิดกิจการ 9 แห่ง และปิดกิจการ 2 แห่ง
ขณะที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมสำหรับการขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น. ซึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีทั้งสิ้น 27 แห่ง พบว่ามีเพียงบางร้านเท่านั้นที่พร้อมเปิดให้บริการถึงตี 4 โดยจังหวัดได้กำชับกับหน่วยงานต่างๆ และสถานบริการให้ปฏิบัติตาม 3 มาตรการหลักอย่างเคร่งครัด คือ สถานบริการสีขาว ปลอดภัย และใส่ใจสังคม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จ่อร้องยุบรัฐบาล! ‘วีระ’ อ้างเป็นกบฏทำ เสียดินแดน / ‘ผบ.ทร.’ ลงพื้นที่เกาะกูด
ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด กำชับกำลังพลหากมีเรื่องใดขัดข้องให้รีบแจ้งเพื่อแก้ไข ขณะที่นายอำเภอเกาะกูดลั่นเป็นของไทยมากว่า
ฮือ! ขวาง ‘โต้ง’ ยึดธปท.
นักวิชาการ-กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ย้ำหากฝ่ายการเมืองเข้าไปเป็นบอร์ด ธปท. สุ่มเสี่ยงเกิดการกินรวบ เป็นหายนะต่อประเทศ “กองทัพธรรม” ขยับล่าชื่อต้าน
ปลื้ม ‘UN’ ชม แจก ‘สัญชาติ’ ยันไม่มี ‘สีเทา’
รัฐบาลปลื้มยูเอ็น ยกย่องไทยยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ โฆษกรัฐบาลยัน กลุ่มคนสีเทา หรือแรงงานต่างด้าว หรือผู้หลบหนีเข้าเมือง ไม่ได้สัญชาติไทย เผยเหตุให้รวดเดียว 4.8 แสนคน
‘อิ๊งค์’ ส่งสัญญาณ! กวาดล้างพ่อค้ายา
“นายกฯ อิ๊งค์” ย้ำแผนปราบยา ตัดวงจร ฝึกอาชีพ ส่งสัญญาณกวาดล้างผู้ค้าในพื้นที่ระบาด ยึด อายัดทรัพย์ เอาผิดอย่างจริงจังและเด็ดขาด
นพดลวอนหยุดปั่นเกาะกูด ‘คำนูณ’ แนะชั่งข้อ ‘ดี-เสีย’
“นพดล” ย้ำ “เกาะกูด” เป็นของไทย เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้เสียดินแดน วอนเลิกบิดเบือนหวังผลการเมือง “คำนูณ” ชำแหละบันทึกความตกลง เป็นคุณกับกัมพูชามากกว่า
อดีตคนธปท.ต้านแทรกแซง
แรงต้านแทรกแซงแบงก์ชาติขยายวง อดีตพนักงาน ธปท.อีก 416 คน ร่วมลงชื่อจดหมายเปิดผนึก ยกจรรยาบรรณประธานบอร์ดห้ามเอี่ยวการเมือง เรียกร้องคณะกรรมการสรรหาฯ