314เสียงปึ้กเมินปรับครม. ขวางเลื่อนถกพรบ.งบ67

"เศรษฐา" ส่งสัญญาณดับฝัน "ปชป." ร่วมรัฐบาล ย้ำเสียงเหลือเฟือ  314 ขณะที่ "เสี่ยหนู" ให้กำลังใจบอกกับ "เฉลิมชัย" รักกันมาก ทุกพรรคย่อมมีปัญหา ด้าน "ลูกท็อป" โยนเพื่อไทยตัดสินใจ แต่พรรคร่วมต้องคุยกันก่อน ขณะที่ "รอง หน.ปชป." ตั้งหลักทำงาน จี้นายกฯ เข็นงบฯ ปี 67 เข้าสภา 3-4 ม.ค. หวั่นล่าช้าชนพิจารณางบฯ 68

เมื่อวันพุธ เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ถนนเทพรัตน (กม.1) เขตบางนา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงคำนิยามของเศรษฐกิจในปี 2567 ว่า “หนักใจ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจในเรื่องอะไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า หนักใจในเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก อย่างที่ทราบกันดี ส่วนตัวคิดว่าเศรษฐกิจในช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤต  ซึ่งทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว เรื่องค่าแรงที่ยังต่ำอยู่ และยังมีอีกหลายๆ เรื่อง

นอกจากนี้ นายกฯ ยังระบุถึงปัญหาการศึกษา หลังผลสอบ PlSA ของนักเรียนไทยประจำปี 2022 ออกมาต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี และรัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไรว่า ได้มีการพูดคุยกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ และมีการทำเวิร์กช็อปอย่างจริงจังว่าในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว การศึกษาไทยต้องเดินไปอย่างไร และภาคส่วนไหนที่ต้องมีการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของงบประมาณก็เป็นเรื่องหนึ่ง

 “แต่จุดเริ่มต้นจริงๆ มันไม่ใช่แค่สกอร์ที่เราได้เห็นกันอยู่ แต่มันเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำและความไม่เสมอภาคในการเข้าถึงแหล่งการศึกษา เพราะเป็นเรื่องของสถานะ ขณะที่มีเด็กประมาณ 1 ล้านคนที่ยังไม่สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องของโควิด-19 ทำให้เด็กหลุดออกนอกการศึกษาเยอะ ซึ่งตรงนี้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ก็พยายามทำเรื่องของบประมาณเข้ามาเสนอ และอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี” นายกรัฐมนตรีระบุ

อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐายังระบุถึงกรณีหนักใจเรื่องการเมืองในปี 2567 ด้วยว่า ส่วนตัวคิดว่าการเมืองมีเสถียรภาพพอสมควร และปัจจุบันนี้บรรยากาศทางการเมือง ตนเชื่อว่าก็สามารถพูดคุยและโอภาปราศรัยกันได้ดี มีการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล

ผู้สื่อข่าวถามว่า การบริหารงานเพิ่งผ่านมา 3 เดือน ทำไมมีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯประเมินว่าจะมีการปรับ ครม.ในช่วงเวลาใด นายกฯ กล่าวว่า “ขอเป็นคำถามต่อไปครับ”

เมื่อถามว่า หลังพรรคประชาธิปัตย์ได้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ได้เกิดกระแสข่าวว่าจะมีมาร่วมรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวว่า ตนไม่ไปก้าวก่ายในพรรคอื่น และเขาเองก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา ปัจจุบันเราก็มี 314 เสียง มันก็เยอะอยู่แล้ว ตรงนี้ก็ให้ต้องเกียรติทางพรรคร่วมรัฐบาล และให้เกียรติกับทางพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เชื่อว่าเป็นการบริหารจัดการภายในของเขา อีกทั้งนายเฉลิมชัยก็เพิ่งเข้ามาได้ 2-3 วันเอง ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงาน และบริหารพรรคไปก่อน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐามีกำหนดเดินทางเพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น (The Commemorative Summit for the 50th Year of ASEAN-Japan Friendship and Cooperation) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14-18 ธันวาคม 2566 โดยในการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสในการฉลองวาระ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งมีการเริ่มอย่างไม่เป็นทางการในปี 2516 และในปีนี้เป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น และมีการประกาศตราสัญลักษณ์ทางการและคำขวัญ “Golden Friendship, Golden Opportunities”

โดยนอกจากกรอบการประชุมฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะได้แสดงวิสัยทัศน์ที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศไทย และเป็นประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีตั้งใจจะใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดจากโอกาสการพบปะกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายคิชิดะ ฟูมิโอะ (H.E. Mr. Kishida Fumio) ในส่วนของทางเศรษฐกิจ เชิญชวนญี่ปุ่นให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคและไทย โดยเฉพาะการเติบโต สีเขียว การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและดิจิทัล รวมถึงประชาสัมพันธ์นโยบายและโครงการสำคัญของไทย เช่น Landbridge การพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และ soft power รวมทั้งในทางการเมือง โน้มน้าวให้ญี่ปุ่นเพิ่มบทบาทเชิงสร้างสรรค์กับอาเซียนเพื่อลดความขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้า และร่วมกันส่งเสริมสภาพแวดล้อม ที่สงบ สันติมีเสถียรภาพ ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ

'เสี่ยหนู'ให้กำลังใจเฉลิมชัย

 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ยังคงมีเจ้าหนี้ข่มขู่ลูกหนี้ไม่ให้ลงทะเบียนกับรัฐบาลว่า มีทั้งเจ้าหนี้ข่มขู่ลูกหนี้ และมีทั้งลูกหนี้เบี้ยวเจ้าหนี้ กระทรวงมหาดไทยจะไม่ให้เกิดการข่มขู่รังแกกันเกิดขึ้น การแก้ปัญหานี้นอกระบบในส่วนของกระทรวงมหาดไทยคือการไกล่เกลี่ยเจรจาไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้งรังแกกันเท่านั้นเอง ไม่ใช่เป็นการหาเงินใหม่มาให้ ตนยังยืนยันว่าคนเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ ไม่ใช่ไปตีความว่าไม่ต้องใช้หนี้แล้ว แต่ลูกหนี้คนไหนขาดส่งเจ้าหนี้ไปพังร้านเขาอย่างนี้ไม่ได้ ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

นายอนุทินระบุว่า  หรือกรณีถ้ามันเป็นจริงจ่ายดอกเบี้ยเกินต้นแล้วหลายสิบเท่าอย่างนี้ต้องให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยให้มากที่สุดเท่าที่จะได้ ถ้าฝ่ายเจ้าหนี้ไม่ยอมทั้งที่เก็บรายได้มาเยอะแล้วก็เข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เข้าไปดูเรื่องภาษีด้วย คณะกรรมการที่นายกฯ ตั้งมาจะปราบปรามป้องกันไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายเรื่องหนี้นอกระบบ ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายปกครองหรือตำรวจเท่านั้น แต่ยังมีกระทรวงการคลังอยู่ในคณะกรรมการด้วย แสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของนายกฯ ต้องการใช้กลไกรัฐสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นมากที่สุดเท่าที่มากได้ และเราไม่ได้วางเป้าหมายมีเท่าไหร่ก็แก้ไป

 “ขอให้เลิกพูดเรื่องเป้าหมาย เพราะของพวกนี้เกิดขึ้นทุกวัน เกิดแล้วก็เกิดอีกหายไป สักพักก็เกิดอีก ดังนั้นเราต้องทำให้เกิดความเป็นธรรม เป้าหมายของเราคืออย่าไปข่มเหงรังแกกัน อย่าทุบตีทำร้ายกัน ถ้ามีการกระทำเหล่านี้ถือว่าผิดกฎหมาย จะเอากฎหมายเข้าไปปกป้องเพื่อความปลอดภัยของประชาชน” นายอนุทินระบุ  

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนักการเมืองไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก หากจะมาร่วมพรรคภูมิใจไทยจะรับหรือไม่ว่า พรรคภูมิใจไทยยังไม่คิดเรื่องนี้ เวลาใครมีปัญหาหรือไม่อะไร ถ้าเป็นพรรคพวกกันเราก็ต้องแสดงความเห็นใจ ส่งกำลังใจไปให้ อะไรที่เราช่วยเหลือได้ควรต้องช่วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์แล้วเสียดายหรือไม่ เพราะเป็นพรรคที่เป็นสถาบันการเมืองมายาวนาน นายอนุทินกล่าวว่า มันไม่มีองค์กรไหนที่ตั้งขึ้นมาแล้วไม่มีอุปสรรคหรือผ่านฉลุยไปตลอด ไม่มีหรอก พรรคใหญ่หรือพรรคเล็กล้วนแล้วแต่ประสบอุปสรรค  เพียงแต่ผู้บริหารแต่ละพรรคจะฝันฝ่าอุปสรรค ใช้ประสบการณ์ บารมี ความสามารถ ในการก้าวข้ามไปได้อย่างไร 

'วราวุธ' โยนเพื่อไทยชี้ขาด

เมื่อถามว่า การที่นายเฉลิมชัยขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า “ผมสนิทกับท่านเฉลิมชัย รักกันมากด้วย ทำงานร่วมกันมาในรัฐบาลตั้ง 4 ปี เพราะฉะนั้นผมต้องให้กำลังใจท่าน เราต่างคนต่างทำหน้าที่ เราไม่ได้มองเป็นคู่แข่ง บทบาทหน้าที่ในการหาเสียงเลือกตั้งก็เป็นบทบาทของแต่ละพรรค ไม่มีนายเฉลิมชัยก็มีคนอื่นอีก อย่าไปคิดว่าเป็นคู่แข่งกันเลย” 

เมื่อถามย้ำว่า หลังนายเฉลิมชัยได้เป็นหัวหน้าพรรค ได้คุยกันบ้างหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีแล้ว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามกระเซ้าว่าได้พูดคุยชักชวนมาร่วมรัฐบาลกันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “โอ๊ยไม่มี อย่าเพิ่งเลย ให้ท่านได้บริหารจัดการให้เรียบร้อยก่อน” 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลอาจมีการปรับ ครม.ว่า ต้องแล้วแต่แนวทางของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคใหญ่ ที่จะต้องดูว่าต้องนำพรรคไปเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือไม่ และพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน จะมีการปรับหรือไม่ หรือแม้แต่ในส่วนของพรรคใหญ่เอง จะมีการปรับอย่างไร

 “แต่ถึงอย่างไรในท้ายที่สุดท้าย พรรคร่วมรัฐบาลต้องมาพูดคุยหารือกันก่อนว่า จะมีการดำเนินการเช่นไร ยืนยันว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะมีการดำเนินการ  อย่างไรก็ตามหากจะมีการเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล พรรคร่วมก็ต้องมีการพูดคุยกันก่อน ว่าหากเข้ามาแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร หรือมีการดำเนินการแนวทางอย่างไร เพราะทุกพรรคมีสิทธิและแนวทางที่จะดำเนินการ” นายวราวุธระบุ 

ปชป.จี้เข็นงบฯ 67 เข้าสภา

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสส.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงการเตรียมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567 ในวันที่ 3-4 ม.ค.67 แต่ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวยังไม่มาถึงสภาผู้แทนราษฎรว่า การพิจารณาจะทันหรือไม่ต้องถามนายเศรษฐา ที่ควรเร่งรัดเรื่องนี้ เพราะหากปล่อยให้ไม่มีงบประมาณใช้เศรษฐกิจจะแย่ นายกฯ อย่าเอาเวลาคิดเรื่องจะกู้เงิน ไปต่างประเทศ หรือคิดเป็นศรีธนญชัยในแต่ละวัน

 “นายกฯ ต้องเร่งรัดงบให้ได้ ทั้งนี้ ไทม์ไลน์การใช้งบปี 67 อยู่ที่เดือน พ.ค. แต่กว่าเงินจะอัดฉีดในระบบเศรษฐกิจประมาณเดือน ส.ค. ดังนั้นนายกฯ ต้องเร่งรัดให้งบปี 67 เข้า เพื่อให้สภาฯพิจารณาให้ทันในวันที่ 3-4 ม.ค. และหากเข้าได้ในวันดังกล่าว ทางสภาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเวลา 105 วัน ซึ่งจะครบในช่วงเดือน มี.ค. ถึงต้นเม.ย. กว่าจะประกาศใช้ก็เดือน พ.ค. หากล่าช้าไปกว่านี้จะชนกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 ได้” นายชัยชนะระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมสภาที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ให้นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ สส. หลังจากที่ได้รับการเลื่อนลำดับขึ้นมาแทน ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ที่ลาออกจากตำแหน่ง สส.

ทั้งนี้ นายปดิพัทธ์ชี้แจงว่า ขณะนี้มี สส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 499 คน ดังนั้นการประชุมต้องมีองค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งคือ 250 คน.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.จับตาศึก ‘อบจ.ราชบุรี’

ประธาน กกต.ยันจับตาเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีวันอาทิตย์นี้ เตือนอย่าทำอะไรผิดกฎหมาย “2 ผู้สมัคร” แห่หาเสียงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะเด็กค่าย ปชน.

ไปข้างหน้าเพื่อชาติ! อิ๊งค์วอนเสื้อแดงให้เข้าใจ ราชทัณฑ์ดิ้นโต้เสรีพิศุทธ์

"นายกฯ อิ๊งค์" เผย ครม.นิ่งแล้ว รอตรวจประวัติเสร็จทำงานได้ทันที แจงจับมือ "ประชาธิปัตย์" เพื่อเสถียรภาพรัฐบาล บอกเข้าใจหัวอกคนเสื้อแดง วอนก้าวไปข้างหน้าเพื่อชาติ