โยนDSIเปิด บิ๊กการเมือง เอื้อหมูเถื่อน

“เศรษฐา” พร้อมเปิดชื่อนักการเมืองเอี่ยวหากไม่เสียรูปคดี ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู ปัดตอบหลุด ตม.ได้อย่างไร ด้าน “ธรรมนัส” โยนกรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดรายชื่อ ด้าน ปปง.ยึดทรัพย์ 53 ล้าน แต่ดีเอสไอมาแปลกยังไม่พบนักการเมืองเอี่ยวและคลิปเสียง 10 ล. อ้าง ก.เกษตรฯ ยังไม่ส่งให้ 

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาหมูเถื่อนว่า พยายามตามอยู่ วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่าได้มีการอายัดทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว ซึ่งต้องสาวและทำงานกันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถสาวถึงต้นตอตัวการใหญ่ได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มีความพยายาม ต้องดูว่าตัวการใหญ่นั้นใหญ่แค่ไหน เท่านั้นเอง ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนคดีหมูเถื่อนที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองแล้วใช่หรือไม่นั้น คงอยู่ในขั้นตอนการพิจาณาของดีเอสไอ 

เมื่อถามว่า เมื่ออยู่ในขั้นตอนสุดท้ายจะสามารถเปิดเผยรายชื่อได้ใช่หรือไม่  นายกฯ กล่าวว่า ต้องว่าไปตามขั้นตอนกฎหมาย เมื่อถึงเวลาก็ต้องเปิดชื่อหากไม่เสียรูปคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายเศรษฐาแถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น ได้เดินทางไปยังบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล  พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อพบกับเกษตรกรผู้เสี้ยงสุกร นำโดยนายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พร้อมยื่นหนังสือต่อ ร.อ.ธรรมนัส เพื่อให้ต่อยอดการแก้ปัญหา 

โดยนายสิทธิพันธ์กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้มาช่วยปราบปรามเรื่องหมูเถื่อน ซึ่งจากปัญหาที่ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศที่เข้ามาแย่งตลาด สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

นายเศรษฐากล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ได้สละเวลามาให้กำลังใจ ความจริงไม่ต้องมาขอบคุณก็ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว ปัญหานี้หมักหมมมา 3-4 ปีแล้ว รัฐบาลนี้เข้ามายังไม่ถึง 3 เดือน รมว.เกษตรฯ และ รมช.เกษตรฯ ทุกคนได้นำเรื่องนี้ขึ้นมาทำงานอย่างจริงจัง และทุกคนยังคงทำงานกันต่อไป

ในส่วนของอักษรย่อ ที่เกี่ยวข้องกับหมูเถื่อนนั้น จะต้องสาวกันต่อไป แต่ต้องขอความกรุณา เพราะเราเองก็ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เฉพาะช่วงนี้ก็ขอให้มีความอดทนกันหน่อย รัฐบาลจะมุ่งมั่นทำงานต่อไป ไม่มีการปกปิด ไม่มีการเอื้ออำนวยให้กับใครทั้งสิ้น

นายกฯ ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีกรมศุลกากรเป็นต้นทางการนำเข้าหมูเถื่อนจะลงไปดูหรือไม่ ว่าเรื่องการแก้ไขปัญหาหมูเถื่อนเราทำอย่างเต็มที่แล้ว และเราได้ทำลายแก๊งหมูเถื่อนแล้ว  อยู่ในขั้นตอนที่จะสาวมาถึงรายใหญ่  ยืนยันเราทำงานอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า มีการพูดกันว่าอาจจะไม่สาวไปถึงต้นทาง แต่อาจจะได้ลูกกะจ๊อกเป็นไอ้ห้อยไอ้โหน กลัวจะเป็นมวยล้มต้มคนดูของรัฐบาลชุดนี้ที่ไม่เอาจริง  นายเศรษฐากล่าวว่า ขอให้คอยดูต่อไป  แต่ยินดีรับฟังเสียงสะท้อนของปัญหา

ส่วนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มีเครื่องเอกซเรย์ แต่ทำไมถึงมองไม่เห็นว่ามีหมูเถื่อนนั้น นายกฯ กล่าวว่า  ไม่ทราบเรื่องนี้เลย เครื่องเอกซเรย์ ตู้คอนเทนเนอร์ ใครซื้อมา ไม่ทราบว่าเพิ่งซื้อมาใน 3 เดือนนี้หรือไม่ แต่แน่นอนหากมีการร้องเรียนมาตนต้องเข้าไปดูถึงความเหมาะสมของอุปกรณ์ และหากมีการทุจริตประพฤติไม่ชอบ รัฐบาลนี้ไม่ปล่อยไว้แน่นอน

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการกรมศุลกากรหรือนายทุนใหญ่  หรือนักการเมือง เราจะได้เห็นโดนคดีนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ถ้าเขาทำผิดก็ต้องโดน แต่อย่าเพิ่งไปตั้งธง”

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับคดีหมูเถื่อนได้เมื่อไหร่ว่า เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะเป็นเรื่องคดีพิเศษ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งข้อมูลให้หมดแล้ว พร้อมยอมรับว่า ก็รับทราบและได้รับรายงานมาโดยตลอด

รมว.เกษตรฯ ยังเปิดเผยถึงคดี 161 ตู้หมูเถื่อนว่า คดีนี้น่าจะจบแล้ว เป็นคดีพิเศษที่ดีเอสไอรับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล คาดว่าจะสาวไปถึงต้นตอทั้งหมด

เมื่อถามว่า ยอมรับหรือไม่ว่าในขั้นตอนการดำเนินงานอาจจะเจอตอ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มี เอากฎหมาย เอาความถูกต้องเป็นหลัก

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม  วันที่ 7 ธ.ค.2566 ว่า คณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด โดยมีการยึดและอายัดทรัพย์สิน 20  รายคดี ทรัพย์สิน 769 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,071 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชนหรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการลักลอบหนีศุลกากร

โดยเฉพาะคดีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ปปง.ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 24 รายการ รวมมูลค่า 53 ล้านบาท และตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม ก่อนอายัดเพิ่มอีก 28 รายการ  พร้อมดอกผลอีก 37 ล้านบาท

ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคดีจับกุมขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน   กล่าวว่า เบื้องต้นดีเอสไอได้มีการแจ้งข้อหาไปแล้ว 12 คน และออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 1 คน เป็นกรรมการบริษัทแห่งหนึ่ง (เรนโบว์)​ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนให้เดินทางมาให้ปากคำวันที่ 20 ธ.ค.นี้ และแจ้งข้อหานิติบุคคล 10 บริษัท

จากการเข้าตรวจค้นห้องเย็นที่จังหวัดนครปฐม 2 แห่ง พบหลักฐานว่ามีบริษัทชิปปิ้ง 3 แห่งใช้บริการโอนเงินให้เอเยนต์โดยไม่ผ่านธนาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าชิ้นส่วนสุกรร้อยละ 30  โดยพบหลักฐานจากใบอินวอยซ์ประเทศต้นทางตู้ละ 3 หมื่นดอลลาร์ แต่สำแดงเท็จตู้ละ 1 หมื่นดอลลาร์

ทั้งนี้ มีข้อมูลตั้งแต่ปี 2564 จำนวน 282 ตู้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงภาษี และขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างพิจารณารับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายองค์กรอาชญากรรม ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหาร และพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐสองหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดี แต่ยังไม่ระบุว่ามีกี่ราย

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวว่า จนถึงตอนนี้การสืบสวนยังไม่พบข้อมูลที่เชื่อมโยงไปถึงนักการเมืองระดับประเทศ ส่วนที่มีคลิปเสียงเรียกรับเงิน 10 ล้านบาท เพื่อเคลียร์คดี ยังไม่พบเช่นกัน โดยทางกระทรวงเกษตรฯ ยังไม่ส่งข้อมูลให้ และยังไม่มีการเรียกบุคคลใดมาสอบปากคำ โดยดีเอสไอกำลังเร่งขยายผล 161 ตู้ที่ตั้งเป็นคดีแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.จับตาศึก ‘อบจ.ราชบุรี’

ประธาน กกต.ยันจับตาเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีวันอาทิตย์นี้ เตือนอย่าทำอะไรผิดกฎหมาย “2 ผู้สมัคร” แห่หาเสียงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะเด็กค่าย ปชน.

ไปข้างหน้าเพื่อชาติ! อิ๊งค์วอนเสื้อแดงให้เข้าใจ ราชทัณฑ์ดิ้นโต้เสรีพิศุทธ์

"นายกฯ อิ๊งค์" เผย ครม.นิ่งแล้ว รอตรวจประวัติเสร็จทำงานได้ทันที แจงจับมือ "ประชาธิปัตย์" เพื่อเสถียรภาพรัฐบาล บอกเข้าใจหัวอกคนเสื้อแดง วอนก้าวไปข้างหน้าเพื่อชาติ