R.I.P.ยุติธรรมไทย ราชทัณฑ์ออกระเบียบคุมขังนอกคุกทักษิณจ่อกลับบ้าน

จับตา "น.ช.ทักษิณ" ออกจาก รพ.ตำรวจ กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังราชทัณฑ์ออกระเบียบใหม่คุมขังนอกเรือนจำ คาดยื่นพักโทษช่วงเดือน ก.พ. แกนนำ คปท.โวยอยู่ในยุคที่ระเบียบใหญ่กว่าคำพิพากษาและความยุติธรรมเป็นรอยด่างกระบวนการยุติธรรม "สว.สมชาย"  โพสต์ "R.I.P. ยุติธรรมไทย" ซัดคนเดียวในโลกโกงได้แม้กระทั่งการติดคุก กมธ.ตำรวจเรียก "ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ-ผู้ร้อง" ชี้แจง 14 ธ.ค.นี้ ด้านที่ปรึกษานายกฯ อ้างสิทธิรักษาพยาบาลของทักษิณเป็นสิทธิพื้นฐานการรักษาตัวที่ รพ.ตร. เป็นไปตามระเบียบไม่มีอภิสิทธิ์ชน

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ออกหนังสือที่ ยธ.07047/51138 กรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 6  ธ.ค. 2566 เรื่องระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด โดยสาระสำคัญของระเบียบฉบับนี้เป็นการกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่มิใช่เรือนจำตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 โดยในหมวด 1 ข้อ 7 ระบุว่า สถานที่คุมขังต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ (1) อสังหาริมทรัพย์ที่มีทะเบียนบ้าน และ (2) กรณีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต้องมีเลขที่อาคาร หรือเลขที่ห้อง

นอกจากนี้ ในหมวด 2 เรื่องคุณสมบัติของผู้ต้องขังที่ได้รับการพิจารณาให้ออกไปคุมขังยังสถานที่คุมขัง (2) ระบุว่า ต้องผ่านการจำแนกของลักษณะของผู้ต้องขัง หรือทบทวนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล และคณะทำงานเพื่อจำแนกลักษณะของผู้ต้องขังประจำเรือนจำเห็นว่าควรกำหนดแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคลให้คุมขังยังสถานที่คุมขังตามระเบียบนี้

สำหรับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมขังภายใต้การดูแลของกรมราชทัณฑ์ และได้มีการนำตัวไปรับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจ และพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 22 ส.ค. 2566 มีโอกาสสูงที่จะได้รับประโยชน์จากระเบียบดังกล่าว เนื่องจากนายทักษิณไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่ระเบียบดังกล่าวกำหนด ซึ่งถ้าคณะทำงานพิจารณาการคุมขังในสถานที่คุมขัง พิจารณารายชื่อให้นายทักษิณถูกคุมขังนอกสถานที่ที่ไม่ใช่เรือนจำ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้นายทักษิณได้กลับไปคุมขังยังบ้านพักของตัวเองที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาโทษของนายทักษิณจะต้องอ้างอิงถึงระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังและการแยกคุมขัง การเลื่อนหรือลดชั้นนักโทษเด็ดขาด การลดวันต้องโทษจำคุกและการพักการลงโทษ พ.ศ. 2559 ซึ่งนายทักษิณเป็นนักโทษเข้าใหม่ นับเป็นนักโทษชั้นกลาง โดยการเลื่อนชั้นหรือลดชั้นนักโทษเป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และสามารถทำได้ 2 ครั้ง คือสิ้นเดือน ม.ค.และสิ้นเดือน ธ.ค.  หากนายทักษิณจะเลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดี จะต้องถูกคุมขังมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ หากคิดตามนี้นายทักษิณต้องถูกจำคุกอย่างน้อยถึงเดือน ก.พ. 2567 และคาดว่านายทักษิณจะใช้โอกาสยื่นขอพักโทษในช่วงเวลาดังกล่าว

ด้านนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงระเบียบดังกล่าวว่า เสร็จตามระเบียบ 8 ธ.ค. 66 กรมราชทัณฑ์ประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ กำหนดสถานที่กุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ ซึ่งรวมทั้ง รพ. บ้านพักอาศัย ฯ ระเบียบประกาศใช้ 8 ธ.ค. 66 เป็นจังหวะที่ น.ช.ทักษิณ จะครบ 120 วันที่นอน รพ.ตำรวจ ตอนออกจากเรือนจำคืน 22 ส.ค.ก็อ้างระเบียบการป่วย กลายเป็นหนีออกจากเรือนจำตามระเบียบ

"วันนี้นอน รพ.ตำรวจตามระเบียบผู้ป่วยต่อไป คงอ้างระเบียบใหม่ย้ายไปกักตัวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เสร็จตามระเบียบสถานที่กุมขังใหม่เป็นแน่แท้ เราอยู่ในยุคที่ระเบียบใหญ่กว่าคำพิพากษา ระเบียบที่ใหญ่กว่าความยุติธรรมและความเป็นธรรม กฎหมายทำให้คนเท่ากัน แต่ระเบียบทำให้คนแตกต่างกัน ระเบียบทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ #รอยด่างแห่งกระบวนการยุติธรรม" นายพิชิตระบุ

ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)  โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "R.I.P.ยุติธรรมไทย #เชื่อแล้วจริงๆ #คุกมีไว้ขังคนจน 'คนเดียวในโลก โกงได้แม้กระทั่งการติดคุก' 'มีอำนาจบาตรใหญ่ ต้องใช้ดูแลนายเต็มที่'#"

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร  พรรคก้าวไกล ฐานะรองประธาน กมธ.ตำรวจ คนที่หนึ่ง กล่าวว่า ในวันที่ 14 ธ.ค. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาฯ ที่มีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน กมธ. ได้นัดพิจารณาเรื่องร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบการควบคุมนักโทษที่เข้ารับการรักษาพยาบาล และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเชิญผู้แทนกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม,  โรงพยาบาลตำรวจ และผู้ร้องเข้าร่วมประชุมกับ กมธ. เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กมธ. และคณะกรรมการกลั่นกรองของ กมธ.เห็นว่ามีประเด็น จึงเสนอและให้พิจารณาในวันที่ 14 ธ.ค. เบื้องต้นทราบว่าประเด็นผู้ที่ร้องนั้นเกี่ยวข้องกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

เมื่อถามว่า จะเกี่ยวข้องกับระเบียบของกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับคุมขังในสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฉบับล่าสุดหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียดเรื่องดังกล่าว

นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มมวลชนไปเรียกร้องที่โรงพยาบาลตำรวจ และกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในเรื่องการรักษาพยาบาลว่า นายทักษิณได้เดินทางกลับประเทศไทยและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อรับโทษ โดยผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและไปรายงานตัวรับโทษ  จากนั้นก็เข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่สถานพยาบาลแดน 7 พิเศษกรุงเทพฯ ตรวจร่างกายและอาการป่วยแล้ว พบว่านายทักษิณเป็นผู้สูงอายุ อายุเกิน 70 ปี มีอาการป่วยเรื้อรังประจำตัวหลายโรค แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์เฝ้าดูอาการระยะหนึ่งแล้วมีความเห็นว่า อาการน่าวิตกกังวลเกินขีดความสามารถที่โรงพยาบาลราชทัณท์จะรับรักษาตัวได้ จึงส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และตรวจพบว่ามีโรคเรื้อรังหลายโรคที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยเฉพาะโรคหัวใจ ประกอบกับคนไข้เป็นผู้สูงอายุ มีอายุเกิน 70 ปี สภาพร่างกายไม่แข็งแรงเพียงพอ แม้คนไข้จะออกกำลังกายและดูแลตนเองอย่างดีก็ตาม

"ต่อมานายทักษิณก็ได้เข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งจากหลายอาการ ดังที่เป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดที่ตนได้กล่าวถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขังหรือนักโทษที่กรมราชทัณฑ์ถือปฏิบัติมานานแล้ว มิใช่เป็นเรื่องอภิสิทธิ์ชนตามที่มีผู้กล่าวกันอยู่ในขณะนี้ใดๆ ทั้งสิ้น"

นายพายัพกล่าวด้วยว่า ตนเคยเป็นนักโทษชายติดคุกที่เรือนจำพัทยา คดีชุมนุมทางการเมืองปี 2552 ซึ่งตนมีโรคประจำตัวเรื้อรังหลายโรค โดยเฉพาะโรคหัวใจ ซึ่งแพทย์และพยาบาลในเรือนจำก็ได้มีการตรวจดูอาการเช่นกัน และได้ให้ไปอยู่ในการดูแลของสถานพยาบาลในเรือนจำ และตนเคยมีอาการโรคหัวใจกำเริบต้องปั๊มหัวใจกันในเรือนจำ แต่ไม่มีเครื่องมือแพทย์และขาดแพทย์เฉพาะทางอยู่ประจำ จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลบางละมุง เมื่อมีอาการหัวใจหยุดเต้นอีก  สุดท้ายก็ต้องส่งตัวเข้าเรือนจำในกรุงเทพมหานคร และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง