อย่าเอาพรรคไปหากิน ‘ชวน’กรีดกก.บห.ชุดใหม่ห่วงเรื่องสุจริต‘ชัยชนะ’จ่อปรึกษาผู้ใหญ่

"ชวน" กรีดเลือดสีฟ้ายับ!    ฝาก กก.บห. "อย่าให้เขาเอาพรรคไปหากิน" ห่วงเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต  วอนอย่าทำให้ตกต่ำไปกว่านี้ แฉมีโพยสกัด "มาดามเดียร์" เสียดายหลายคนลาออก ยันไม่ไปไหนต้องอยู่ตอบแทนบุญคุณพรรค "เชาว์" จัดหนัก "เฉลิมชัย" เป็นหน.ปชป.ด้วยการตระบัดสัตย์ทำลายพรรค ย้อนถามกล้ากราบพระแม่ธรณีฯ   อย่างไม่ละอายได้อย่างไร ดักคอ 2 โควตา รมต.ยังว่าง มีใครแอบหวัง "ชัยชนะ" ลั่นใครลาออกถือว่าไม่รักพรรค จ่อเดินสายปรึกษากับผู้ใหญ่ชวนสมาชิกที่เคยลาออกมาร่วมงาน ปัดย้ายขั้วไปร่วมรัฐบาล

ที่รัฐสภา วันที่ 10 ธันวาคม นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์ภายในพรรค ปชป. ที่กำลังมีสมาชิกหลายคนทยอยลาออกภายหลังจากการได้กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ว่า ตนถามว่าเหตุอะไร   เขาล็อกไว้หมดแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์   และก็ขอร้องว่าอย่างไรก็ขอให้มาก่อนแล้วกัน ตนก็มา แต่มาแล้วลาออก ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เสียดายคนที่เป็นกำลังสำคัญ คนที่ไม่ใช่ สส.หลายคนก็แจ้งลาออก คนที่เคยสนับสนุนพรรคก็ขอลาออก ก็เข้าใจ ด้วยความเห็นใจคนที่ห่วงใย เขารักพรรค

เมื่อถามว่า เขาล็อกไว้แล้ว แสดงว่าการเลือกหัวหน้าพรรคมีการล็อบบี้กันไว้แล้วใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ก็คงเป็นอย่างนั้น ความจริงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรค ปชป. เป็นผู้ใหญ่ พูดตรงไปตรงมาในที่ประชุม แม้เราจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่ก็คิดว่า พล.ต.ต.สุรินทร์ตรงไปตรงมา ที่บอกว่าการเลือกหัวหน้าพรรคแล้วแต่เลขาธิการพรรคสั่งมา เพราะเลขาธิการพรรคดูแลมา 4 ปี พูดง่ายๆ คืออุปถัมภ์เลี้ยงดูกันมา 4 ปี  แล้วแต่ท่านสั่ง หลายคนพูดอย่างนี้    เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. แม้เป็นคนอื่น ถ้าเลขาธิการพรรคเป็นคนสนับสนุน คนนั้นก็ชนะ แต่เมื่อท่านยอมผิดคำพูดเพื่อมาเป็นเอง ซึ่งเมื่อวานนี้ ท่านก็ประกาศชัดเจนว่า 1.สิ่งที่ตนพูดเอาไว้ว่า อย่าให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคอะไหล่ ตอนนั้นมีความคิดที่ดิ้นรนอยากเป็นรัฐบาล ไปร่วมกับเขา ก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น 2.สิ่งที่ตนห่วงคืออุดมการณ์ของพรรค

 “ข้อ 1 ข้อ 2 ชัดเจน ที่ประกาศมา 78 ปีแล้วคือเรื่องการเมืองบริสุทธิ์ ความซื่อสัตย์สุจริต คือสิ่งที่ย้ำตลอดมาว่า ที่ประชาธิปัตย์ได้รับการยอมรับเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่เพราะอยู่นานเสมอไป ถ้าอยู่นานแล้วโคตรโกง โกงทั้งโคตร หัวหน้าติดคุก ก็ไม่มีใครยอมรับความเป็นสถาบันการเมือง แต่ที่คนรุ่นก่อน หัวหน้าพรรคทุกคน เขาทำหน้าที่มาด้วยความซื่อตรง สุจริต จึงทำให้พรรคได้รับการยอมรับจากประชาชนส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้นต้องรักษาสิ่งนี้ไว้” นายชวนกล่าว

นายชวนกล่าวต่อว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่ก็ยืนยันในที่ประชุมเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งตนก็ฝากให้ กก.บห. หลายท่านในชุดนี้ ที่คงพะวงเรื่องพวกนี้อยู่เช่นเดียวกัน ช่วยกันดูแล เพราะที่ผ่านมามีข่าวลือเกี่ยวกับรัฐบาลในส่วนที่ประชาธิปัตย์ดูแลอยู่ไม่น้อย ส่วน กก.บห.ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่จะสามารถทำงานร่วมกับสมาชิกรุ่นเก่าได้หรือไม่นั้น ที่จริงไม่มีรุ่น เพราะการบริหารพรรคมีกติกาอยู่ และ กก.บห.คือบุคคลที่จะนำพรรคไปสู่ความสำเร็จหรือล้มเหลว

อย่าเอาพรรคไปหากิน

นายชวนยอมรับว่า คราวที่แล้วโดยการนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ที่เป็นหัวหน้าพรรค เราต้องรับผิดชอบเหมือนกัน ยืนยันว่านายจุรินทร์ได้เป็นหัวหน้าพรรค เพราะ 1.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. 2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และอดีตสมาชิกพรรค ปชป. 3.ตนช่วยสนับสนุนสู้กับคนอื่น คนอื่นเขาก็เก่ง แต่ในที่สุดเมื่อนายจุรินทร์ชนะ และนายจุรินทร์ได้เสนอนายเฉลิมชัยเป็นเลขาธิการพรรค เราก็เลือกนายเฉลิมชัยเป็นเลขาธิการพรรค แล้ว 4 ปี คนเหล่านี้ก็นำพรรคเรามาสู่จุดนี้

 “ทุกคนก็ห่วงว่าต่อไปนี้มันจะตกต่ำมากกว่านี้ไหม มันมีหรือจะต่ำกว่านี้ ในเมื่อครั้งนี้ระบบบัญชีรายชื่อได้ 3 คน มันไม่มี ในอนาคตจะดีจะชั่วยังไงมันไม่ควรจะต่ำกว่า 3 คนแล้ว ครั้งนี้มันควรจะเป็นผลงานของท่านจุรินทร์ ท่านเฉลิมชัย กับ กก.บห.ชุดนี้ที่บริหารมา จนกระทั่งผลออกมาอย่างที่เราได้เห็น”

"ส่วนในอนาคตเป็นอย่างไร ผมหวังว่าเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ฝากเขาว่า ขอให้ยึดอุดมการณ์พรรคเอาไว้ ถึงแม้จะไว้วางใจได้ไม่เต็มที่ก็ตาม แต่ฝากกรรมการบริหารพรรคบางคนที่ยังรัก ห่วงพรรคอยู่ ช่วยกันดูแล อย่าให้เขาเอาพรรคไปหากิน"

เมื่อถามว่า ในฐานะผู้อาวุโสของพรรค จะวางบทบาทของตัวเองต่อจากนี้อย่างไรบ้าง นายชวนกล่าวว่า ตนพยายามที่จะช่วยประคับประคอง สนับสนุนสิ่งที่ดีให้กับพรรค ที่ตนตัดสินใจหนุนนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่แน่ใจว่านายอภิสิทธิ์ถอนตัวหรือไม่ เมื่อเสนอแล้วได้รับผลออกมาเป็นเช่นนี้ ก็ให้กำลังใจว่า ท่านอย่างเพิ่งวางมือ วันเวลาท่านก็ยังมีอยู่ เหมือนกับ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ตนก็เสียดาย เพราะตนก็ชื่นชมในความพยายามของน.ส.วทันยา และเมื่อเห็นโพยที่มีคนส่งมาให้ดู เป็นโพยล็อกเอาไว้ว่า อย่าไปรับการลงมติ 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับ (6) ผมเห็นเขาสกัด จึงต้องขออนุญาตพูดในที่ประชุม

 “เมื่อเห็นว่าเขาไปฝืนมติพรรค 77 ปี ประชาธิปัตย์ไม่เคยไปฝืนมติพรรคกลางสภา ไปรับนายกฯ เศรษฐา ทั้งที่พล.ต.ต.สุรินทร์เป็นคนที่เสนอในที่ประชุมพรรคไม่ให้รับคุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ คือเขาเอง เพราะเราไม่ได้ร่วมรัฐบาล แล้วคนเหล่านี้กลับคำตัวเองในสภา เรื่องเหล่านี้ไม่ควรเกิด กรรมการบริหารพรรคชุดต่อไปก็ต้องพิจารณาเรื่องนี้ด้วย” นายชวนกล่าว

ถามว่าจะยังคงอยู่กับพรรคใช่หรือไม่  นายชวนกล่าวว่า “ผมไม่ไปไหนหรอก ยังไงผมก็ต้องอยู่ เพราะผมเป็นหนี้บุญคุณพรรค ผมเป็นชาวบ้านคนหนึ่ง สามารถทำอะไรได้ เพราะผมมีโอกาสได้อยู่พรรค ถ้าไม่มีพรรคก็ยาก พรรคนี้ให้โอกาส เขาไม่ได้สนใจว่าฐานะ ตระกูลมาอย่างไร ถ้าคนนี้แสดงให้เขาเห็นว่าดีพอที่จะเป็นหัวหน้าได้เขาก็เลือก เพราะฉะนั้นบุญคุณนี้ใช้ไม่หมด ผมก็ต้องตอบแทนบุญคุณเท่าที่ทำมาในช่วงปลายของชีวิตการเมือง

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง พรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้นำพรรคไม่มี "สจฺจํ เว อมตา วาจา" ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้นำพรรคไม่มี "สจฺจํ เว อมตา วาจา"  "ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤต ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิกคือหันหลังเดินออกไปเลย" 

'เชาว์' จวกยับ 'เสี่ยต่อ' ทำลายพรรค

เริ่มต้นเรื่องราวที่อยากบันทึกไว้ ด้วยคำพูดของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ที่กล่าวไว้ในหลายเวทีหาเสียงของพรรคช่วงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ “วันที่ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี "สจฺจํ เว อมตา วาจา" เพราะจากที่เคยบอกจะวางมือทางการเมือง กลับมารับหน้าที่กุมบังเหียนพรรค”

ก้าวแรกของเส้นทางหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัยก็ได้ทำลายหลักการ คำขวัญของพรรค "สจฺจํ เว อมตา วาจา" คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะท่านไม่ได้รักษาสัจจะ สัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ผมไม่ได้รังเกียจนายเฉลิมชัยเป็นการส่วนตัว  แต่การที่นายเฉลิมชัยตระบัดสัตย์ต่อคำพูดตนเองที่ให้ไว้ต่อสาธารณะ แล้วก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสิ่งที่ไม่สง่างามในทางการเมือง และเป็นการทำลายพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทุกคำพูดของนายเฉลิมชัยนับตั้งแต่วันนี้ คือคำพูดของพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัยพูด ก็คือพรรคพูด เพราะฉะนั้นตราบใดที่นายเฉลิมชัยยังเป็นผู้นำพรรค พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่มีความน่าเชื่อถือต่อสาธารณะอีกต่อไป

 “ผมไม่แน่ใจว่านายเฉลิมชัยจะก้มกราบพระแม่ธรณีบีบมวยผมบริเวณลานที่ทำการพรรค ซึ่งมีคำขวัญ “สจฺจํ เว อมตา วาจา” “คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย” จารึกอยู่ใต้ฐานพระแม่ธรณีฯ  ตราสัญลักษณ์ของพรรค อย่างไม่ละอายได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่ได้มีวาจาสัตย์จริง ทุกคำพูดที่พ่นออกมาจะฟื้นฟูพรรค สำหรับผมไม่มีความน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย เพราะวันนี้คำว่า “พรรค” ถูกทำลายจากคำว่า “พวก” “อุดมการณ์” ถูกทำลายเพราะความกระสันในอำนาจและผลประโยชน์ ไม่น่าแปลกใจที่นายเฉลิมชัยจะไม่กล้าฟันธงว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่ร่วมรัฐบาล เพราะบางคนเห็นแสงรำไร กับ 2 โควตารัฐมนตรีในรัฐบาลที่ยังว่างอยู่” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย

ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวถึงกรณีที่มีไลน์กลุ่มประธานสาขาพรรค และตัวแทนสาขาพรรคซึ่งเป็นโหวตเตอร์หลุดว่อนโซเชียล ไม่ให้ยกมือยกเว้นข้อบังคับให้ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า ข้อเท็จจริง สส.ของพรรคส่วนใหญ่และตน ก็ยกมือให้ยกเว้นข้อบังคับให้มีการแข่งขัน และยินดีที่จะเปิดทางให้คนรุ่นใหม่  ส่วนโหวตเตอร์ที่เป็นตัวแทนสาขาพรรคก็แล้วแต่ว่าเขาจะโหวตไปในทิศทางใด  ต้องไปดูว่าผู้ที่กระทำนั้นเป็นใคร หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ร้องเรียนมา  ยินดีที่จะตรวจสอบและพิจารณาให้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า เป็นการล็อบบี้กันก่อนโหวตหรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า สามารถมองกันได้ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากัน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นมาอย่างไร

ทิ้งพรรคถือว่าไม่รักองค์กร

ถามว่า ภายหลังได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แล้ว มีสมาชิกหลายคนเตรียมลาออก ถือว่าเป็นประสบการณ์เลือดไหลซ้ำหรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ผู้ที่บอกว่ารักประชาธิปัตย์นั้น พรรคประชาธิปัตย์เป็นองค์กร มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอีก 4 ปี ต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากเรารักองค์กร ใครที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เราก็พร้อมที่จะทำงานให้

 “หากใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออก แปลว่าไม่ได้รักองค์กร เราต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา หากรักประชาธิปัตย์ เราก็ต้องยืนอยู่กับพรรค ช่วยกันฟื้นฟูพรรค ถ้ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไม่ดี ถึงเวลา 4 ปี ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผมเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่อยู่แล้ว”

เมื่อถามว่า เป็นงานหนักของ กก.บห.ชุดใหม่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ตนในฐานะ กก.บห.ชุดใหม่ พร้อมที่จะรับทุกเสียง ทุกปัญหา รวมถึงทุกคำวิจารณ์ คำแนะนำ ที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เพื่อให้พรรคมีเอกภาพ และกลับมาเป็นพรรคหลักได้เหมือนเดิม คิดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนใหม่ มาเพื่อแก้วิกฤต พวกเราขอร้องท่านมา ท่านก็รับฟังทุกปัญหา เราไม่ใช่พรรคอะไหล่ และเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง

ถามว่าได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ต้องพูดคุยทุกคน เพราะทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ ไม่มีฝ่าย อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ วันนี้ลืมความหลัง และว่ากันในอนาคต ช่วยกันทำ ท่านหัวหน้าพรรคและพวกผม พร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน หลังจากนี้จะเดินหน้าไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ แล้วไปเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราต้องการ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.ระยอง พรรค ปชป. ระบุว่า ‘คนไม่มีสัจจะ จะไม่สามารถนำพรรคได้ในสถานการณ์เช่นนี้’ นายชัยชนะกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของนายสาธิต ที่มีสิทธิ์ที่จะพูดว่ากล่าวได้ ซึ่งเราก็ยอมรับในคำพูดของทุกคน และตนคงไม่ไปโต้เถียงใคร วันนี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง เป็นเวลาที่เริ่มต้นการทำงานที่จะฟื้นฟูพรรค ส่วนใครจะติชมหรือตำหนิอย่างไรเราก็พร้อมรับฟัง เราฟังได้ อดทนได้ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือคำพูดคือ ผลการเลือกตั้งข้างหน้าว่า กก.บห.จะนำพาให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิมหรือไม่

เมื่อถามว่า หากสมาชิกพรรคหลายคนต่อต้าน จะนำไปสู่สถานการณ์พรรคแตกหรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ใครต่อต้าน สมาชิกทั้ง 25 คนที่มีอยู่ตอนนี้ เสียง 23 คนรับได้ ส่วนตัวแทนสาขาพรรค เสียงส่วนใหญ่ก็เลือกมา แล้วคนที่ลาออกรักพรรค หรือรักตัวเอง หากรักพรรคต้องสามารถทำงานได้กับทุกคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค

ถามอีกว่า พร้อมที่จะทำงานเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่า พร้อมจะพลิกขั้วไปร่วมรัฐบาล เนื่องจากในการโหวตเลือกนายกฯ ที่ผ่านมาเคยมีการยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.การคลัง นายชัยชนะ กล่าวว่า การโหวตเรื่องนายกฯ ตนพูดชัดเจนว่าเป็นการหาทางออกให้ประเทศ และเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้บอกว่า โหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน 16 คนที่โหวตให้นายเศรษฐา และหลังจากวันโหวตนายกฯ ต้องดูว่าตนทำงานตรวจสอบ และออกไปอภิปรายนายเศรษฐาหรือไม่ ขณะนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอยู่

"ที่มีข่าวว่าจะไปร่วมรัฐบาลนั้น นั่นคือใครพูด มีจุดประสงค์ดีกับพรรคหรือไม่ที่มาพูดเช่นนี้ พรุ่งนี้ตื่นมาจะหายใจหรือไม่ยังไม่รู้เลย ว่าจะร่วม อย่าไปคาดหวังอนาคตว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่  เพราะนั่นเป็นเรื่องของอนาคต แต่นาทีนี้ เราเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องทำให้ดีที่สุด” นายชัยชนะกล่าว

เชื่อ 'มาร์ค' ไม่โดดเดี่ยว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความว่า สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์ประกาศลาออกจากสมาชิกนั้น ผมเคารพในการตัดสินใจของท่าน เชื่อว่าท่านคิดรอบคอบแล้ว และคิดหนักกว่าจะตัดสินใจได้ เพราะคุณอภิสิทธิ์ศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ คุณอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองที่รักษาสัจจะ รับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง ยึดหลักความถูกต้อง ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง ในสมัยที่คุณอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ไม่มีข้อสงสัยในความสุจริต และความเป็นนักประชาธิปไตยเลย

วันนี้เมื่อคุณอภิสิทธิ์ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าจะทำให้ผู้ที่สนับสนุนและศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเห็นใจและให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์ และคงจะไม่โดดเดี่ยวคุณอภิสิทธิ์ที่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค จะมีสมาชิกอีกหลายคนที่ทยอยลาออกจากสมาชิกพรรค ตามคุณอภิสิทธิ์ไปอย่างแน่นอน

"สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนใกล้ชิดกับคุณเฉลิมชัยทั้งสิ้น และสามารถคอนโทรลให้พรรคเดินหน้าตามที่ต้องการได้ อย่าเพิ่งหวังจะทำให้พรรคมีจำนวน สส.เพิ่มในการเลือกตั้งครั้งหน้า  ขอให้รักษาที่นั่ง 21 สส.ที่สนับสนุนคุณเฉลิมชัยไว้ให้ได้ก่อนก็แล้วกัน" นายเทพไทระบุ

ส่วนนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เขียนข้อความนี้ เพื่อให้กำลังใจ “มาดามเดียร์” (น.ส.วทันยา บุนนาค) ที่เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่ประชุมไม่โหวตให้เธอเข้าแข่งขัน

ผมไม่รู้จักเธอ แต่ผมติดตามการให้สัมภาษณ์ของเธอหลายครั้ง ผมว่าน่าสนใจ เหมือนเธอเป็นคนเรียนรู้เร็ว และรู้ว่า “แก่น” ของพรรคประชาธิปัตย์จริงๆ  อยู่ตรงไหน เธอจึงอาสาเป็นแสงสว่างนำพรรค เหมือน “ดาวเหนือ” ที่นำชาวเรือเดินเรือไปในทิศทางที่ถูกต้อง เสียดาย เธอมาผิดเวลา มาในขณะมีเมฆหมอกปิดปัง มาในขณะมีพายุรุนแรง ชาวเรือจึงมองไม่เห็นแสงแห่งดาวเหนือ อาจเป็นเพราะชาวเรือไม่รู้จักดาวเหนือ หรือมองดาวเหนือไม่เป็น

"ผมทราบว่าคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว สังหรณ์ใจว่า เมื่อชาวเรือมองไม่เห็นประโยชน์แห่งแสงสว่างจากดาวเหนือ เธอก็อาจเป็นเลือดอีกหยดหนึ่งที่จะไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นไร ดาวฤกษ์อยู่ไหนก็มีแสงสว่างในตัวเอง" นายนิพิฏฐ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง