นายกฯ ส่งรองเลขาฯ ลงพื้นที่ให้กำลังใจแรงงานไทย ย้ำรัฐบาลทำทุกวิถีทางช่วยตัวประกันที่เหลืออีก 9 คน “ปานปรีย์” ห่วง “อิสราเอล-ฮามาส” สู้รบกันต่อ กระทบเรื่องปล่อยตัวประกัน เร่งประสานรัฐมนตรีหลายประเทศช่วยอีกแรง ก้าวไกลโต้ใช้ตำแหน่ง "กมธ.แรงงาน" หาประโยชน์
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ได้มอบหมายนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ลงพื้นที่ให้กำลังใจและเยี่ยมญาติแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูที่ถูกจับเป็นตัวประกันในอิสราเอล โดยนายสมคิดได้เดินทางไปยังบ้านนายเสถียร สุวรรณคำ บ้านหัน ต.พร้าว อ.เมืองหนองบัวลำภู และบ้านนายสนธยา อัครศรี บ้านโคกม่วย ต.พร้าว อ.เมืองฯ จ.หนองบัวลำภู นำความห่วงใยและกำลังใจจากนายกรัฐมนตรีมามอบให้กับญาติแรงงาน ยืนยันนายกฯ และรัฐบาลพร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องจะพยายามอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง ที่จะสามารถทำได้ เพื่อช่วยตัวประกันที่เหลือให้ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ นายสมคิดยังได้ไปเยี่ยมเพื่อส่งข่าวยินดีกับครอบครัวนายไพบูลย์ รัตนิน บ้านลาดใต้ ต.ป่าไม้งาม อ.เมืองฯ จ.หนองบัวลำภู ตัวประกันไทยที่เพิ่งถูกปล่อยตัว ซึ่งจะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงเที่ยงวันที่ 3 ธ.ค พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ตัวประกันไทยหลังถูกปล่อยตัว 1 ธ.ค. และกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยของครอบครัวนายวิทูรย์ ภูมี ต.ด่านช้าง หมู่10 บ้านนากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ทั้งนี้ ในวันที่ 4 ธ.ค. นายสมคิด จะเดินทางเป็นตัวแทนนายกฯ เยี่ยมตัวประกันไทยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีต่อไป
จากนั้นเวลา 15.00 น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ ลงพื้นที่เยี่ยม นายอนุชา อ่างแก้ว ตัวประกันที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวและกลับประเทศไทย ที่บ้านเลขที่ 61/9 บ้านดอนพิลา ต.ปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายปานปรีย์ได้สวมกอดนายอนุชา พร้อมทักว่าหน้าตาสดใส ก่อนจะบอกว่าอิ่มท้อง ขณะที่พ่อของนายอนุชามอบมาลัยขอบคุณและกล่าวว่า ดีใจเป็นที่สุดที่ลูกชายปลอดภัยและเดินทางกลับ ขณะเดียวกัน นายปานปรีย์ได้ทักทายภรรยาและลูกของนายอนุชา ก่อนจะพาคณะร่วมพิธีผูกแขนรับขวัญแก่นายอนุชา ซึ่งถือเป็นประเพณีของชาวอีสาน
หลังเสร็จสิ้นพิธี พ่อของนายอนุชา กล่าวทั้งนํ้าตาว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มาให้กำลังใจ ถ้าไม่มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ อาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้ วันนี้ดีใจมากไม่คิดว่าจะได้มีวันนี้ พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานราชการที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ ส่วนภรรยาของนายอนุชา กล่าวขอบคุณไปยังนายกฯ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา รวมถึง สส.ในพื้นที่ ขณะที่นายอนุชาได้ก้มลงกราบตักและสวมกอดนายปานปรีย์
นายปานปรีย์ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยว่า ภายหลังจากที่ตนเองเดินทางกลับมาประเทศไทย ได้รับรายงานทันทีว่ายิงกันอีกแล้ว เราภาวนาให้เขาหยุดยิง และให้ส่งตัวประกันทั้งหมดกลับมาโดยเร็ว ซึ่งตรงนี้เรามีความเป็นห่วงและกังวลมาก หากยิงกันอยู่คงยังไม่ปล่อยตัวประกันในเวลานี้ เนื่องจากการเดินทางอาจไม่ปลอดภัย แต่มีความหวังอย่างยิ่งว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นใหม่ ทั้งนี้ ตัวประกันทั้ง 23 คนรอดปลอดภัยแล้ว แต่ยังเป็นห่วงอีก 9 คน ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศต้องทำงานต่อในการนำตัวประกันอีก 9 คน กลับมา และได้เร่งติดต่อกับรัฐมนตรีในหลายประเทศที่เคยประสานกันไว้ในการช่วยเหลือ ซึ่งเขายืนยันที่จะดำเนินการเช่นเดิม เพื่อให้นำตัวประกันออกมาจากพื้นที่ฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม วันที่ 4 ธ.ค. จะมีตัวประกันเดินทางกลับมาอีก 6 คน
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" ได้เผยแพร่จดหมายที่นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน แจ้งถึงนายแทนคุณ จิตต์อิสระ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ลงวันที่ 30 พ.ย.66 ชี้แจงถึงการกระทำของนายสุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.แรงงาน คนที่สอง ที่ระบุว่าได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสานข้อมูลเพื่อช่วยเหลือคนไทยในประเทศอิสราเอล โดยเสนอให้ตำแหน่งกับผู้ประสานงานในพื้นที่อิสราเอล และเตรียมนำข้อมูลไปเสนอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่เกี่ยวข้องกับ กมธ.แรงงานนั้น
นายสุเทพได้ชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดหลังจากที่มีเหตุการณ์สู้รบในอิสราเอล โดย กมธ.แรงงานได้พูดคุยเพื่อตั้งอนุ กมธ. เพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาของแรงงานไทยในอิสราเอล ขอให้ กมธ.พิจารณาบุคคลที่มีความรู้เข้าร่วมเป็นอนุ กมธ. ทำให้ตนนำข้อมูลนี้ไปคุยกับผู้ประสานงาน ในเบื้องต้นผู้ประสานงานระบุว่ายินดี แต่ขอปรึกษาทีมงานก่อน จากนั้นผู้ประสานงานเงียบไป ทาง กมธ.แรงงานจึงแต่งตั้งบุคคลอื่นมาทำหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย จนกระทั่งมีการไปร้องเรียนดังกล่าว
ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่ามีการแอบอ้างหรือสัญญาว่าจะให้จาก 2 บุคคล ที่แจ้งร้องทุกข์มาที่เพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ นั้น นายสุเทพกล่าวว่า "จะสัญญาได้อย่างไร เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการตั้ง กมธ.ด้วยซ้ำ แต่ในภายหลังผมไม่รู้ว่าผู้ประสานงานไม่พอใจเรื่องอะไร และก็ไม่อยากไปสืบว่ามีกระบวนการอะไรหรือไม่ ผมยืนยันเลยว่าไม่มี ผมจะไปต่อรองเขาเพื่ออะไร สุดท้ายก็ไม่ได้แต่งตั้งเขา จะไปเรียกร้องผลประโยชน์เพื่ออะไร ยืนยันด้วยเกียรติของคนใช้แรงงาน ที่ผมเข้ามาทำงานใน กมธ.แรงงาน เพราะมองว่าน่าจะช่วยเหลือพี่น้องแรงงานได้ ผมจะไม่ทำเรื่องอย่างนั้นเลย ถ้าผมทำอย่างนั้นจริง ผมลาออกจากการเป็นผู้แทนฯ เลยดีกว่า".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ปลุกทุกภาคส่วน ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวีดิทัศน์ว่า เนื่องในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประจำปี 2567
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม