9 ธ.ค. ได้แน่หัวหน้า ‘ประชาธิปัตย์’

ประชาธิปัตย์ ๐ โฆษก ปชป.มั่นใจ 9 ธ.ค.ได้หัวหน้าคนใหม่แน่ ยืนยันเป็นฝ่ายค้านควบคู่กับฟื้นฟูพัฒนาพรรค   ​ขณะที่ "มาดามเดียร์" พร้อมเต็มที่ ปล่อยคลิปถึงชาวประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ต้องตั้งคำถามใหม่กับตัวเองว่า อนาคตของลูกหลานที่จะต้องอยู่ไปถึงศตวรรษหน้า อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ไปในลักษณะใด

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์   แถลงถึงแนวทางการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการประชุมใหญ่วิสามัญที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ธ.ค.ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเลขาธิการพรรคและรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีการจัดเตรียมสถานที่ และกำหนดองค์ประชุมตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อที่ 81 และที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองว่าจะต้องมีไม่น้อยกว่า 250 ท่าน แต่ในส่วนของข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเตรียมองค์ประชุมไว้เบื้องต้น 346 คน และมีมติของรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคที่ให้มีการกำหนดองค์ประชุมสำรองอีก 150 ท่าน ซึ่งจะเป็นบุคคลที่จะไปร่วมประชุมเป็นองค์ประชุมในการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อที่จะเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับขั้นตอนการเลือกหัวหน้าพรรค จะไปยุติในวันที่ 9 ธ.ค. กล่าวคือ แม้ว่าขณะนี้จะมีความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคที่ได้เปิดตัวบ้างแล้ว และอาจจะมีสมาชิกพรรคท่านอื่นที่ยังไม่เปิดตัวต่อสาธารณะ ซึ่งสมาชิกพรรคทั้งที่มีการเปิดตัวและยังไม่ได้เปิดตัวต่อสาธารณะขณะนี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้แสดงเจตจำนงในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่เรียกว่าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค  เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการตามข้อบังคับพรรคก่อน ซึ่งในวันที่ 9 ธ.ค. เมื่อมีการเปิดประชุมแล้ว จะมีการเข้าสู่ระเบียบวาระของการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็จะมีสมาชิกซึ่งเป็นองค์ประชุมเสนอชื่อของผู้แสดงเจตจำนงหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งต่อที่ประชุม พร้อมกับจะต้องมีผู้รับรอง  และเมื่อมีการตรวจสอบคุณสมบัติถูกต้อง ก็จะหมายความว่าผู้แสดงเจตจำนงเหล่านั้นก็จะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการ

“ผมมีความมั่นใจว่าในวันที่ 9 ธันวาคมที่จะถึงนี้ พรรคจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ และเชื่อมั่นว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่จะนำพาพรรคก้าวเดินต่อไปในอนาคต และก็เชื่อมั่นด้วยความเป็นสถาบันทางการเมือง บุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องยึดหลักการของพรรค มุ่งมั่นฟื้นฟูพัฒนาพรรคให้เข้ากับสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  และที่สำคัญที่สุดก็จะมาเป็นผู้นำในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนและประเทศ เป็นผู้นำพาพรรคให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาพรรคให้มีความยั่งยืนในอนาคตต่อไป” นายราเมศกล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า    เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าพรรคแล้ว ก็ยังทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนและประเทศ พร้อมกับจัดการบริหารพรรคควบคู่กันไป ตั้งแต่เรื่องการปรับปรุงฟื้นฟูพัฒนาพรรคในเรื่องต่างๆ โดยเชื่อว่าคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะนำพาพรรคเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้าได้

ด้าน น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 4.59 นาที ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว “เดียร์ วทันยา บุนนาค”  เพื่อสื่อสารไปยังสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และประชาชนทั่วประเทศ ภายหลังจากที่ได้มีการแถลงเปิดตัวอาสาสมัครลงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 โดยระบุว่า ท่ามกลางความสงสัยของผู้คนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนไว้วางใจได้หรือไม่ สงสัยในพลังประชาธิปไตยและจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ และความฝันของประชาธิปัตย์ที่มีต่อประเทศนี้ในวันข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งกว่า 77 ปีที่พรรคประชาธิปัตย์ผ่านร้อนหนาววิกฤตมากมาย มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา

"จุดหัวใจความเป็นประชาธิปไตยที่อยู่ในสมาชิกพรรคทุกคนไม่เคยเปลี่ยน แม้พรรคประชาธิปัตย์จะก้าวมาไกลแล้วจนถึงในวันที่เราต้องตั้งคำถามใหม่กับตัวเองว่า อนาคตของลูกหลานที่จะต้องอยู่ไปถึงศตวรรษหน้า อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ไปในลักษณะใด"

น.ส.วทันยากล่าวต่อว่า วันนี้คือห้วงเวลาที่สำคัญที่สุด และเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินก้าวต่อไป จึงขออาสาเสนอตัวลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอยากเชิญชวนทุกคนกลับเข้ามาร่วมฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ให้แข็งแรง ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง ร่วมสร้างวัฒนธรรมการเมืองใหม่ เป็นธรรม รักษาคำพูด ไม่ใช่การเมืองแสวงหาอำนาจและประโยชน์ของตัวเอง เพื่อให้กลับมาเป็นความหวังของประเทศ และเป็นทางเลือกของผู้คนที่มีสิทธิเลือกตั้งได้อีกครั้ง

เธอเผยว่า พร้อมที่จะยืนเคียงข้างกับทุกคนในทุกๆ ความท้าทาย จะรับฟังทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เราไม่เห็นพ้องต้องกัน เพราะตนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และทำให้พรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นพรรคของประชาชนทุกคน เป็นพรรคที่เปิดกว้างพร้อมรับฟังและเคารพในเสียงของผู้คนที่หลากหลาย  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในสังคมได้อย่างตรงจุด มีการสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเท่าเทียม และมีคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พร้อมทั้งจะเปิดโอกาสให้คนทุกรุ่นที่มีไฟ  มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถสูง หลากหลายสาขาอาชีพ โดยไม่ยึดติดกับระบบอุปถัมภ์ ได้เข้ามาช่วยกันนำประเทศชาติ สถาบันการเมืองต่างๆ และสถาบันสำคัญของชาติไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต

“ชัยชนะครั้งนี้เพียงอย่างเดียวไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงที่เรามองหา และการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ไม่ว่าเดียร์จะแพ้หรือชนะก็ไม่สำคัญ แต่มันควรจะเป็นชัยชนะของทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์ ในการนำพาให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เติบโตงอกงามท่ามกลางใจของประชาชนอีกครั้ง นำพาความหวังของพี่น้องประชาชนที่เลือกเราไปสู่ความเป็นจริงและพบกับอรุณรุ่งวันใหม่ที่สดใสของประเทศไทย”

ผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า วันที่ 9 ธันวาคมที่จะถึงนี้  เป็นอีกครั้งที่จะได้พิสูจน์ว่าความเข้มแข็งที่แท้จริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่มาจากความคงมั่นของอุดมการณ์ ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความหวัง โอกาส และความหวังอันแข็งแกร่ง จะยังมีหลงเหลืออยู่ในหัวใจของเราหรือไม่ เพราะนี่คือหลักการเริ่มต้นของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นเหตุผลที่เราจะต้องร่วมกันฟื้นศรัทธาของประชาชนในวันที่ก่อตั้งพรรคกลับมาเหมือนวันก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์

"ดิฉันเชื่อมั่นในตัวพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะพาเราจะไปถึงจุดนั้น และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมดิฉันถึงมายืนในจุดนี้ และอยากจะขอให้ทุกคนมองไปยังเป้าหมายและเดินไปสู่อนาคตด้วยกัน เพราะเราจะไม่ใช่แค่พรรค แต่เราจะเป็นความหวังและความศรัทธาของประชาชน เพราะประชาธิปัตย์เท่ากับประชาชน เพราะประชาชนคือประชาธิปัตย์" น.ส.วทันยากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง