หมูเถื่อนชนตอ!เด้งอธิบดีDSI

หมูเถื่อนพ่นพิษ! เด้งอธิบดีดีเอสไอ “สุริยา สิงหกมล” ไปนั่งเก้าอี้รองปลัดยุติธรรม คาดเหตุบุกค้นสยามแม็คโคร “เศรษฐา” โยน รมว.ยธ. ชงมา "ทวี" อ้างย้ายมานั่งตำแหน่งสำคัญ ปัดอคติกลั่นแกล้ง “อนุทิน” ครม.ไฟเขียวโยก 28 ตำแหน่งใหญ่ ทั้ง 10 ผู้ตรวจการ-18 ผู้ว่าฯ หน้าใหม่

เมื่อวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2566  น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงยุติธรรมเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวชี้แจงกรณีที่ประชุม ครม.โยกย้าย พ.ต.ต.สุริยาว่า ที่ประชุม ครม. ไม่มีการอภิปรายใดๆ เพราะเป็นข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เพื่อให้การบริหารราชการของกระทรวงมีความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงปรับเรื่องบุคลากรตามที่เสนอมา ครม.เห็นชอบ ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลมาเป็นอธิบดีดีเอสไอ และยังไม่ได้แต่งตั้งใครรักษาการแทน ซึ่งตามกระบวนการคือ เมื่อไม่มีอธิบดี รองอธิบดีปฏิบัติหน้าที่แทนไปก่อน 

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 13/2566 ในเรื่องนี้ว่า รมว.ยุติธรรมเป็นผู้เสนอมาตามความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การโยกย้ายเกี่ยวข้องกับการเข้าตรวจหมูเถื่อนใช่หรือไม่  นายกฯ ไม่ตอบคำถาม

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ไม่ใช่เป็นการเด้ง แต่เป็นการบริหารราชการของ ยธ. ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทุกกระทรวงจะมีการโยกย้าย

เมื่อถามว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องหมูเถื่อนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่เกี่ยว ท่านทำหน้าที่มาดีอยู่แล้ว

ภายหลัง ครม.มีมติโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา ปรากฏว่าเฟซบุ๊ก DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้โพสต์ข้อความว่า วิถีราชการ พร้อมภาพ พ.ต.ต.สุริยา ซึ่งมีข้อความระบุว่า “ทำใจอยู่ตลอดเวลานับแต่มานั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดที่นี่แล้วครับว่าต้องถึงวันนี้ แต่ผมเลือกทางเดินและวิถีผมเองตั้งแต่ต้น ไม่เสียใจครับ เพราะทำเต็มที่แล้ว เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกท่านครับ 28 พ.ค.2566”

คาดเหตุุบุกค้นแม็คโคร

รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุการโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา คาดว่าเกิดจากการเข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เพื่อขอพยานหลักฐานเพิ่มในคดีหมูเถื่อน อาจทำให้กระทบต่อบุคคลในแวดวงการเมือง จนมีคำสั่งเด้งฟ้าผ่าเพียงข้ามคืน ทั้งนี้ ตามระเบียบราชการ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งอาวุโสสุดจะทำหน้าที่รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอไปก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

สำหรับการดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอของ พ.ต.ต.สุริยานั้น เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม ได้ลงนามเซ็นคำสั่งเรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการและรักษาราชการแทน โดยให้ พ.ต.ต.สุริยา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ย้ายสลับตำแหน่งกับนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ โดยระบุเหตุผลว่า เพื่อให้การบริหารงานของดีเอสไอและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ  ทำให้ พ.ต.ต.สุริยาเป็นอธิบดีดีเอสไออยู่ประมาณ 315 วัน            

ต่อมาในช่วงเย็น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า  เหตุที่ต้องมีการเสนอโยกย้าย เนื่องจาก พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรัตน์ ได้ถูกย้ายไปดำรงเลขาธิการ ศอ.บต. ทำให้ตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนว่างลง จึงจำเป็นต้องเสนอย้าย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว และเนื่องจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรมมีความสำคัญที่จะต้องขับเคลื่อนงานนโยบายของกระทรวงในภาพรวม กำกับงานของกรมในกลุ่มภารกิจ รวมทั้งประสานงานหน่วยงานต่างกระทรวง ซึ่ง พ.ต.ต.สุริยามีประสบการณ์ผ่านงานระดับอธิบดี ที่ปรึกษาหลายหน่วยงาน  เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงที่ว่างจากการเสนอแต่งตั้งในครั้งนี้ โดยเฉพาะการยกระดับหลักนิติธรรมของประเทศ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในกระบวนการยุติธรรม

ส่วนข้อกังวลในการดำเนินคดีสำคัญตามนโยบายรัฐบาลในภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินคดีดังกล่าว โดยการพิจารณาดำเนินการจะยังคงเป็นไปตามพยานหลักฐาน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามมาตรฐานการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษทุกประการ

 “การแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถของผู้รับแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงเอกภาพและความรู้ความสามารถในการบังคับบัญชา โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและส่วนรวมเป็นสำคัญ ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือมีอคติใดๆ รวมทั้งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เป็นที่สนใจของสังคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือคดีหมูเถื่อน โดยคดีดังกล่าวจะมีการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาจนถึงที่สุด และครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ”  รมว.ยุติธรรมระบุ

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงการเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง 28 ตำแหน่งว่า ได้ลงนามไปตั้งแต่การประชุม ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย. แต่ติดไปราชการที่ต่างประเทศ นายกฯ เลยบอกว่า ขอให้กลับมาก่อน ซึ่งได้ลงนามยืนยันไปแล้วว่าขอเสนอเข้า ครม.ในวันนี้ ซึ่งรายชื่อเหมือนเดิม เปลี่ยนไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการ มีขั้นตอนการสรรหามา โดยเฉพาะรอบนี้มีระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย เขาจึงต้องสอบ ผ่านคุณสมบัติ และคัดเลือกมา รัฐมนตรีไม่มีอำนาจไปเปลี่ยน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวสาเหตุที่ ครม.ครั้งที่แล้วไม่เรียบร้อย เพราะมีความพยายามอยากเปลี่ยนรายชื่อใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ความอยากเกิดขึ้นได้เสมอ แต่จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนอยู่ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย

โยก 28 บิ๊ก ขรก.มท.

ขณะที่นายชัยแถลงว่า ที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง สังกัด มท. 28 ราย แบ่งเป็น 18 ผู้ว่าราชการจังหวัด และ 10 ผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป  ประกอบด้วย 1.นายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าฯ จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 2.นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 3.นายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าฯ จังหวัดเลย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 4.นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 5.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าฯ จังหวัดตาก เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 6.นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงราย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 7.นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 8.นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าฯ จังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 9.นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ว่าฯ จังหวัดราชบุรี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 10.น.ส.เอกรัตน์ นาคาคง รองผู้ว่าฯ จังหวัดอ่างทอง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง

11.นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าฯ จังหวัดกระบี่ เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดกระบี่ 12.นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าฯ จังหวัดระยอง เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดชัยภูมิ 13.นายทรงกลด สว่างวงศ์ รองผู้ว่าฯ จังหวัดตรัง เป็นผู้ว่าจังหวัดตรัง 14.นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รองผู้ว่าฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดตราด 15.ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าฯ จังหวัดปัตตานี เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดนราธิวาส 16.นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าฯ จังหวัดน่าน เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดน่าน 17.นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ รองผู้ว่าฯ จังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดบึงกาฬ 18.นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าฯ จังหวัดชลบุรี  เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 19.นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดพะเยา 20.นายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าฯ จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดพิจิตร

21.นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าฯ จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดยโสธร 22.นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าฯ  จังหวัดนครสวรรค์ เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดระนอง 23.นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าฯ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดเลย 24.นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าฯ จังหวัดหนองคาย เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดสกลนคร 25.นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าฯ จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดสมุทรสงคราม 26.นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าฯ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดสิงห์บุรี 27.ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ว่าฯ จังหวัดอำนาจเจริญ และ 28.นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าฯ จังหวัดลำปาง ตำแหน่งผู้ว่าฯ จังหวัดอุตรดิตถ์.