‘ชวน’ เตือนระวังคุก แนะ ‘เศรษฐา’ เงินดิจิทัล-ผู้กำกับมีความเสี่ยงอดีตเคยเกิดแล้ว

ปทุมวัน ๐ จับตา! "เศรษฐา” นัดประชุม ก.ตร. ถกวาระ ผบ.ตร. ขออนุมัติ ก.ตร.ใช้อำนาจแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ กรณีที่มีปัญหา ตามมาตรา 86 ที่ พ.ร.บ.ตำรวจกำหนด ควันหลงผู้กำกับใหม่ "เด็จพี่" ตอก "รังสิมันต์" กลับไปกวาดบ้านตัวเองก่อน เพราะมีทั้งตั้งผัว-เมียเป็นผู้ช่วย รับงานเอ็น จัดหาเด็กชงเหล้าปาร์ตี้ ชาย-หญิง คุกคามทางเพศยังอุ่นอยู่ "ชวน" เตือนนายกฯ ระวังคุก

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะเดินทางมาเป็นประธานในการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 13/2566 ในวันอังคารที่ 28 พ.ย. เวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดยมีวาระประชุมดังนี้  วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ, วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 11/256, วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ (เรื่องที่ 1) รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.วินัย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน (เรื่องที่ 2) รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.อุทธรณ์ ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน (เรื่องที่ 3) รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.กฎหมาย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน (เรื่องที่ 4) ขอสำเนารายงานการประชุม ก.ตร.

วาระที่ 4 เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา (เรื่องที่ 1) การเลือกผู้แทนองค์กรกลางบริหารงานบุคคลเป็นกรรมการสวัสดิการข้าราชการ (เรื่องที่ 2) การแต่งตั้ง อ.ก.ตร.คณะต่างๆ (เรื่องที่ 3) ร่างระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางเรือ พ.ศ. (เรื่องที่ 4) การพิจารณาทบทวนเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจตามกลุ่มสายงานในสังกัด สตม. (เรื่องที่ 5) การเลื่อนเงินเดือนหรือให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ประจำปี 2566 ครั้งที่ 2 ครึ่งปีหลัง (1 ต.ค.66) แก่ข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือนระดับ ส.6 ขึ้นไป (เรื่องที่ 6) ขออนุมัติกำหนดเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร.กำหนด ตามมาตรา 86 แห่ง พร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่ง นว. และผู้ช่วย นว. และรอง ผบก.ประจำ ตท.

(เรื่องที่ 7) ขออนุมัติกำหนดเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร.กำหนด ตามมาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กรณีการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่อยู่ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 33 โดยให้ ผบ.ตร. มีอำนาจสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในส่วนราชการอื่นได้ (เรื่องที่ 8) ขออนุมัติกำหนดเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร.กำหนด ตามมาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.ลงมา เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการ หรือหน่วยงานอย่างอื่น หรือในระดับต่ำลงไปในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ ผบ.ตร.มีอำนาจสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับรอง ผบก.ลงมาได้ตามควรแก่กรณี (เรื่องที่ 9) การจัดทำทำเนียบผู้มีทักษะหรือถนัดเฉพาะด้านสำหรับข้าราชการตำรวจ (เรื่องที่ 10) ร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ....วาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

สำหรับมาตรา 86 ระบุไว้ว่า ในกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นว่าการใช้อำนาจในการแต่งตั้งของผู้บัญชาการไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร.กำหนด หรือมีเหตุผลความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ข้าราชการตำรวจซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่มาตรา 77 (7) ลงมา พ้นจากพื้นที่หรือหน้าที่ หรือเห็นว่าหากดำรงตำแหน่งเดิมต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ หรือมีเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร. กำหนด ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77(7) ลงมาได้ตามควรแก่กรณี

'เด็จพี่' กริ้ว 'โรม'

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาโจมตีการแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับการและเรียกร้องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกว่า เรื่องดังกล่าวนายกรัฐมนตรีได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจนั้นนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจแทรกแซงและไม่เคยก้าวก่าย เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะพิจารณาตามผลงาน ตามอาวุโส สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดคือเรื่องปัญหาในพื้นที่ ปัญหายาเสพติดที่อยากให้ดูแลก็เท่านั้น

เขากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพูดเรื่องความ ไม่ใช่เรื่องคน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ก็ออกมาปฏิเสธว่าเรื่องตั๋วไม่มีอยู่จริง จะนายกรัฐมตรีหรือ สส.คนไหนก็ไม่เคยมาฝาก การแต่งตั้งโยกย้ายต้องทำตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และมีกรอบที่วางไว้อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ และพรรคฝ่ายค้านไม่ควรหยิบเอาประเด็นมาผูกเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งๆ ที่เรื่องไม่มีข้อเท็จจริง

"แปลกใจที่คุณรังสิมันต์กล้าออกมาวิจารณ์นายกรัฐมนตรี กรณีนี้ ทั้งที่ ส.ส.ภายในพรรคของตัวเองแต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วย หนักไปกว่านั้น ตามข่าวยังบอกว่าอาสาสมัครในทีม สส.คนนั้นรับงานเอ็น จัดหาเด็กชงเหล้าปาร์ตี้ชาย-หญิง อีก ควรกลับไปดูแลปัดกวาดบ้านตัวเองก่อนจะดีกว่า โดยเฉพาะปัญหาคุกคามทางเพศ ที่ภายในพรรคของคุณรังสิมันต์เองยังอุ่นๆ อยู่ เรื่องการแต่งตั้งผู้ช่วยก็ตามมาติดๆ คุณรังสิมันต์ก็ยังมีเวลามาแซะมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นได้อีก เหมือนว่าสิ่งที่คุณรังสิมันต์กำลังทำหรือจุดประเด็นอยู่ก็เพื่อกลบข่าวหรือเบี่ยงประเด็นเรื่องภายในบ้านตัวเองเท่านั้นหรือไม่" นายพร้อมพงศ์กล่าว

ขณะที่ นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาวิพากษ์วิจารย์ด้อยค่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่มีผลงาน และคะเเนนเพียง 3 เต็ม 10 ว่า รัฐบาลเพิ่งทำงานได้เพียง 2 เดือนเศษเท่านั้น งานที่ทำคือทุ่มเทชำระล้างสิ่งเสียหายที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดเก่าที่มีพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันและการเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน ที่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาบริหารประเทศบกพร่องผิดพลาด ทำให้คนไทยยากจนกันทั้งประเทศ ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนทำได้แบบนี้มาก่อน ยิ่งปัญหายาเสพติดด้วยแล้ว ระบาดกันทั้งบ้านทั้งเมือง เด็กและเยาวชนไปจนถึงผู้ใหญ่ติดกันทั่วถึง  การค้าขายฝืดเคือง การส่งออกตกต่ำ ราคาพืชผลเกษตรข้าว อ้อย ยางพารา ปศุสัตว์ ราคาตกต่ำย่ำแย่กันทั้งประเทศ อย่างนี้พรรคประชาธิปัตย์มองว่าเป็นผลงานของการร่วมรัฐบาลชุดเก่าหรือไม่

'ชวน' เตือนระวังคุก

นายพายัพกล่าวต่อว่า การที่นายชัยชนะมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แต่ยังไม่ทันที่นายเศรษฐาจะเข้าไปชี้แจงในคณะกรรมาธิการฯ ก็เร่งสรุปว่านายกรัฐมนตรีมีความผิดแล้ว โดยไม่ยอมฟังให้สิ้นกระแสความ กลับพยายามชี้นำสังคมเสียก่อนแล้ว อย่างนี้จะยังเชื่อถือคณะกรรมาธิการชุดนี้ได้อยู่อีกหรือไม่

“นายกรัฐมนตรีทุ่มเททำงานดูแลสารทุกข์สุกดิบประชาชนอย่างหนัก และต้องทำงานร่วมกับข้าราชการทุกฝ่ายรวมทั้งตำรวจด้วย ปัญหาของแต่ละหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนจากประชาชนและสื่อมวลชนมาก็มีอยู่มาก จึงจำเป็นต้องกำกับดูแลให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล คือบำบัดทุกข์บำรุงสุข ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ ค่อนแคะคนนั้นทีคนนี้ที ทั้งที่บ้านตัวเองก็ยังไม่เรียบร้อย ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงควรไปกวาดบ้านตัวเองเสียก่อน ให้มีหัวหน้าพรรคตัวจริงให้ได้เสียก่อนค่อยมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น” นายพายัพกล่าว

ด้านนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลจะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน เพื่อใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต โดยเฉพาะความเห็นต่างจากผู้ว่าฯ ธปท.ว่า เป็นความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ได้เป็นผู้ที่มีอคติทางการเมือง รัฐบาลควรจะนำไปคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และรัฐบาลต้องระมัดระวัง หากมีการออก พ.ร.บ.กู้เงิน อาจจะเสี่ยงทำให้ต้องติดคุก ถ้าละเมิดระเบียบวินัยการเงินของกระทรวงการคลังขึ้นมา เพราะในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดหลุดปากพูดถึงเรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการ และผู้กำกับการใหม่ ที่นายกรัฐมนตรีอาจจะไม่ทราบว่ากฎหมายเขียนไว้ว่าอย่างไร คนใกล้ชิดอาจจะต้องเตือนว่า ถ้าใช้ตำแหน่งทางการเมืองในการโยกย้ายตำรวจ หรือข้าราชการตามที่ สส.ขอมา เป็นการทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีอาจจะพูดไปโดยที่ไม่รู้ เพราะถือว่ายังเป็นนักการเมืองมือใหม่ ถ้านักการเมืองที่มีความอาวุโสหรือมีประสบการณ์ จะรู้วิธีการพูดเป็นอย่างดี" นายชวนกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิธา’อ้อนให้รอ9ปี พร้อมเป็นนายกฯดีกว่าเดิม/‘พท.’มั่นใจ‘ทักษิณ’ยังขายได้

"แกนนำพรรคส้ม" เดินสายหาเสียงนายก อบจ.อุดรฯ ต่อเนื่อง "ชัยธวัช" ลั่นนโยบายที่ท้องถิ่นในอดีตไม่พร้อมทำ "ปชน." พร้อมทำให้ดู