เศร้า!2ทัวร์ไทยดับเจ็บเพียบเที่ยวตุรกี

กต.ออกแถลงการณ์หนุนอิสราเอล-ฮามาสหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม   “ปานปรีย์” ไม่ฟันธงปล่อยตัวประกันคนไทย 23 คนจริงหรือไม่ แต่เชื่อมีข่าวดี เศร้า! รถทัวร์ตุรกีชนป้ายข้างทาง มีลูกทัวร์ไทยดับ 2 สาหัส 2 รับเพิ่ม 24 คนไทยจากเล่าก์ก่าย

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดในตะวันออกกลาง : การหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม และการปล่อยตัวประกัน ความว่า กต.มีความยินดีกับความตกลงล่าสุดที่จะเริ่มปล่อยตัวประกันที่ถูกจับไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลและฉนวนกาซาเพิ่มเติมในวันนี้ ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าอันสำคัญหลังความพยายามในการเจรจาอย่างเต็มที่ของทุกฝ่ายในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา  และมีความยินดีที่มีการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม ตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าถึงผู้ที่ต้องการได้  ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แนวโน้มเชิงบวกนี้จะสามารถดำรงไว้จนนำไปสู่การปล่อยตัวประกันทั้งหมด ซึ่งมีคนไทยผู้บริสุทธิ์รวมอยู่ด้วย โดยเร็วที่สุด ตามที่ไทยได้เรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง

กต.ขอขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลกาตาร์ อิสราเอล สหรัฐอเมริกา อียิปต์ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ และทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในความพยายามและการเจรจาเพื่อนำมาสู่การปล่อยตัวประกันครั้งล่าสุดนี้ และขอแสดงความปรารถนาดีไปยังผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวและครอบครัวด้วย

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ห่วงใยและได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการช่วยเหลือตัวประกันไทยที่อยู่ในพื้นที่สู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

“นายกฯ ติดตามสถานการณ์ด้วยความหวัง สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการด้วยทุกวิถีทางในทุกช่องทาง เพื่อให้คนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด”

ขณะที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศอ้างว่ากลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันชาวไทย 23 คน ว่าเป็นข่าวที่เราไม่สามารถยืนยันได้ ไม่ใช่ข่าวที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการประสานงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันนี้รัฐบาลกาตาร์จะมีการประชุมกัน ซึ่งน่าจะมีผลความคืบหน้าออกมาหลังจากการประชุมดังกล่าว และน่าจะเป็นข่าวดี

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมพร้อมรับตัวคนไทยที่จะถูกปล่อยตัวออกมา นายปานปรีย์กล่าวว่า กต.เตรียมความพร้อมและวางแผนต่างๆ ครบถ้วนในการรอรับตัวประกันชาวไทยตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมีการปล่อยตัวผ่านชายแดนประเทศอิสราเอลหรือผ่านประเทศอื่น ซึ่งเราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับที่จุดปล่อยตัว และถ้ามีตัวประกันที่ได้รับบาดเจ็บ ทางการอิสราเอลอาจยังไม่ปล่อยตัวจนกว่าบุคคลนั้นจะได้รับการรักษาพยาบาลให้สุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ จึงอาจมีการนำตัวประกันที่ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาพยาบาลไว้ระยะหนึ่ง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้มีแรงงานไทยกลับจากอิสราเอลแล้ว 9,500 คน แต่มีคนไทยลักลอบกลับไปทำงานที่อิสราเอลประมาณ 10 คน ซึ่งเมื่อเหตุการณ์สงบก็มีแรงงานที่แจ้งความจำนงขอกลับไปทำงานที่อิสราเอลประมาณ 25% แต่ถ้าเหตุการณ์สงบแล้วจริงๆ คิดว่าเกิน 80% อยากกลับไปทำงานที่อิสราเอล เพราะบางคนเพิ่งไปทำงานที่อิสราเอลได้ไม่กี่เดือน ภาระหนี้สินที่เกิดก่อนไปทำงานก็ยังมีอยู่ แม้ว่ารัฐบาลกำลังจะเยียวยาคนละ 50,000 บาท และมีมาตรการพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ในวงเงิน 150,000 บาท ระยะเวลา 3 ปี แต่หากเขาไม่มีรายได้ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเงินต้นและดอก จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงานที่จะต้องช่วยให้คนเหล่านี้ให้มีงานทำ แม้ว่าจะไม่ใช่ที่อิสราเอลก็ตาม

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ารถทัวร์นำเที่ยวที่มีคนไทยร่วมเดินทาง 26 คน ประสบอุบัติเหตุชนกับป้ายข้างทางอย่างรุนแรงที่เมืองเดนิซลี ซึ่งห่างจากกรุงอังการา 476 กิโลเมตร มีไกด์และนักท่องเที่ยวชาวไทยเสียชีวิต 2 ราย รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 22 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาล Cardak, Denizli และ Pamukkale

วันเดียวกัน ยังมีความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกล่อลวงไปทำงาน ในเมืองเล่าก์ก่าย รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ว่าได้รับการประสานจากคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ฝั่งเมียนมา ว่าจะนำคนไทย 24 คน เดินทางกลับประเทศไทย ทางฝ่ายไทยจึงได้ร่วมกับสถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับคนไทยทั้ง 24 คน บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยนำรถตู้จำนวน 3 คันเข้าไปรับ เมื่อเดินทางกลับถึงไทย แล้วจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.