“ราเมศ” ยันเลือก กก.บห.ปชป.ชุดใหม่ 9 ธ.ค.ไม่ล่มแน่ ระบุนอกจาก “นราพัฒน์” ยังมี “มาดามเดียร์” ลงชิงหัวหน้าคนใหม่ด้วย เผย “ทีมกฎหมายพรรค” เตรียมเรียก “เกศกานดา” แจงซื้อเสียง พร้อมย้ำทำงานกับ “ก้าวไกล” ได้ แต่ต้องสอดคล้องกัน
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหาร (กก.บห.) ชุดใหม่ว่า พรรคจะมีประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน หลักสี่ โดยให้เพิ่มองค์ประชุมสำรอง 150 คนตามข้อบังคับพรรค เพื่อแก้ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ และให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการประชุมใหญ่วิสามัญในการเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห. อย่างไรก็ตาม กรณีจำนวนองค์ประชุมทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค 19 กรณี ตั้งแต่ข้อบังคับ ข้อที่ 1 ถึงข้อที่ 18 ซึ่งมีทั้ง กก.บห., สมาชิกพรรค, สส.พรรค, อดีต สส., อดีตรัฐมนตรี, อดีตหัวหน้าพรรค หรืออดีตเลขาธิการพรรค, สมาชิกที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด, สมาชิก อบจ., ส.ก., ตัวแทนสาขาพรรคประจำจังหวัด จำนวน 346 คน โดยองค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 250 คน แต่หากองค์ประชุมครบ 250 คน ก็จะใช้องค์ประชุมที่สำรอง 150 คนเพื่อให้ครบองค์ประชุม เป็นการป้องกันไม่ให้องค์ประชุมล่มอีกเป็นครั้งที่ 3
นายราเมศกล่าวต่อว่า ส่วนผู้แข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น ขณะนี้มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ และที่ปรากฏเป็นข่าวมีชื่อของ น.ส.วทันยา บุนนาค ซึ่งถือว่าเป็นสีสันในการแข่งขัน เชื่อว่าหลังจากได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูพรรค ให้พรรคก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเอกภาพ ส่วนที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรคนั้น เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยทางข้อกฎหมาย เพราะที่ผ่านมากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงข้อมูลผิดพลาด โดยมีชื่อนายนราพัฒน์เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจนายจุรินทร์ เพราะตามกฎหมายพรรคการเมือง ระบุว่า หากหัวหน้าพรรคลาออกก็ให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคการเมืองนั้นๆ ซึ่งข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า นายจุรินทร์สามารถรักษาการหัวหน้าพรรคได้จนกว่าจะมีหัวหน้าพรรคและ กก.บห.ชุดใหม่
นอกจากนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคว่า โดยปกติเมื่อเราเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่อยู่แล้ว เพียงแต่ประชาธิปัตย์อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากกรรมการบริหารพรรคชุดเก่าไปชุดใหม่ แต่เราก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่และสร้างสรรค์ เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่องก็ได้ สิ่งใดที่รัฐบาลทำดีก็ต้องเห็นด้วย สิ่งใดที่ทำไม่ถูกก็ต้องติติง ส่วนการเก็บข้อมูลของฝ่ายค้าน บางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ ต้องรอวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลนั้น แม้จะเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน แต่หากอุดมการณ์ไม่สอดคล้องกันก็ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมร่วมกันได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ ออกมาโจมตีพรรคก้าวไกลทั้งที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน นายราเมศกล่าวว่า นายแทนคุณทำในนามส่วนตัว เรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้อง ในฐานะที่นายแทนคุณเป็นสมาชิกพรรคก็มีสิทธิเสรีภาพในการท้วงติง เช่นกรณีมีการคุกคามทางเพศของ สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งจะเห็นว่าตนในฐานะโฆษกพรรคก็ไม่ได้ออกมาแทรกแซงหรือซ้ำเติมพรรคก้าวไกล แม้ตนจะไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นด้วยกับการคุกคามทางเพศ แต่เห็นว่าเป็นกระบวนการภายในของพรรคก้าวไกลที่พิจารณาอยู่แล้ว ส่วนเขาจะตอบสังคมได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบ ไม่มีพรรคใดที่จะได้รับการยกเว้น
ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจกใบแดงและดำเนินคดีอาญากับ น.ส.เกศกานดา อินช่วย อดีตผู้สมัคร สส.กทม. เขต 16 พรรคประชาธิปัตย์ ข้อหาซื้อเสียงนั้น นายราเมศกล่าวว่า พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะพรรคมีหลักการและอุดมการณ์ที่ชัดเจนมาตลอด เราต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียงทุกการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ โดยย้ำกับผู้สมัครมาโดยตลอดเวลาว่าห้ามมิให้ทำผิดกฎหมาย และเมื่อ กกต.มีคำวินิจฉัยเช่นนี้ เราเคารพอำนาจของ กกต. ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ซึ่งคณะกรรมการกฎหมายของพรรคได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริงควบคู่ไปด้วย ซึ่งในเร็วๆ นี้จะเรียก น.ส.เกศกานดา เข้ามาชี้แจงกับพรรค เพื่อที่จะเป็นข้อมูลส่งมอบให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่พิจารณาดำเนินการ
นายราเมศกล่าวอีกว่า ส่วน น.ส.เกศกานดาจะใช้หลักฐานอะไรไปชี้แจงต่อศาลก็ถือเป็นสิทธิของผู้ที่ถูกกล่าวหาในการต่อสู้คดี แต่ในส่วนของพรรคหากพบว่า น.ส.เกศกานดากระทำผิดร้ายแรงก็ต้องขับออกจากพรรค ขณะที่การตั้งกรรมการสอบกลุ่ม 16 สส.ที่ลงมติสวนมติพรรคในการโหวตนายกฯ นั้น กรรมการสอบจะรอให้ กก.บห.ชุดใหม่ ตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งหรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"
อิ๊งค์สนอง‘พ่อแม้ว’ ลุยปราบแก๊งโกงล้างบางมาเฟีย/โต้สนธิปั่นMOU44ลงถนน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ภาพแฟ้มกองโตเต็มโต๊ะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เปิดศูนย์ปีใหม่ 10วันอันตราย ดื่ม-ง่วงไม่ขับ
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.หารือ ห่วงปีใหม่ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนาปลอดภัย
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ