ลุ้น‘พปชร.’ส่งซ่อมส.ส. เชื่อเขย่าพื้นที่ปชป.แน่

“ธรรมนัส” ยัน 21 ธ.ค.รู้แน่ว่าพลังประชารัฐเคาะชื่อชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อมหรือไม่ เปิดเบื้องหลัง กก.บห.โหวตแล้วตั้งแต่ 14 ธ.ค. มติเอกฉันท์ชิง “สงขลา” ส่วนที่ชุมพรเสียง 17 ต่อ 3 ให้ส่งสู้ด้วย หวังเด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว ชนะที่สงขลาสะเทือนแม่ทัพคุมใต้หน้าใหม่ และสะท้อนยาวถึงเลือกตั้งใหญ่

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดชุมพร เขตเลือกตั้งที่ 1 และจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 6 ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ได้กำชับให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และทุกคนที่ไปช่วยรณรงค์หาเสียงต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ยึดความสุจริตในการหาเสียง พร้อมทั้งชูนโยบายและผลงานที่เกิดขึ้นเป็นประจักษ์ แล้วให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ ซึ่งเชื่อว่าผลสำเร็จในการทำงานของพรรคที่ผ่านมา จะเป็นส่วนสำคัญเพื่อประกอบการตัดสินใจของพี่น้องเขต 1 จังหวัดชุมพร และเขต 6 จังหวัดสงขลา

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรคจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 21 ธ.ค. เวลา 15.00 น.ที่รัฐสภา วาระสำคัญคือจะพิจารณาการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง เขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะมีความชัดเจน แม้พื้นที่ภาคใต้มีคณะทำงานพิจารณามาก่อนแล้ว ทั้งนี้การส่งผู้สมัครเลือกตั้งอยากให้มองเป็นเรื่องหลักทางการเมือง

รายงานข่าวจาก พปชร.แจ้งว่า แคนดิเดตผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมยังเป็นไปตามกระแสข่าว โดยเขต 1 ชุมพร พรรคส่งอดีตผู้สมัครคนเดิมคือ นายชวลิต อาจหาญ หรือทนายแดง ซึ่งเลือกตั้งปี 2562 ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 2 และส่วนเขต 6 สงขลา เป็นคนใหม่ส่งนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ลงแข่ง

แหล่งข่าวที่เป็น กก.บห.พรรค พปชร.เผยว่า การประชุมวันที่ 21 ธ.ค. คงได้ข้อยุติแล้วว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่อย่างไร เพราะหากช้าไปกว่านี้ อาจทำให้พรรคเตรียมตัวช้ากว่าพรรคอื่น เพราะตอนนี้ทั้งพรรค ปชป.และพรรคกล้ามีการเปิดตัว และเริ่มให้ผู้สมัครทำพื้นที่แล้ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วที่ประชุม กก.บห.พรรคได้มีมติออกมาแล้วในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ 14 ธ.ค. ที่ให้พรรคส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อมทั้งที่ชุมพรและสงขลา แต่ไม่ได้แถลงข่าวออกมาอย่างเป็นทางการ เพราะต้องการรอฟังผลการประชุมใหญ่ของพรรค ปชป.เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก่อน เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์บางอย่างตามที่แกนนำพรรคต้องการ

"มติที่ประชุม กก.บห.เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.หลังมีการอภิปรายแสดงความเห็นกันระดับหนึ่งแล้ว ที่ประชุมก็ให้ลงมติกันแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ลงคะแนน โดยเริ่มจากที่สงขลา ผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ 20 เสียง ให้ส่งคนลงสมัครในนามพรรค ไม่มีใครไม่เห็นด้วย ส่วนที่ชุมพรที่ประชุมมีมติด้วยเสียงข้างมาก 17 ต่อ 3 เห็นควรให้ส่งคนลงเช่นกัน แต่เมื่อผลออกมา ที่ประชุมก็คุยกันว่าอย่าเพิ่งแถลงข่าว ขอให้รอดูสถานการณ์อีกหนึ่งสัปดาห์ คือรอฟังผลประชุมใหญ่สามัญของ ปชป.ก่อน เพราะอยากรู้ว่าทิศทางของ ปชป.จะเอาอย่างไร และรองหัวหน้าปชป.ที่จะเป็นรองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคใต้ ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของพรรค จะเป็นใครระหว่างนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ หรือนายเดชอิศม์ ขาวทอง เพราะเป็นตัวแปรที่สำคัญในการแข่งขัน” แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าวระบุอีกว่า เมื่อนายเดชอิศม์ส่ง น.ส.สุภาพร กำเนิดผล หรือน้ำหอม ลงเลือกตั้งซ่อมสงขลา แล้วนายเดชอิศม์คุมพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นการออกศึกครั้งแรกก็ต้องทำทุกอย่างให้ภรรยาตัวเองชนะ แพ้ไม่ได้ การประชุมอังคารนี้จึงต้องคุยกันว่าจะเอาอย่างไร จะเดินหน้าส่งคนลงตามเดิมทั้งที่สงขลาและชุมพรหรือไม่ ซึ่งเท่าที่เช็กกระแส กก.บห.หลังรู้ว่านายเดชอิศม์ขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรค ปชป. บางคนก็บอกว่าให้เอาตามมติเดิม คือส่งคนลงทั้งสองเขต ส่วนบางคนก็บอกว่าขอมาคุยก่อน เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เห็นว่าพรรคต้องส่งลงแข่งขัน และต้องเอาชนะให้ได้ เพราะหาก ปชป.แพ้ที่ จ.สงขลา จะมีผลสะเทือนต่อ ปชป.มากไปจนถึงเลือกตั้งใหญ่ได้เลย เพราะภรรยารองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคใต้แพ้เลือกตั้งให้ พปชร.

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนมติ กก.บห. 17 ต่อ 3 ให้ส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพร แม้มีข่าวว่ากลุ่มนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี มีสัญญาใจกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ว่าจะให้ทีมของตัวเองที่ จ.ชุมพรย้ายมา พปชร.ในการเลือกตั้งรอบหน้า แต่กลับส่งนายอิสรพงษ์ มากอำไพ หลานภรรยาของนายชุมพลลงเลือกตั้งนั้น ทำให้ กก.บห.พรรค พปชร.มองว่าเมื่อพรรคจะส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมก็ต้องส่งทั้งสองเขต ไม่ใช่ส่งแค่ที่ จ.สงขลา ไม่ส่งที่ จ.ชุมพร และอีกหลายเสียงไม่ค่อยเชื่อว่า นายชุมพลจะให้ทีมของตัวเองย้ายมา พรรค พปชร.จริง จึงเห็นว่าควรส่งคนลงก่อน

"มติ 17 ต่อ 3 ดังกล่าว คาดว่า 3 เสียงที่ไม่เห็นควรให้ส่ง น่าจะมาจาก กก.บห.กลุ่มสามมิตร ส่วนท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัสมองว่าสนิทกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง จนมีข่าวว่าไม่ต้องการให้ พปชร.ส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สงขลา เพื่อหลีกทางให้นั้น พบว่าก่อนประชุม กก.บห. ร.อ.ธรรมนัสได้เปิดอีกห้องหนึ่งในตึกที่ทำการพรรค เพื่อพูดคุยเจรจานอกรอบกับ กก.บห.พรรคและ ส.ส.ภาคใต้บางคน โดยเฉพาะต้องการอยากรู้ว่า กก.บห.ส่วนใหญ่คิดอย่างไร ซึ่งก็ปรากฏว่า ร.อ.ธรรมนัสก็ไม่ได้ขวางไม่ให้ส่งคนลงที่ จ.สงขลา แม้จะสนิทกับนายเดชอิศม์ เพราะ ร.อ.ธรรมนัสรู้ดีว่า จ.สงขลาเป็นพื้นที่รับผิดชอบของนายอนุมัติ อาหมัด อดีต ส.ว. หัวหน้าทีมภาคใต้ จึงไม่อยากลงมาก้าวก่ายอะไร”

สำหรับพื้นที่ จ.สงขลา ที่พรรค พปชร. กลุ่มภาคใต้เตรียมไว้จะส่งลงเลือกตั้งซ่อมก็คือ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ทายาทผู้ถือหุ้นและผู้บริหารบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางรายใหญ่เป็นอันดับสามของโลกที่เป็นเด็กปั้นของนายอนุมัติ คู่ปรับการเมืองคนสำคัญของนายเดชอิศม์

ส่วนบรรยากาศทั่วไปในพื้นที่เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 ขณะนี้พรรคการเมืองประกาศชัดเจนส่งผู้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว 2 พรรค ส่วนพรรคอื่นๆ ยังเป็นแค่เสนอตัวสมัคร รอมติพรรคประกาศอย่างเป็นทางการ โดยพรรคแรกที่ประกาศตัวก่อนใครคือพรรคกล้า ที่จะส่ง พ.ต.อ.ทศพร โชติคุตร์ หรือ ผู้กำกับหนุ่ย หรืออัศวินชุมพร ขณะที่พรรค ปชป. จะส่งนายอิสรพงษ์ มากอำไพ หรือเลขาตาร์ท หลานภรรยาของนายชุมพล ทายาทนักธุรกิจร้อยล้าน ที่บิดาเป็นเจ้าของบริษัทสัมปทานเกาะรังนกนางแอ่นจำนวนหลายเกาะในพื้นที่ จ.ชุมพร และมารดาเป็นเจ้าของธุรกิจร้านขายทองรูปพรรณในตัวเมืองชุมพร

ขณะที่พรรคอื่นๆ นั้น ไม่ว่าจะพรรค พปชร., พรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคก้าวไกล ยังเป็นแค่ผู้เสนอตัวเท่านั้น ยังไม่มีมติพรรคประกาศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด.