ใบแดงแรก!ผู้สมัครสส.ปชป.

กกต.ได้ฤกษ์ลงดาบใบแดง-ใบดำแรก ชงศาลฎีกาฟัน "เด็ก ปชป." แจกเงินซื้อเสียง ขณะที่คดีพิธา ก้าวไกล-ศักดิ์สยาม ยังอืด ศาล รธน.ลากยาวนัดถกต่อเนื่อง "เศรษฐา" โปรยยาหอมเด็กหัวกะทิสแตนเฟิร์ดกลับมาทำงานเป็นกำลังสำคัญของชาติ ตีปี๊บ 3 บริษัทชั้นนำโลกลงทุนไทยรวมกว่า 3 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ น.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัคร สส.เขต 16 กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และนางดวงฤดี พันธุ์สมตน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง พร้อมดำเนินคดีอาญากับบุคคลทั้งสอง 

  หลังไต่สวนแล้วรับฟังได้ว่า ระหว่างวันที่ 17-19 เม.ย.66 ที่หมู่บ้านร่มทิพย์ ซ.หทัยราษฎร์ ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร  นางดวงฤดี ผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งเป็นประธานหมู่บ้านร่มทิพย์ และเป็นผู้ช่วยหาเสียงของ น.ส.เกศกานดา ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้ไปพบปะและติดต่อผู้ร้องที่บ้านเพื่อหารายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยจะให้เงินคนละ 500 บาท เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ น.ส.เกศกานดา ต่อมาวันที่ 19 เม.ย. ผู้ร้องได้สนทนาทางโทรศัพท์กับดวงฤดี ขอให้ผู้ร้องจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่งให้แก่นางดวงฤดี แล้วจะให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายชื่อละ 500 บาท พร้อมทั้งพูดขอให้ลงคะแนนให้แก่ น.ส.เกศกานดา ซึ่งปรากฏตามคลิปบันทึกเสียงการสนทนา

จากนั้นวันที่ 22 เม.ย. ผู้ร้องได้ส่งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้แก่นางดวงฤดีจำนวน 4 รายชื่อ ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยนางดวงฤดีแจ้งว่าให้มารับเงินสัปดาห์หน้า และวันที่ 25 เม.ย.66 นางดวงฤดีให้เงิน 2,000 บาทแก่ผู้ร้องเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ น.ส.เกศกานดา ซึ่งปรากฏวิดีโอคลิปบันทึกเหตุการณ์ที่นางดวงฤดีเดินมาให้เงินแก่ผู้ร้องบริเวณรั้วหน้าบ้านของนางดวงฤดี

เมื่อพิจารณาพยานหลักฐานดังกล่าวแล้ว เป็นการสนทนาเกี่ยวกับการจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยจะให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนละ 500 บาท เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้กับ น.ส.เกศกานดา ไม่ได้ปรากฏว่ามีการสนทนาเกี่ยวกับผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งแต่อย่างใด อีกทั้งในวันเลือกตั้งผู้ร้องก็ไม่ได้ไปทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์เลือกตั้ง อีกทั้งนางดวงฤดีให้ถ้อยคำรับว่าคลิปบันทึกเสียงและวิดีโอคลิปประกอบคำร้องเป็นเสียงของตนเอง

ส่วน น.ส.เกศกานดาให้ถ้อยคำว่านางดวงฤดีเป็นผู้ช่วยหาเสียงของตนเอง มีหน้าที่แจกเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครและร่วมเดินหาเสียงเลือกตั้งกับตน โดยในช่วงเวลาที่ตนไม่ได้หาเสียงเลือกตั้งจะให้นางดวงฤดีหาเสียงเลือกตั้งเอง แสดงให้เห็นว่าบุคคลทั้งสองรู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดี โดยในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นางดวงฤดีมีหน้าที่แจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งและเดินหาเสียงเลือกตั้งร่วมกับ น.ส.เกศกานดา และในช่วงที่น.ส.เกศกานดามิได้หาเสียงเลือกตั้ง ก็จะให้นางดวงฤดีหาเสียงเลือกตั้งเอง ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของ น.ส.เกศกานดาและนางดวงฤดี จึงไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวน

กรณีนี้จึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า น.ส.เกศกานดา ก่อ หรือสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นางดวงฤดีซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้เงินดังกล่าวแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 73 (1)ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้ง สส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 16 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.เกศกานดาไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของ กกต.ยังได้สั่งให้มีการกันผู้ร้องในคดีนี้ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการติดต่อจากนางดวงฤดี ให้จดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. 2560 มาตรา 46 ประกอบระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี 2563 ข้อ 5 และข้อ 6 ด้วย

ลากยาวคดีพิธา-ศักดิ์สยาม

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอดีตพระพุทธะอิสระ (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2)

ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ..... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปราย และกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 22 พ.ย.2566 เวลา 09.30 น.

ส่วนคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่นายพิธา (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสส.ของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตำแหน่ง สส.ของนายพิธาว่างลงนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2)

โดยศาล​รัฐธรรมนูญ​มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. นับแต่วันที่ 19 ก.ย.2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ต่อมานายพิธายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร และพยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค.2566 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค.2566 

โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปราย และกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 22 พ.ย.2566 เวลา 09.30 น.

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ได้มีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งไปเฝ้าติดตามหลังจากที่วานนี้มีการนำเสนอว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัย 2 เรื่องดังกล่าวในวันนี้ แต่ในข้อเท็จจริงตามเอกสารข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงคือ เป็นเพียงการพิจารณาต่อเท่านั้น และยังไม่ได้มีการกำหนดนัดวันปรึกษาหารือแถลงด้วยวาจาและลงมติแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า  ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประชุม​ปรึกษา​คดี​ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาล​รัฐธรรมนูญ​วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ ซึ่งวันนี้ศาลได้มีการพิจารณาโดยการอภิปราย ทั้งนี้ คดีอยู่ระหว่างคู่กรณีมาตรวจพยานหลักฐานและพยานบุคคลยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น จึงกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 29 พ.ย.2566 เวลา 09.30 น.

สำหรับคำร้องนี้ สส.จำนวน 54 คน เข้าชื่อส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่านายศักดิ์สยามยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น  อย่างแท้จริง

ซึ่งจะทำให้นายศักดิ์สยามเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ ซึ่งศาลได้รับคำร้องไว้และสั่งให้ยุติการทำหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2566 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองติดต่อมา แต่ตนให้ผู้ใหญ่คุยอยู่  ในตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะครบ 30 วันที่ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ แต่คาดว่าจะชัดเจนในสัปดาห์หน้าว่าจะสังกัดพรรคใด เชื่อว่าตนจะไม่หลุดจากตำแหน่ง สส. มีพรรคการเมืองพร้อมรับ รวมถึงคนในพื้นที่ก็เข้าใจ มองการทำงานเป็นหลัก ไม่ไปถึงการเลือกตั้งซ่อมแน่นอน

หยอดหัวกะทิกลับไทย

ผู้สื่อข่าวงานรายงานภารกิจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง ) ได้พบหารือผู้บริหารมหาวิทยาลัยสแตนเฟิร์ด และพบปะนักศึกษาไทยที่มหาวิทยาลัยสแตนเฟิร์ด (Stanford University)

โดยนายกฯ กล่าวกับนักศึกษาไทยที่มหาวิทยาลัยสแตนเฟิร์ดว่า หน้าที่ของรัฐบาลคือทำให้นักศึกษาเห็นด้วยว่าประเทศไทยนั้นมีอนาคต ต้องพยายามทำความเข้าใจ และเชื้อเชิญให้นักเรียนที่เรียนต่างประเทศพยายามที่จะกลับมาทำงานต่อที่ประเทศไทย การที่มามหาวิทยาลัยสแตนเฟิร์ด เพราะเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกที่ดีที่สุดในโลกมหาวิทยาลัยหนึ่ง เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลนี้มีความตั้งใจจริงที่จะทำให้เกิดการลงทุนครั้งมโหฬาร เพื่อสร้างโอกาสสร้างงานให้นักศึกษาไทยในต่างประเทศกลับไปเป็นกำลังสำคัญของชาติ ไปมีอนาคตที่ดีกว่าที่เมืองไทย

ขณะที่ในเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีระบุถึงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจพิเศษเอเปกว่า ประเทศไทยจะผลักดันในเวทีเรื่องเศรษฐกิจ BCG ที่เป็นเรื่องใหญ่ที่ไทยผลักดันมาตั้งแต่การประชุมเอเปก 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในการเดินทางมาที่สหรัฐบอกว่าประเทศไทยพร้อมเปิดรับนักลงทุน และไม่มีเวลาใดที่ดีเท่าเวลานี้ ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี พลังงานสะอาด สภาพความเป็นอยู่ เป็นหน้าที่ของตนเองที่จะบอกให้ทั่วโลกรู้ว่าเราพร้อมเปิด

วันเดียวกัน Amazon Web Services นำโดย Michael Punke, Global Vice President, Public Policy ได้เข้าพบนายเศรษฐา โดย AWS เดินหน้าให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลในทันที เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในเศรษฐกิจดิจิทัล และ innovation hub ผ่านการมาลงทุนของเทคโนโลยีคลาวด์

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความสำเร็จของของนายกฯ ในช่วงต้นของการเดินทางเยือนนครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกาว่า เกิดการลงทุนในไทยจาก 3 บริษัทชั้นนำระดับโลก ด้วยมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อบริษัท ดังนี้ Amazon Web Service (AWS) ลงทุนก่อสร้าง AWS Asia Pacific (Bangkok) Region สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจในไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ปรับปรุงประสิทธิภาพภาครัฐ และช่วยสร้างแรงงานทักษะสูงที่ไทยขาดแคลน Microsoft ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ( MOU) กับไทย เพิ่มโอกาสพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ช่วยปรับปรุงการให้บริการสาธารณะผ่านการเปลี่ยนแปลงบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ Google ลงนาม MOU กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัล และพิจารณาไทยเป็นสถานที่ตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพิ่มเติมเป็นแห่งที่ 4 ในบริเวณภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเป็นแห่งที่ 11 ของโลก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์

นายใหญ่เมินห่วงปมเศรษฐา

“ทักษิณ” ไม่ห่วง “เศรษฐา”  ปมศาล รธน. มั่นใจพา พท.กลับมาผงาดได้ ไม่ขอแตะ “ลุงตู่” หลังมีกระแสคิดถึง