“ชัย” รีบแก้ต่างปมตำรวจจีนมาตระเวนดูแลนักท่องเที่ยวตี๋หมวย อ้างแค่มาร่วมมือทำงานเหมือนตำรวจสากล ซัดอย่าเล่นวาทกรรมทางการเมืองจนเกินเหตุ “โรม" ขวางทันทีไม่เอาด้วย เตรียมส่งหนังสือถามความจริงรัฐบาล “ต่อศักดิ์” ลั่นไม่เห็นด้วยเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง ระบุชัด ตร.ไม่ได้เป็นผู้ชงเรื่องดังกล่าว
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวจีนเกิดความเชื่อมั่นว่า จากการประชุมหารือเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ย.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง และคณะจะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่สหรัฐอเมริกา โดยในการหารือซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้หารือเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะปัญหาความปลอดภัยจากคนจีนกลุ่มสีเทาที่เข้ามาสร้างปัญหาในประเทศไทย โดย ตร.รายงานว่า พฤติกรรมของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในมุมของคนจีนที่มาท่องเที่ยวเมืองไทย พบว่าพวกกลุ่มคนจีนสีเทามีความเกรงกลัวตำรวจจีนด้วยกันเอง และนักท่องเที่ยวจีนจะรู้สึกปลอดภัยเป็นพิเศษจากพวกเกเรทั้งหลายที่เป็นคนจีนด้วยกันแต่มารังแกคนจีนที่มาท่องเที่ยวไทย หากมีตำรวจจีนมาช่วยดูแลเขาจะรู้สึกเชื่อมั่นเป็นพิเศษ ดังนั้นตำรวจไทยจึงคิดว่ากลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการกำราบกลุ่มจีนสีเทา คือขอให้ตำรวจจีนเป็นผู้ช่วยในการปฏิบัติงาน
“ปกติการทำงานร่วมกันของตำรวจสากลมีการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้แสดงออกให้เห็นชัดเจนขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไทยได้รับข้อมูลและเบาะแสที่แม่นยำรวดเร็วขึ้น ซึ่งตำรวจจีนมีข้อมูลและมีเบาะแสพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจไทยเต็ม 100% และพร้อมจะให้ข้อมูลชี้เบาะแสล่วงหน้า ป้องกันไม่ให้พวกคนจีนที่คิดไม่ดีมาก่อเหตุ ทำเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยของคนจีน รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนมีความเชื่อมั่นถ้ามีตำรวจจีนมาร่วมทำงานกับตำรวจไทย”
นายชัยย้ำว่า ข่าวที่จะให้ตำรวจจีนมาตระเวนดูแลความปลอดภัยไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ความจริงเพียงแค่มาร่วมมือทำงานและให้ข้อมูลเบาะแส เพื่อให้ตำรวจไทยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเทศไทยเป็นเอกราช ทำไมต้องใช้ตำรวจจีนมาลาดตระเวน เรื่องที่มีลักษณะสร้างสรรค์เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเช่นนี้ ทำไมต้องบิดเบือนและลากให้ไปโยงกับเรื่องของศักดิ์ศรีประเทศเช่นนั้น
“ขออย่าได้เล่นเกมวาทกรรมทางการเมืองกันจนเกินกว่าเหตุเช่นนี้เลย เรามามุ่งสมาธิให้กับการทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชนกันดีกว่าไหม” โฆษกรัฐบาลกล่าว
วันเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร.
นายรังสิมันต์กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถึงกระแสข่าวว่าจะมีการประสานงานให้ตำรวจจีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวจีนในไทย ว่าแนวคิดดังกล่าวไม่มีทางเกิดขึ้น และได้รับการยืนยันแล้วว่าทุกฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการนำตำรวจจีนเข้ามาในราชอาณาจักร เพราะมีผลกระทบในหลายมิติ หากเริ่มต้นนำตำรวจจีนเข้ามาในไทยวันนี้ อนาคตก็ต้องให้ตำรวจจากชาติอื่นๆ เข้ามาด้วย และตำรวจไทยก็จะไม่มีบทบาทหน้าที่อย่างเหมาะสม ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องช่วยกันพัฒนาศักยภาพของตำรวจไทยให้เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้สามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้
“กระแสข่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน กมธ.จะจัดทำหนังสือขอให้รัฐบาลชี้แจงประเด็นดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับทุกฝ่ายในการปฏิบัติ” นายรังสิมันต์กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการนำตำรวจจีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวจีนในไทย เพราะเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย และตำรวจไทยมีศักยภาพในการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวเพียงพอ แต่กรณีที่เกิดขึ้นในอิตาลีนั้นเชื่อว่าเกิดจากปัญหาด้านการสื่อสารทางภาษา จึงมีการนำตำรวจจีนมาช่วย แต่สำหรับประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาดังกล่าว ยืนยันว่าแนวคิดดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ
“แนวคิดดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้เป็นผู้เสนอ หรือร้องขอไปยังรัฐบาล เชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยกันในประเด็นการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกับทางการจีน เพราะเมื่อเกิดเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับจีน ก็จำเป็นที่จะต้องมีการประสานข้อมูลคนร้ายและข้อมูลคดีกัน และที่ผ่านมามีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนดผู้ประสานงาน ซึ่งมักจะเป็นตำรวจจีนที่ดูแลสถานทูตจีนประจำประเทศไทย อาจทำให้เกิดความสับสนขึ้น” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ระบุ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ยังกล่าวถึงส่วยสติกเกอร์ และคดีรถบรรทุกตกบ่อพักร้อยสายไฟ ถนนสุขุมวิท พื้นที่ สน.พระโขนงว่า ได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจร ส่วนประเด็นเจ้าหน้าที่รัฐจะรู้เห็นหรือได้รับผลประโยชน์เกี่ยวข้องหรือไม่ ได้มอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดูแล โดยคาดว่าจะส่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายงานมา หลังจากที่มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
สำหรับผลการตรวจสอบของ กทม.ที่ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น แต่ตำรวจก็จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดและลึกขึ้น โดยจะดูเส้นทางการเงินควบคู่ไปด้วย หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดกระทำความผิด ก็จะต้องดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยแน่นอน ทั้งนี้ขอให้สังคมอย่าเพิ่งมองว่าสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นสติกเกอร์ส่วยเสมอไป และขอให้รอผลการตรวจสอบจากตำรวจก่อน
“ส่วนประเด็นว่ารถบรรทุกดังกล่าวบรรทุกน้ำหนักเกิน จะมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นปล่อยปละละเลยด้วยหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีผลการตรวจสอบออกมา แต่ปัญหาดังกล่าวได้สั่งการไปยังตำรวจทั่วประเทศให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกวดขันจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินแล้ว ส่วนที่ปรากฏข่าวว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวเคยบรรทุกน้ำหนักเกินกว่า 60 ตันมาก่อนหน้านี้ ตำรวจก็จะนำข้อมูลทั้งหมดไปรวบรวมอยู่ในสำนวนแน่นอน” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อิ๊งค์’ลุยภูเก็ต หนุนท่องเที่ยว กลุ่ม‘ลักซ์ชูรี’
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานแสดงเรือนานาชาติ หนุนท่องเที่ยวลักซ์ชูรีไลฟ์สไตล์
ชงแก้สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม3สนามบิน
บอร์ดอีอีซีชงแก้สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน เข้า ครม.ภายในเดือนเม.ย.นี้
ศาลนัด10ก.พ. 16บอสขอสิทธิ์ ได้ประกันสู้คดี
"ทนายดิไอคอน" จ่อยื่นประกันตัว 16 บอส ช่วงนัดตรวจหลักฐาน
2สัปดาห์ส่ง‘จ่าเอ็ม’กลับ เชื่อมีผู้ร่วมขบวนการอีก
นายกฯ สั่งทบทวนมาตรการป้องกันก่ออาชญากรรมในไทย
นโยบายตปท.เสียเหลี่ยมเพื่อนบ้าน
สส.ฝ่ายค้านชำแหละ “นโยบายต่างประเทศ” เงียบๆ เสียเหลี่ยมเพื่อนบ้าน
ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่ ชวนย้อนคำเตือนแม้ว18ปี ชี้สส.แก่สุดในเพื่อไทย2คน
"ชวน" สวนกลับ “ทักษิณ” สส.แก่สุดอยู่ในพรรคเพื่อไทย 2 คน