“เศรษฐา” ฉุนแก้ปัญหาช้า ไล่บี้จับแก๊งหมูเถื่อน เร่งสางส่วยรถบรรทุก เข้มมาตรการ รปภ.นักท่องเที่ยว "อธิบดีดีเอสไอ" เด้งรับลูก ยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เผยนายทุนเจ้าใหญ่นำเข้าหมูผิด กม.ขอมอบตัวแล้ว “จิรภพ” ลั่นปราบส่วยสติกเกอร์ให้จบที่รุ่นเรา “สุริยะ” สั่ง "ทล.-ทช.-ขบ." ลุยกวาดล้าง
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 13.30 น. ก่อนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง จะเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ที่สหรัฐอเมริกา ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการแก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน การแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน และมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวหารือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหารือเรื่องปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อนนั้น นายเศรษฐามีสีหน้าไม่พอใจการทำงานที่ผ่านมา โดยได้ระบุกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า “ผมเชิญท่านมาพบที่ทำเนียบรัฐบาลแล้วรอบหนึ่ง ทำไมช้าจัง จัดการให้มันเร็วๆ หน่อยได้ไหม มันจับมาได้ตั้งเยอะแยะแล้ว ทำไมไม่สั่งการสักทีนึง ผมสั่งการไปแล้วก็ไม่ทำ ไม่หาตัวรายใหญ่ เข้าถึงตัวไม่ได้สักที ตอนนี้มีกี่ราย ตอนนี้จับมามี 10 รายแล้วใช่ไหม” ทั้งนี้หลังหารือเสร็จ นายเศรษฐาไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยได้เดินทางไปสหรัฐทันที และมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานเป็นผู้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายเศรษฐาได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ (X) ว่า "ก่อนขึ้นเครื่องเดินทางไปประชุม APEC ผมเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบใน 3 ประเด็นมาประชุมเพื่อติดตามการทำงาน คือ 1.เรื่องหมูเถื่อน ผมติดตามปัญหาที่ได้ให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงดีเอสไอให้เร่งรัดดำเนินการจับกุมผู้นำเข้าและเผาหมูเถื่อน พร้อมให้ ปปง.เร่งดำเนินการอายัดทรัพย์ผู้ประกอบการที่กระทำผิดโดยด่วน ซึ่งคาดว่าน่าจะทำการจับกุมผู้ประกอบการหมูเถื่อนรายใหญ่ได้อีกภายในเดือนนี้ครับ 2.เรื่องปัญหาส่วยทางหลวง ผมย้ำว่าต้องหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งส่วนมากปัญหาเกิดจากการหนีไม่ยอมเข้าด่าน การขาดตาชั่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และการตรวจสอบที่เป็นระบบ ไปจนถึงอัตราค่าปรับที่ไม่เข้มงวดเท่าที่ควร ผมให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงคมนาคม ร่วมมือกันทั้งเรื่องของข้อมูล และการติดตามเอาผิดครับ 3.ผมสั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยว และ ททท. เร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยในช่วงสิ้นปีนี้ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่าได้มีการปราบปรามอาวุธปืน ยึดปืนที่ไม่ถูกกฎหมาย ตลอดจนปัญหาเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทา และ fake news ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาด้วย ผมมั่นใจว่าประเทศไทยมีความพร้อมและมีความปลอดภัยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวครับ"
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวภายหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯ ได้สั่งการแนวทางแก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยมีนโยบายอย่างจริงจังในการปราบเรื่องนี้ให้หมดไป โดยได้หารือร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจทางหลวง ตำรวจนครบาล และกรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม รวมถึงปลัดกระทรวงคมนาคม โดยผลการหารือทุกภาคส่วนจะดำเนินการตรวจจับอย่างจริงจัง ขณะนี้กรมทางหลวงมีด่านช่างน้ำหนัก 100 กว่าจุดทั่วประเทศ แต่มีปัญหาคือมีการหนีไม่ยอมเข้าด่าน ต่อไปหากพบรถบรรทุกไม่เข้าด่านจะแจ้งตำรวจทางหลวงเพื่อให้สกัดจับ และหากประชาชนคนใดเห็นรถน้ำหนักเกินให้แจ้งเบาะแสมาที่กรมทางหลวง หรือตำรวจทางหลวง เพื่อจะได้ดำเนินการจับกุม นอกจากนี้จะมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีมาช่วยตรวจสอบภาพถ่ายว่ารถคันไหนน้ำหนักเกินหรือไม่
"ขณะนี้คิดว่ารถบรรทุกน้ำหนักเกินลดลงไปแล้ว 80% เหลือ 20% ที่ต้องมาไล่จับกัน และเรายังหารือเรื่องการแก้กฎหมายให้หนักขึ้น ให้เกรงกลัวการกระทำความผิด วันนี้เหมือนแมวไล่จับหนู แต่ยืนยันอธิบดีกรมทางหลวง และตำรวจทางหลวงดำเนินการกันอย่างเต็มที่ ขณะที่ในส่วนของตำรวจนครบาล ได้กำชับตำรวจจราจรให้ตรวจตรารถในกรุงเทพฯ ร่วมกับ กทม. ยืนยันเรื่องนี้จะดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ใช่เรื่องเงียบแล้วหยุด แต่จะทำตลอดไปให้จบที่รุ่นเรา" ผบช.ก.ระบุ
พ.ต.ต.สุริยา สิงกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาหมูเถื่อนว่า ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องที่กรมศุลกากรส่งมาจำนวน 161 ตู้ โดยแบ่งกลุ่มผู้กระทำผิดเป็น 3 กลุ่ม 1.บริษัทนำเข้า ได้ดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาจับกุมไปแล้ว 6 ราย 2.กลุ่มนายทุน ที่เป็นคนสั่งให้นำหมูเข้าไทย ซึ่งออกหมายจับ 2 บริษัท ขณะนี้ผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างประเทศ และได้ประสานขอเข้ามอบตัวภายในวันที่ 13 พ.ย. และ 3.กลุ่มผู้ดูแลเรื่องห้องเย็น ที่กระจายนำหมูเถื่อนไปแช่ นายกฯ กำชับให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น นอกจากนี้ได้รับข้อมูลจากประชาชนว่าอาจจะมีการซุกซ่อนของเถื่อนตามตู้เย็นต่างๆ จึงได้ประสานงานกับทางตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกับกรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร เพื่อดำเนินการปูพรมตรวจค้นตามที่ได้รับเบาะแส
อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า ของกลางที่ดีเอสไอได้รับมา จำนวน 161 ตู้ แต่ได้สืบค้นพบว่า ตั้งแต่ปี 2563-2566 กลุ่มขบวนการนำเข้าได้มีการลักลอบนำเข้าเศษชิ้นส่วนซากสัตว์ก่อนหน้านั้นแล้ว 2,836 ตู้ ซึ่งเรากำลังสอบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวบ้าง และเรื่องนี้ดีเอสไอจะดำเนินการให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นนายทุนเจ้าใหญ่ ที่มีคำสั่งซื้อให้บริษัทชิปปิ้งนำเข้าหมูเถื่อนสู่ประเทศไทย ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีบทบาท ซึ่งเป็นตัวกลางที่ทำให้เนื้อเถื่อนหมูกระจายไปทั่วทุกภูมิภาค
วันเดียวกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำว่าในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม จะต้องไม่มีการทุจริต หรือมีส่วยสติกเกอร์ทางหลวงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด จึงไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ ทล. รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทำงานเชิงรุก หมั่นตรวจตรากวดขัน และบังคับใช้กฎหมายในเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างจริงจังต่อเนื่องเพื่อป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการทุจริต อีกทั้งให้ความร่วมมือกับ บช.ก.ในการตรวจสอบและจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อปิดช่องโหว่การทุจริต
นายสุริยะกล่าวถึงสถิติการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินว่า ในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.2565-ก.ย.2566) สามารถจับกุมได้ 3,416 คัน และในปีงบประมาณ 2567 (วันที่ 1 ต.ค.-9 พ.ย.2566) จับกุมได้ 394 คัน ขณะที่ ทช.จับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดที่สถานี และจัดหน่วย Spot Check ตามสายทาง พบว่า ในปีงบประมาณ 2566 รวม 8 คัน
สำหรับแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างยั่งยืนนั้น ทล.ได้มีมาตรการที่เข้มงวดในการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างต่อเนื่องผ่านศูนย์ควบคุมเครือข่ายส่วนกลาง สามารถส่งข้อมูลออนไลน์แบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำสถานี และมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในเรื่องของระบบจีพีเอส เพื่อติดตามรถบรรทุกที่คาดว่าจะมีน้ำหนักเกิน จากนั้นส่งข้อมูลการต่อเติมรถบรรทุกให้ ขบ.ดำเนินการตามกฎหมาย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลITAปี67ดีขึ้น ศธ.บ๊วยโปร่งใส ป้องโกงแสนล.
ป.ป.ช.เปิดผล ITA 2567 จาก 8,325 หน่วยงานรัฐทั่ว ปท. ได้ 93.05 คะแนน ผ่านเกณฑ์ 7,696 หน่วยงาน
พิธาปลุกด้อมส้ม2ส.ค.
"ก้าวไกล" โหมโรงคดียุบพรรค ปล่อยคลิปต่อเนื่อง ลั่นพรรคการเมืองเกิดขึ้นมาได้ด้วย
ทุ่ม450ล้านปราบคางดำ ลุย7มาตรการให้จบปี70
ครม.ไฟเขียว 7 มาตรการ ใช้งบ 450 ล้านบาท แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ มั่นใจจบปี 70
แจกเงินดิจิทัลไม่ติดคุก มั่นใจงบวาระ2-3ฉลุย
"เศรษฐา" ยันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เดินตาม กม. โปร่งใสตรวจสอบได้
เกาะ‘มีชัย’รอดคดี ‘เศรษฐา’งัดบันทึกกรธ.สู้ถึงมือศาล/พท.ปัดนายกฯสำรอง
นายกฯ เผยส่งคำแถลงปิดคดีตั้ง “พิชิต” แล้ว ยันไม่ก้าวล่วง
ยุบก.ก.‘ไหม’พร้อมขึ้นนำ กกต.โละกุนซือกฎหมาย
ลุ้นยุบไม่ยุบก้าวไกล "ศิริกัญญา" พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคหากถูกเสนอชื่อ