รอลุ้น ‘ครม.ซานต้าตู่’ แจกของขวัญปีใหม่!

ครม.เตรียมเคาะของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน สัปดาห์หน้า อสม.ได้เดือนละ 5 ร้อยอีก 6 เดือน จ่อจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 ในกิจการสถานบันเทิงหัวละ 5 พัน

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง โดยทีมนารีสโมสร ว่าสำหรับวาระงานในช่วงสัปดาห์หน้าที่น่าสนใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 5 และจะเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 โดยมีการประชุม 4 หน่วยงานคือกระทรวงการคลัง, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงบประมาณ

รองโฆษกรัฐบาลเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 21 ธันวาคม ที่น่าจับตามองขณะนี้คือเรื่องของขวัญที่รัฐบาลจะมอบให้กับประชาชน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกๆ กระทรวงไปจัดเตรียมให้กับประชาชน ซึ่งจะทยอยออกมา ที่เปิดเผยออกมาบ้างแล้ว เช่น กระทรวงการคลัง มีมาตรการผ่อนดีมีคืนของธนาคารรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

ส่วนเรื่องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 นั้น ล่าสุด ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณที่ได้ดูแลประชาชนคนไทยมาเป็นอย่างดี และจะได้มอบขวัญและกำลังใจเล็กน้อยต่อไปอีก 6 เดือน เดือนละ 500 บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยนายกรัฐมนตรีจะอนุมัติงบกลางจำนวน 3,510 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้น กระทรวงสาธารณสุขจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เพื่อขอใช้งบกลางดังกล่าว หากมีมติคณะรัฐมนตรีออกมาอย่างไร ทีมโฆษกรัฐบาลจะได้นำรายละเอียดมาบอกกล่าวทันที

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า อย่างไรก็ตามก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการประชาสัมพันธ์เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อะเมซซิ่งไทยแลนด์เคาต์ดาวน์ นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มาประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรมจะมาประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี

รองโฆษกรัฐบาลยังกล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานเตรียมพร้อมจ่ายเงินเยียวยาในโครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในกิจการสถานบันเทิง และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ โดยกำหนดให้ผู้ประกันตนในกิจการดังกล่าวได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทต่อคน โดยกระทรวงแรงงานอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดโครงการ ซึ่งจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะสามารถโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) ที่ผูกบัญชีกับเลขบัตรประชาชนรอบแรกภายในปลายเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ประกันตนที่ทำงานเกี่ยวกับสถานบันเทิง

สำหรับผู้ที่จะได้รับสิทธิเยียวยาตามโครงการนี้ จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทำงานในกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องได้รับการรับรองจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การรับรอง ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และรีบชำระเงินสมทบให้ทันภายในวันที่ 14 ม.ค. 2565 พร้อมให้ทางสมาคมดังกล่าวข้างต้นรับรอง ภายในวันที่ 28 ม.ค. 2565 จึงขอให้ผู้ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ให้รีบสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งนอกจากจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐแล้ว ยังมีสิทธิประโยชย์ที่สำนักงานประกันสังคมคุ้มครอง เช่น การจ่ายเงินทดแทนกรณีประสบอันตรายเจ็บป่วยเมื่อนอนโรงพยาบาล 

"ผู้ที่จะสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องมีสัญญาติไทย อายุ 15-65 ปี เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตน จะมี 3 ทางเลือก คือ 1.จ่ายเงินสมทบเดือนละ 70 บาท 2.จ่ายเงินสมทบเดือนละ 100 บาท 3.จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท สามารถสมัครได้หลายช่องทาง ทั้งที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ, เซเว่น อีเลฟเว่น, บิ๊กซี, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร" น.ส.ไตรศุลี กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง