ก้าวไกลเละแจ้สาวไส้/‘ไหม-โรม’โหวตอุ้มปูอัด

"ก้าวไกล" ดิ้นยุติข่าวฉาว กก.บห.นัดลงมติขับ "ปูอัด" อีกรอบ 6 พ.ย.นี้ เหตุไม่ยอมรับผิด-ไม่ขอโทษผู้เสียหายอย่างจริงใจ "ชัยธวัช" เผยจ่อใช้เวทีสัมมนา สส.โหวต เชื่อจบกระบวนการแล้วทำความเข้าใจสังคมได้ "วิโรจน์" ชี้การเปิดเผยข้อมูลผู้เสียหาย-ครอบครัวสร้างบาดแผลเพิ่ม จวกโดยความเป็นมนุษย์ไม่ควรทำ "สส.ปูอัด" ถอดเสื้อส้มเมินเสียงไล่ลงพื้นที่บางมด "สส.แจ้" แฉกลับ ผช.สส.โควตาก้าวไกลเอี่ยวรับเงินโรงงานกำจัดขยะหลายล้านบาท เพจดังโพสต์ภาพ 6 สส.ไม่โหวตขับปูอัด อึ้ง! มีชื่อ "ไหม-โรม-ณัฐชา" ด้วย  "โบว์-ณัฏฐา" ย้อน ก.ก.ไม่โปร่งใสเรื่องจึงไม่ยุติ

เมื่อวันอาทิตย์ มีความคืบหน้ากรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) สอบสวนข้อกล่าวหาร้องเรียน ส.ส.มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ภายหลังคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคก้าวไกล ได้นัดประชุมและลงความเห็นในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 5 พ.ย. ถึงกรณีของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ส.ส.ปูอัด สส.กทม. พรรคก้าวไกล กระทำการฝ่าฝืนวินัยสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง ในกรณีคุกคามทางเพศ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้มีมติให้ลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์ที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค และกำหนดเงื่อนไขให้ดำเนินการ และกำหนดว่า นายไชยามพวานต้องแถลงยอมรับผิดและขอโทษในทางสาธารณะต่อสังคมกับผู้เสียหายทั้งสามรายอย่างจริงใจต่อการกระทําผิดทางวินัยดังกล่าว โดยต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 พ.ย.ว่า การแถลงข่าวของไชยามพวานเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการสำนึก หรือยอมรับว่าพฤติการณ์ของตนเข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศ อีกทั้งยังไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ ตลอดจนยังได้กระทำการก่อความเสียหายต่อผู้เสียหายโดยการเปิดเผยข้อมูลของผู้เสียหายด้วย

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคจึงมีมติว่า ให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการวินัย และจรรยาบรรณ เพื่อดำเนินกระบวนการวินัยสมาชิกพรรคต่อไป ตามข้อบังคับพรรค โดยมีบทลงโทษขั้นสูงสุด คือการพิจารณาขับพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคในที่ประชุมร่วมกันระหว่าง สส.และ กก.บห. ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เร็วสุดในวันที่ 6 พ.ย. นี้

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการดำเนินการของพรรคหลังจากที่ส่งหนังสือถึงนายไชยามพวาน กรณีพรรคมีมติของผลการสอบข้อเท็จจริงต่อการคุกคามทางเพศให้แถลงยอมรับผิด-ขอโทษ-เยียวยาเหยื่อว่า มติของ กก.บห.และ สส.พรรคขีดเส้นตายให้นายไชยามพยานแสดงท่าทีขอโทษต่อผู้เสียหาย และเยียวยาภายในวันที่ 4 พ.ย. ซึ่งถือว่าขั้นตอนนี้จบไปแล้ว วันนี้จะมีการประชุมกก.บห.โดยผ่านระบบออนไลน์เพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ว่าการแถลงดังกล่าว เป็นไปตามมติของที่ประชุม สส.และ กก.บห.หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามมติ และเห็นว่าขัดต่อวินัยร้ายแรงถึงขั้นจะต้องขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ก็จะต้องเรียกประชุม สส.ร่วมกับ กก.บห. ซึ่งในวันที่ 6-8 พ.ย. มีการสัมมนาและประชุม สส.พอดี จึงคิดว่าจะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือ และมีมติร่วมกับ กก.บห.ได้เลย

"ส่วนตัวยังมองว่าสิ่งที่นายไชยามพวานแถลงออกมาเป็นการไม่ยอมรับการกระทำความผิดของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ผมต้องระมัดระวังในการแสดงความเห็นที่อาจจะกระทบกับข้อกฎหมาย ที่จะไปพูดก่อนมีข้อสรุปของกรรมการบริหารพรรคไม่ได้"

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะมีการทำความเข้าใจกับผู้ที่สนับสนุนพรรคและสังคมอย่างไรนั้น หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า หลังจากที่มีการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องมีการทำความเข้าใจ กับสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรค รวมทั้งสังคม พร้อมยอมรับว่ากรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะต้องมีคำถามและมีผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะเป็นการกระทำของ สส.ในพรรค แต่ตนคิดว่าการที่พรรคไม่ได้นิ่งเฉย รวมทั้งยังเอาจริงเอาจังโดยมีกระบวนการในการตรวจสอบและพิจารณาโทษ ก็คิดว่าจะทำให้ประชาชนเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้มีวัฒนธรรมที่จะปกปิดเรื่องเหล่านี้ และมีมาตรการขั้นเด็ดขาด

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายไชยามพวานมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทีมงานซึ่งขณะนี้มีกระแสกดดันทั้งจากภายในพรรคและสังคมให้ลาออกเนื่องจากเจ้าตัวยังไม่แถลงการณ์ยอมรับผิด ว่า สิ่งที่นายไชยามพวานแถลงไม่ได้เป็นไปตามมติ กก.บห. และการแถลงนั้นไม่ได้เป็นการยอมรับผิด ซ้ำยังใช้การแถลงเปิดเผยข้อมูลผู้เสียหาย ซึ่งทำให้ครอบครัวผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้รับความทุกข์เพิ่มและเดือดร้อนอย่างมาก เข้าใจว่า กก.บห.ก็ทราบ ในเบื้องต้นทางหัวหน้าพรรรคก็ยืนยันว่าทาง กก.บห.ได้ยื่นข้อเสนอให้นายไชยามพวานดำเนินการ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม

ซัด 'ปูอัด' คุกคามผู้เสียหายซ้ำ

 “ท่าทีที่ออกมาไม่ใช่การสำนึกผิด การโค้งคำนับเป็นเพียงการแสดงเพื่อปฏิเสธการรับผิด ไม่ได้เป็นการแสดงความเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ได้เป็นการขอโทษสังคมหรือผู้เสียหาย อีกทั้งยังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายคุกคามผู้เสียหายซ้ำ และสร้างบาดแผลให้กับครอบครัวผู้เสียหายเพิ่ม โดยความเป็นมนุษย์ก็ไม่ควรจะทำ”

นายวิโรจน์กล่าวว่า ทาง กก.บห.ก็คงจะมีการพิจารณาโดยเร็วที่สุด หากไม่มีข้อมูลเป็นอื่น คงจะมีมติให้ที่ประชุม สส. และ กก.บห.พิจารณาร่วมกันในการขับนายไชยามพวานพ้นจากสมาชิกภาพพรรคก้าวไกล

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแชตหลุดในกลุ่มผู้ช่วย สส.ของพรรคก้าวไกล โดยมีข้อความเตือนผู้ช่วย สส. ที่กำลังจะออกจดหมายเปิดผนึกกรณี สส.ของพรรคคุกคามทางเพศ ซึ่งอ้างว่านายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้หยุดแสดงความคิดเห็น ในเรื่องดังกล่าวไปก่อน เพราะจะกลบการยื่นกฎหมายสำคัญของพรรคว่า เราไม่ได้ห้าม สส.พูด แต่การแสดงความคิดเห็นต้องเคารพ สส.คนอื่นด้วย เพราะถือว่าเป็นการกดดันให้ สส.ที่ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต้องออกมาพูด รวมถึงนายชัยธวัชและพรรคได้ออกหนังสืออย่างเป็นทางการไปแล้วว่า ให้นายไชยามพวาน  แถลงขอโทษและเยียวยาผู้เสียหายภายในวันที่ 4 พ.ย. เพื่อให้ปรับปรุงตัว และแก้ไขให้ดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าข้อความในส่วนนี้ขาดหายไป หากจดหมายออกมาก่อนวันที่ 4 พ.ย. ตนมองว่าไม่ควร ซึ่งตนได้รับแจ้งว่า ทางผู้ช่วย สส.จะทำจดหมายเปิดผนึก จึงได้เข้าไปเตือนให้หยุดสื่อสารเรื่องนี้ เนื่องจากสื่อสารมามากพอแล้ว

"ฉะนั้น หากมีผู้ช่วย สส.ออกมาแสดงความเห็น รวมถึงกดดัน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เพราะอยู่ในช่วงเวลาที่ให้นายไชยามพวานดำเนินการแก้ไข และการที่ผู้ช่วย สส.เพียงไม่กี่คนผลักดันจดหมายในนามผู้ช่วย สส.ของพรรคก้าวไกล คงไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากในแชตมีผู้ช่วย สส.เพียง 200 กว่าคน จากผู้ช่วย สส.ทั้งหมด และพรรคก็เตรียมผลักดันกฎหมายหลายฉบับที่สำคัญ การที่มีเรื่องนี้เป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา จะทำให้การผลักดันกฎหมายได้รับความสนใจน้อยลง การที่เราให้เวลาเขาไปแล้ว แล้วไปกดทับเขาว่าต้องจัดการเดี๋ยวนี้ เราจะให้เวลาเขาไปทำไม น้องๆ เขาอาจจะยังไม่ทันคิด ด้วยอารมณ์โกรธ และต้องการให้คนคนนี้ออกไปจากพรรค ผมก็เข้าใจ แต่ในเมื่อที่ประชุมใหญ่ของพรรคมีมติให้ออกมาแบบนี้แล้ว ผู้ช่วยมีหน้าที่สนับสนุน การทำเช่นนี้ถือเป็นการข้ามสายบังคับบัญชา" นายกรุณพลกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายไชยามพวาน  ที่พรรคขีดเส้นให้ออกมาขอโทษและเยียวยาผู้เสียหายภายในวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดช่วงเช้าวันอาทิตย์ นายไชยามพวานได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยเป็นภาพการลงพื้นที่ชุมชนบางมด ข้อความว่า “นำวัชพืชบริเวณคลองบัวหลังชุมชนบางมดออกเรียบร้อย คลองบัวหลังชุมชนบางมดไม่เคยได้มีการนำวัชพืชออกมานานนับหลายปี ส่งผลให้น้ำระบายออกช้าและส่งกลิ่นเหม็นต่อพี่น้องประชาชน ผมได้ประสานไปยังสำนักงานเขตจอมทอง ต้องขอขอบคุณสำนักงานเขตจอมทองที่เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โพสต์ดังกล่าวเป็นที่น่าสังเกตว่า นายไชยามพวานสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ไม่มีโลโก้พรรคก้าวไกล รวมถึงไม่ได้สวมเสื้อแจ็กเกตสีส้มของพรรคลงพื้นที่ตามปกติ ซึ่งต่างจากการลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ ที่จะสวมเสื้อแจ็กเกตสีส้มติดโลโก้พรรคก้าวไกลลงพื้นที่แทบทุกครั้ง

'สส.แจ้'แฉผช.สส.รับเงินนายทุน

ทางด้าน นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออก หลังตรวจสอบพฤติกรรมคุกคามทางเพศ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “ผมหยุดให้ข่าวใดๆ หลังจากที่แถลงไปในวันแรก แต่ ผช.สส.ของกรรมการพรรคบางท่าน ยังคงไล่ตีผมไม่หยุด หรือต้องให้ผมต้องพูดทั้งหมด?”

“ตามข้อมูลหลักฐานที่ผมเคยให้พรรคไป ผู้ช่วย สส.ของปราจีนบุรี (จากโควตาของพรรค) คนนี้ เกี่ยวพันกับการเอื้อรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะหลายล้านบาท ส่วนเรื่องจะทุจริตหรือไม่ทุจริตก็ไปว่ากันในพรรค ซึ่งผมเดินออกมาแล้ว คงไม่ขอก้าวล่วงกระบวนการ”

 “แต่หากพรรคยังปล่อยปละ ให้ช่วย  สส. ที่เป็นถึงผู้ช่วยของกรรมการบริหารพรรค ปล่อยข่าวมูลต่างๆ และสร้างความเสียหายกับผมเช่นนี้ ผมอาจจำเป็นต้องชี้แจงจากหลักฐานทั้งหมด ผมต้องการทำ และสร้างการเมืองที่ไม่ทุจริต” นายวุฒิพงศ์ระบุ

ขณะที่แฟนเพจ "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ระบุว่า "จิ้งจกในสภารายงานว่า สส.ทั้ง 6 คนในภาพนี้ ไม่ได้ยกมือขับคุณปูอัดออกจากพรรค (=ให้อยู่ต่อ) หนูขอถามว่าจริงหรือไม่คะ อยากฟังเหตุผลด้วยค่ะ (คุณไหม คุณโรม คุณเพ้น คุณสิริน คุณกาย และ คุณต้นกล้า)"

สำหรับภาพของ สส.​ที่เพจ "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" ที่นำมาประกอบโพสต์ดังกล่าว มีทั้งสิ้น 6 คน ได้แก่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ, นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล สส.กทม., นายสิริน สงวนสิน สส.กทม., นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และนายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม.

แอดมินเพจดังกล่าวยังระบุข้อความในช่องแสดงความคิดเห็นด้วยว่า "ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือหน้าอาย หนูอยากฟังเหตุผลดีๆ เท่านั้นเอง", "มีงดออกเสียงด้วยนะคะ แต่ถือว่าเป็นคะแนนให้ปูอัดอยู่ต่อ", "ถ้าไม่ได้มาโหวต เท่ากับสนับสนุนให้ปูอัดอยู่ต่อใช่มั้ยคะ?" เป็นต้น

น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ "โบว์" พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และอดีตนักกิจกรรมทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ความผิดฐานคุกคามทางเพศนั้น จะต้องมีการกระทำที่ทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกอึดอัดหวาดกลัวและอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเป็นการกระทำโดยผู้บังคับบัญชา จะมีโทษสูงขึ้น

สิ่งที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งคุณแจ้และปูอัดเปิดเผยออกมา เป็นไปเพื่อชี้นำให้สังคมเห็นว่า ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ถูกกล่าวหา เพราะหลังจากนั้นหลายเดือน ผู้กล่าวหาก็ยังส่งคลิปส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมมาให้ ส่งจดหมายมาแสดงความชื่นชมยินดี เอ่ยถึงความสุขของการได้ร่วมทางกันมา ขอติดตามสนับสนุนต่อไป ในเคสคุณปูอัด มีความพยายามเล่าเรื่องให้สังคมรับรู้ว่าทางครอบครัวของฝ่ายหญิงก็มีมิตรไมตรีที่ดีกับตน เมื่อชนะเลือกตั้ง ฝ่ายหญิงส่งจดหมายมาแสดงความชื่นชมยินดีและต้องการมีส่วนร่วมในงานต่อไป เป็นความพยายามจะแสดงให้เห็นว่าไม่มีการคุกคามต่อกันก่อนหน้านั้นตามที่ถูกกล่าวหา ฯลฯ ซึ่งแน่นอน สังคมไม่อาจบอกได้ว่าหลักฐานที่แสดงออกมาคือข้อเท็จจริงหรือไม่

กก.ไม่โปร่งใสเรื่องจึงยังไม่ยุติ

น.ส.ณัฏฐาระบุว่า การเปิดเผยผ่านการแถลงข่าวโดยทั้งสองคนนี้ไม่ควรต้องเกิดขึ้นเลย หาก "พรรคก้าวไกล" มีความโปร่งใสในกระบวนการและในคำตัดสิน แถลงให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง ข้อโต้แย้งของทั้งสองฝ่าย และเหตุผลของคำตัดสินอย่างตรงไปตรงมา โดย "ปิดชื่อผู้เสียหาย" เพื่อให้สังคมได้ใช้วิจารณญาณกับข้อมูลที่ได้รับ เพื่อให้สังคมรู้ตัวว่ากำลังประณามการกระทำใดในบริบทใดอยู่ เพื่อให้ทุกอย่าง "ยุติ" โดย "ธรรม" นี่คือความหมายของความยุติธรรม แต่เมื่อสิ่งเหล่านั้นไม่เกิดขึ้น เรื่องจึงยังไม่ "ยุติ"

"วันนี้สังคมจึงตั้งคำถามว่า พรรคก้าวไกลหมกเม็ดข้อเท็จจริงเพราะอะไร ทั้งที่ปกปิดชื่อฝ่ายผู้ร้องได้อยู่แล้ว หรือเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น อาจไม่ใช่ "การคุกคามทางเพศ" แต่เป็นความสัมพันธ์ที่พรรคเห็นว่าไม่เหมาะสมในทีมงาน คือระหว่างผู้เตรียมตัวเข้าสู่สนามเลือกตั้ง กับอาสาสมัครที่มาช่วยหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว? หรือเพราะกลัวสังคมไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน? หรือเพราะกระบวนการที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มาตรฐานพอจะพิสูจน์ความผิด? หรือเพราะอะไร? คำถามจะเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ หากยังคงไม่มี "ความโปร่งใส" ในคำตัดสินที่พิพากษาคนด้วยข้อหารุนแรงไปแล้วทั้งชีวิต" น.ส.ณัฏฐาระบุ

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "เรื่องความผิดของ สส.ก้าวไกลกับเรื่องการชุมนุมทางการเมือง ใครควรได้รับการนิรโทษ... การข่มขู่คุกคามทางเพศของ สส.พรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่ทั้งพรรคและสังคมประณาม ทั้งเป็นการกระทำที่เป็นเรื่องส่วนตัวของ สส. มิใช่เป็นเรื่องของประเทศชาติและประชาชนหรือเรื่องทางการเมืองแต่อย่างใด จะถูกขับไล่ จะถูกสังคมประณาม หรือถูกดำเนินคดีอาญาก็เป็นเรื่องของ สส.คนนั้น ไม่ควรที่จะได้รับการอภัยหรือนิรโทษกรรมแต่อย่างใด ผิดก็ต้องผิดและต้องว่ากันให้สุดๆ

แต่การเคลื่อนไหวและการชุมนุมทางการเมืองของเสื้อเหลืองเสื้อแดง นปช.  กปปส. ตลอดจนกลุ่มการเมืองต่างๆ เป็นการกระทำและเป็นการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีเถยจิตคิดชั่ว แม้จะผิดกฎหมายอาญา กฎหมายแพ่งใดๆ ไปบ้าง มันก็เป็นเรื่องของการเมือง จะเอาเป็นเอาตายกันไปถึงไหน... นี่ก็เกือบสองทศวรรษแล้ว จะโกรธจะเกลียดจะห้ำหั่นกันไปทำไม ผู้มีอำนาจบางคนบางพวกก็ได้ดิบได้ดี ได้เสวยสุขเสวยอำนาจก็มาจากพวกเขานี่แหละ แต่ทำแบ๊ะๆ กันไปได้ ควรจะสำนึกสำเหนียกกันบ้าง จบได้ควรจบ เลิกได้ควรเลิก จะให้เขาทุกข์ทรมานกันไปถึงไหน

"โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง รู้เช่นเห็นชาติเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี แทนที่จะเป็นคนเริ่มต้น กลับให้ก้าวไกลเขาทำเสียนี่...ผมว่าน่าอายนะ...จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบไหนอย่างไรก็รีบๆ ทำซะ ประกบเข้าไปเลย... เปิดประชุมสมัยหน้าก็รีบเสนอเข้าสภาให้มันจบในสมัยนั้นแหละ เอ้อเร่อเอ้อเต่อต่อไป เดี๋ยวก็ไม่ได้ทำหรอก...จะบอกให้..." นายวันชัยระบุ.