อิสราเอลถล่มฮามาสหนัก แรงงานไทยถูกจับอีก3ราย

อิสราเอลโจมตีข้ามคืนในกาซาตอนเหนือ สังหารฮามาสหลายสิบคน พร้อมเร่งให้อพยพคนออกจาก รพ. ขณะที่ด้านความช่วยเหลือเปิดให้ขบวนรถบรรทุกเข้าไปครั้งใหม่จำนวนมากกว่าเดิม "เศรษฐา" เผยมีคนไทยถูกจับเพิ่ม 3 คน ย้ำเป้าหมายหลักช่วยตัวประกัน ระบุมีหลายประเทศพร้อมช่วย แต่ต้องเข้าให้ถูกจุดเพื่อไม่กระทบการเจรจา

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2566 ว่า การสู้รบในฉนวนกาซาดุเดือดต่อเนื่องเป็นวันที่ 24 หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอย่างไม่คาดคิด คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 1,400 ราย และการตอบโต้กลับของอิสราเอลที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 8,000 รายถูกสังหาร โดยการทิ้งระเบิดตอบโต้อย่างไม่หยุดยั้ง

สถานการณ์ล่าสุด กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า กองกำลังของตนสังหารกลุ่มติดอาวุธหลายสิบคนในการปะทะกันข้ามคืนในฉนวนกาซา หลังจากอิสราเอลยกระดับการโจมตี "ขั้นที่ 2" ตามคำประกาศของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู

กองทัพอ้างว่า ได้ทำการสังหารผู้ก่อการร้ายหลายสิบคนที่ซ่อนตัวในอาคารและอุโมงค์ โดยใช้เครื่องบินขับไล่มุ่งเป้าไปที่อาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหน่วยปฏิบัติการก่อการร้ายของกลุ่มฮามาสมากกว่า 20 คนอยู่ข้างใน สอดรับกับคำกล่าวของกลุ่มฮามาสที่ว่านักรบของตนกำลัง "สู้รบหนัก" กับกองกำลังอิสราเอลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา

ล่าสุด รถถังของอิสราเอลได้เข้าสู่ชายขอบของเมืองกาซา และขับตัดถนนสายหลักจากทางเหนือไปทางใต้เพื่อสกัดการหลบหนีของฮามาส

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์กล่าวว่า อิสราเอลได้ทิ้งระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ารอบๆ โรงพยาบาลอัลกุดส์ในฉนวนกาซาตอนกลาง ก่อให้เกิดความเสียหายและทำให้พลเรือนตกอยู่ในความเสี่ยง  นอกจากผู้ป่วยแล้ว ยังมีผู้พลัดถิ่นจากสงครามอีกราว 14,000 คนกำลังพักพิงอยู่ที่นั่น

สหประชาชาติระบุว่า ยังมีการระดมยิงเมื่อสุดสัปดาห์ใกล้กับโรงพยาบาลชิฟาและโรงพยาบาลอินโดนีเซียน ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ขณะที่โรงพยาบาล 10 แห่งได้รับคำสั่งจากอิสราเอลให้อพยพในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

แต่หัวหน้าองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า การเรียกร้องให้อพยพออกจากโรงพยาบาลนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะทำโดยปราศจากผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อตัวผู้ป่วย

ที่จุดผ่านแดนราฟาห์ มีการอนุญาตให้รถบรรทุกอีก 33 คันที่บรรทุกน้ำ, อาหาร และเวชภัณฑ์เข้าสู่ฉนวนกาซาเมื่อวันอาทิตย์ ถือเป็นการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม แต่ยังคงมีการเรียกร้องอิสราเอลให้อนุญาตขนส่งเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่เพื่อใช้งานอุปกรณ์ทางการแพทย์, สิ่งอำนวยความสะดวกด้านน้ำและสุขาภิบาล

จนถึงตอนนี้รถบรรทุกทั้งหมด 117 คันได้เข้าสู่ฉนวนกาซาแล้ว นับตั้งแต่มีการส่งมอบอย่างจำกัดปริมาณจากชายแดนอียิปต์ ไปยังดินแดนปาเลสไตน์ที่ยากจนซึ่งกำลังเผชิญกับการปิดล้อมต่อเนื่อง

กองทัพอิสราเอลระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในซีเรียเพื่อตอบโต้จรวดที่ถูกยิงข้ามพรมแดนเข้ามา ส่งสัญญาณความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบในภูมิภาคจากสงครามฉนวนกาซา

เหตุการณ์ดังกล่าวตามมาด้วยความรุนแรงเพิ่มเติมตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอน โดยกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอ้างว่าได้ยิงโดรนของอิสราเอลตก และกล่าวว่าอิสราเอลได้ทำลายเครื่องบินรบของตนไป 1 ลำ

ขณะที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสในเลบานอนกล่าวว่า พวกเขาได้ยิงจรวดใส่อิสราเอล และอิสราเอลระบุว่าได้ตอบโต้กลับด้วยการโจมตีทางอากาศเช่นกัน

ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ตำบลบ้านจั่น  อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการถึงสถานการณ์ในอิสราเอล โดยยืนยันว่ามีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มอีก 3 คน ส่วนการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันทุกฝ่ายก็ยังทำงานอยู่ และขณะนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็ยังทำหน้าที่อยู่ที่มาเลเซีย โดยการเดินทางในอิสราเอลก็เริ่มลำบากขึ้นหลังมีปฏิบัติการภาคพื้นดิน จึงขอให้ทุกคนเร่งตัดสินใจ ขณะที่ภาครัฐเองก็ต้องทำงานด้วยความละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น เพราะการลำเลียงคนมีความเสี่ยงมากขึ้น ต้องมีการคุยกันในเชิงลึก มีรายละเอียดเยอะมาก

เมื่อถามว่า กรณีที่คนไทยถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มขึ้นนั้น ถือว่าคนไทยตกเป็นเป้าของกลุ่มฮามาสหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า อย่าพูดแบบนั้นว่าคนไทยตกเป็นเป้าของฮามาส เพราะเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง เราไม่ได้เป็นเป้าพิเศษของกลุ่มใดทั้งสิ้น แต่เราเป็นเหยื่อของสงครามมากกว่า อีกทั้งแรงงานไทยในอิสราเอลมีจำนวนมากกว่าประเทศอื่นๆ จึงทำให้เราได้รับผลกระทบมาก ตนจึงพยายามย้ำว่าขอให้คนไทยเร่งเดินทางกลับประเทศ เพราะหลังจากนี้จะมีความยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงสายวันนี้จะมีการพูดคุยกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ เพื่ออัปเดตสถานการณ์และอาจต้องมีการเดินทางไปเจรจาให้มากขึ้น

เมื่อถามถึงจำนวนคนไทยที่ยังเหลืออยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซา นายกฯ กล่าวว่า ยังมีคนที่สูญหายอยู่บ้างและกำลังประเมินสถานการณ์ แต่ช่วงที่มีปฏิบัติการภาคพื้นดิน การสื่อสารก็ถูกตัดขาดหมด ทำให้มีความยากลำบาก

เมื่อถามถึงกรณีจะมีรัฐมนตรีเดินทางไปเจรจา นายกฯ กล่าวว่า แนวทางหลักคือทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน ส่งกลับบ้านให้เร็วที่สุด ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญที่สุด ซึ่งขณะนี้ทุกประเทศต่างให้ความช่วยเหลือและหวังดีกับเรา ซึ่งเราต้องเข้าให้ถูกจุดเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเรื่องการเจรจา ทำให้บางอย่างตนไม่สามารถพูดได้ชัดเจน เพราะเวลาไปต่อรองหากไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ ตนเข้าใจว่าทุกคนอยากทราบข่าว แต่ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญมาก และย้ำว่าขอให้ทุกคนเร่งตัดสินใจกลับในช่วงที่ยังกลับได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ช่วยนักโทษติดคุกหมด เสรีพิศุทธ์ถอนตัวงัดหลักฐานมัดแก๊งชั้น14/ปชป.มีมติร่วมรบ.

"นายกฯ อิ๊งค์" อารมณ์ดีนัดสื่อให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง 30 ส.ค. "ภูมิธรรม" มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล หลังดึง