‘โพล’อวยผู้นำ ทัวร์เมืองนอก ‘เรืองไกร’บี้งบ

นิด้าโพลเผยคนค่อนข้างพอใจ "นายกฯ เยือน ตปท." ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา “เศรษฐา” ระบุจะต้องทำงานหนักต่อไป ขณะที่ “เรืองไกร” ไล่บี้ ขอเอกสารค่าใช้จ่ายเช่าเหมาลำ 30 ล. ร่วมประชุม UNGA 78 นิวยอร์ก เหตุข้องใจลูกสาวจ่ายค่าใช้จ่ายเอง-ใช้เงินแผ่นดินส่อฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือไม่  หลังหน่วยงานรัฐกั๊กข้อมูล

วันที่ 29 ต.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง สนใจเรื่องนายกฯ  เศรษฐาเยือนต่างประเทศหรือไม่ จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงประเด็นที่สนใจจากข่าวการเดินทางเยือนต่างประเทศในช่วง 2 เดือนของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 39.01 ระบุว่า ไม่ได้ติดตามข่าวการเยือนต่างประเทศของนายกฯ เลย รองลงมา ร้อยละ 24.43 ระบุว่า การเข้าพบผู้นำหรือบุคคลสำคัญในต่างประเทศ

เมื่อถามผู้ที่ติดตามข่าวการเดินทางเยือนต่างประเทศของนายกฯ (จำนวน 799 หน่วยตัวอย่าง) ถึงความพอใจต่อบทบาทของนายกฯ เศรษฐา เกี่ยวกับการเดินทางเยือนต่างประเทศในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 46.31 ระบุว่าค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 23.40 ระบุว่าพอใจมาก, ร้อยละ 20.27 ระบุว่าไม่ค่อยพอใจ, ร้อยละ 9.39 ระบุว่าไม่พอใจเลย และร้อยละ 0.63 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความพอใจในบทบาท ผลงานของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ในช่วง 2 เดือนที่ดำรงตำแหน่ง  พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 36.87 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.87 ระบุว่าไม่ค่อยพอใจ, ร้อยละ 18.40 ระบุว่าพอใจมาก, ร้อยละ 13.74 ระบุว่าไม่พอใจเลย และร้อยละ 4.12 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  และ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนิด้าโพลเผยผลสำรวจพบประชาชนเกือบ 37% พอใจผลงานภาพรวมช่วง 2 เดือนของนายกฯ เศรษฐาว่า ก็ต้องทำงานหนักต่อไป วันเสาร์-อาทิตย์ รัฐมนตรีก็ไม่เคยหยุด และวันเดียวกันนี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ก็ร่วมลงพื้นที่ด้วย ต้องขอบคุณ พร้อมรับคำติชม หากตรงไหนที่เราปรับปรุงได้เราก็ยินดี รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานได้ 6-7 สัปดาห์เอง ตรงนี้พยายามต่อ เข้าใจว่ายังมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไขพอสมควร รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ  สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า  วันนี้ตนได้ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอหลักฐานการใช้จ่ายเงินในคราวที่นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78 th Session of the United Nations General Assembly : UNGA 78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2566 

หลังที่ปรากฏเป็นข่าว โดยทั่วไป การเดินทางดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีและคณะมีการเช่าเครื่องบินเหมาลำไปด้วยวงเงิน 30 ล้านบาท และมีบุคคลภายนอกร่วมเดินทางไปด้วย 2 คน หนึ่งในนั้นมีลูกสาวของนายกรัฐมนตรีรวมอยู่ด้วย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ตามมา จนทำเนียบรัฐบาลต้องมาชี้แจงว่า  ลูกสาวของนายกรัฐมนตรีร่วมเดินทางไปบนเครื่องบินเช่าเหมาลำจริง แต่ออกค่าใช้จ่ายเอง 

แต่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประสานส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจรับผิดชอบกรณีที่ท่านมีหนังสือคำร้องดังกล่าวเพื่อพิจารณา โดยขอให้แจ้งผลให้ท่านทราบโดยตรงด้วยแล้ว แต่ระยะเวลาล่วงมาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว ยังไม่ได้รับการแจ้งผลตามคำร้องจากกระทรวงการต่างประเทศ

นายเรืองไกรยังระบุว่า เพื่อให้แน่ใจได้ว่าการเดินทางครั้งนี้มีหลักฐานการรายงานค่าใช้จ่ายต่างๆ มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ว่านายกรัฐมนตรีและคณะได้มีการเบิกเงินและคืนเงินโดยชอบด้วยพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 ลักษณะ 3 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศหรือไม่ และเป็นไปโดยชอบด้วยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการและการจัดการประชุมของทางราชการ พ.ศ. 2524 หรือไม่ และลูกสาวของนายกรัฐมนตรีที่ร่วมเดินทางด้วยได้ออกเงินเองจริงหรือไม่

“นายกรัฐมนตรีจึงควรสั่งการให้สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือกระทรวงการต่างประเทศ รีบเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายเดินทาง ทั้งค่าเช่าเหมาลำ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารับรอง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปประชุมดังกล่าว พร้อมสำเนาเอกสารทางบัญชีหรือการเงินทั้งหมดที่ต้องรายงานตามระเบียบทางราชการให้ข้าฯ  ทราบโดยเร็วด้วย” นายเรืองไกรกล่าวและว่า หากข้าฯ ได้ข้อมูลมาตรวจสอบแล้วพบว่าอาจมีการใช้เงินแผ่นดินไปโดยไม่ชอบหรือโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต อันอาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวง  ก็จะรีบแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ในวันที่ 29 ต.ค. ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.อุดรธานี โดยใช้รถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กล 5558 อุดรธานี ก่อนร่วมพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 รวมถึงร่วมชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ในช่วงเย็น 17.00 น. ที่ลานนาคาเบิกฟ้า และเป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย จากนั้นไปร่วมชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค บริเวณพุทธอุทยานนานาชาติ (ปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์) ตำบลกุดบง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

ขณะที่วันที่ 30 ต.ค. นายกฯ จะเดินทางไปเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เพื่อสานต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือของสองประเทศ และร่วมพิธีเปิดสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คําสะหวาด) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสองประเทศ รวมถึงพบกับนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว และเลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว กับนายไซสมพอน พมวิหาน  ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาวด้วย  ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มีหนาว! ‘เรืองไกร’ ร้อง ปปช. ตรวจสอบจนท.ของรัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่

วันนี้ผมจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 8 รายดังกล่าว