ยูเอ็นห่วงยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาพุ่ง หลังอิสราเอลถล่มหนักทำอาหาร-น้ำขาดแคลน สหรัฐเตือนอิหร่านไม่ให้ผสมโรงกลุ่มฮามาส "เศรษฐา" แจงเช็กแล้วยอดตัวประกันไทยยัง 18 คนเท่าเดิม เผย ครม. 31 ต.ค. คลังชงจัดงบปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยแรงงานจ่ายหนี้ วอนรีบกลับไทย "บัวแก้ว" การันตีหากสถานการณ์สงบอิสราเอลยินดีรับกลับเข้าทำงานอีกครั้ง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมว่า สหประชาชาติออกโรงเตือนทุกฝ่ายว่า ยังมีอีกหลายคนที่ต้องเสียชีวิตในฉนวนกาซาจากการขาดแคลนทรัพยากรเพื่อการดำรงชีพ หลังอิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีต่อเนื่องเกือบสามสัปดาห์เพื่อไล่ล่าทำลายกลุ่มฮามาส
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ทหารได้ใช้เครื่องบินรบและโดรนเป็นหลักในการบุกโจมตีฉนวนกาซา และกำลังเตรียมการโจมตีภาคพื้นดิน
ความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบในภูมิภาคจากความขัดแย้งดังกล่าว ล่าสุดวอชิงตันเตือนอิหร่านไม่ให้ผสมโรงกับกลุ่มฮามาสจนทำให้การสู้รบขยายวงบานปลาย และยังได้สั่งการกองทัพสหรัฐให้โจมตีฐานปฏิบัติการในซีเรียที่ต้องสงสัยว่าอำนวยความสะดวกให้กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน
สถานการณ์ความสูญเสียล่าสุด ตัวเลขผู้เสียชีวิตฝั่งอิสราเอลยังคงอยู่ที่ระดับ 1,400 ราย และพลเรือนถูกลักพาตัว 229 คน ขณะที่ฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 7,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและเด็กจำนวนมาก อันนำไปสู่การเรียกร้องในวงกว้างให้คุ้มครองผู้บริสุทธิ์ที่ติดอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง
หัวหน้าหน่วยงานสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเยรูซาเล็มว่า ผู้คนในฉนวนกาซากำลังจะตาย พวกเขาไม่เพียงแต่ตายจากระเบิดและการโจมตีเท่านั้น แต่อีกไม่นานจะมีคนตายอีกจำนวนมากจากผลของการถูกปิดล้อม
หน่วยงานท้องถิ่นในกาซาให้ข้อมูลว่า บ้านเรือนประมาณ 45% ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง, บริการขั้นพื้นฐานกำลังพังทลาย, ยารักษาโรคกำลังจะหมด เช่นเดียวกับอาหารและน้ำ ขณะที่ถนนในฉนวนกาซาเริ่มล้นไปด้วยสิ่งปฏิกูล
อิสราเอลยังคงตัดเสบียงอาหาร, น้ำ และไฟฟ้าไปยังฉนวนกาซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดกั้นการส่งเชื้อเพลิงทั้งหมด โดยกังวลว่ากลุ่มฮามาสจะนำไปใช้ประโยชน์ในการผลิตอาวุธและวัตถุระเบิด แม้จะยอมตกลงเปิดเส้นทางให้กับรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากสหประชาชาติแล้วก็ตาม แต่ยังคงไม่เพียงพอ
ความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งชุดแรกได้รับอนุญาตในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตั้งแต่นั้นมา มีรถบรรทุกเพียง 74 คันเท่านั้นที่ข้ามผ่านชายแดนราฟาห์ที่ติดกับอียิปต์ ไปยังพื้นที่ขาดแคลนที่มีมากหลายจุด
นานาชาติต้องการให้กระแสความช่วยเหลือดำเนินต่อไปโดยไม่ชะงัก และร้องขอการหยุดยิงด้านมนุษยธรรมเพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือนี้ไปถึงผู้ที่ต้องการ
เมื่อเย็นวันพฤหัสบดี บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปเรียกร้องการเข้าถึงและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง, รวดเร็ว, ปลอดภัย และไม่มีข้อจำกัด เพื่อเข้าถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือผ่านมาตรการที่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงช่องทางด้านมนุษยธรรมและการหยุดยิงชั่วคราว
ปัจจุบันกองทหารอิสราเอลหลายหมื่นนายรวมพลตามแนวชายแดนฉนวนกาซา ก่อนที่จะมีการโจมตีภาคพื้นดินตามที่คาดกันไว้ โดยกองทัพกล่าวว่าจะเริ่มต้นโจมตีภาคพื้นดินในพื้นที่ตอนกลางของฉนวนกาซา ทั้งนี้ รถถังและทหารราบได้เริ่มโจมตีภาคพื้นดินแบบจำกัดพื้นที่ไปแล้วเมื่อคืนก่อน โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มอิสลามิสต์ฮามาสทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
อิสราเอลได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากพันธมิตร รวมถึงสหรัฐ สำหรับการปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา โดยเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมด ที่มีทั้งชาวอิสราเอล, ชาวต่างชาติ และบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งชะตากรรมของบรรดาตัวประกันนี่เองที่ยังคงเป็นปัจจัยยับยั้งปฏิบัติการภาคพื้นดินเต็มรูปแบบตามแผนของอิสราเอล
อิสราเอลเคยเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้พลเรือนทางตอนเหนือของฉนวนกาซาอพยพลงใต้เพื่อความปลอดภัย แต่ตนเองกลับโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้และเส้นทางอพยพ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้พลัดถิ่นที่หลบหนีแบบไม่รู้ทิศทางที่ปลอดภัยจริง
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการตรวจสอบกระแสข่าวสื่อต่างประเทศระบุแรงงานไทยในอิสราเอลถูกจับเป็นตัวประกันจำนวน 54 รายว่า เราได้เช็กกับสถานทูตไทยในอิสราเอลแล้ว และเช็กสถานทูตที่นี่แล้ว โดยฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศเป็นคนประสาน และมีการประสานข้อมูลกับทางด้านฝ่ายความมั่นคง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดยืนยันตัวเลขยังเท่าเดิมอยู่ อาจจะมีการรวมผู้เสียชีวิตไปด้วยหรือผู้ที่สูญหาย
ยอดตัวประกันไทยยัง 18 คน
"ที่สำนักข่าวรอยเตอร์เสนอตัวเลข 54 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้นคงไม่ใช่ ณ จุดนี้ยังยืนยันว่าตัวประกันยังตัวเลขเท่าเดิมอยู่" นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐากล่าวถึงความคืบหน้าหลังได้หารือกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กรณีแรงงานไทยถูกนายจ้างล่อด้วยเงินและการเลื่อนจ่ายเงินเป็นวันที่ 10 พ.ย. เพื่อให้อยู่ทำงานต่อว่า เข้าใจว่าปัญหานี้ได้ถูกแก้ไขหมดแล้ว คือมีการจ่ายเงินเมื่อแรงงานไทยที่เป็นลูกจ้างอยากกลับก็ต้องจ่ายเงินทันที ตรงนี้ขอให้สบายใจ จึงขอให้แรงงานไทยตัดสินใจกลับบ้านมาโดยเร็ว ในขณะที่การปฏิบัติการภาคพื้นดินยังไม่เกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี
"หากเกิดลักษณะนี้อีกสามารถบอกมาได้เลย ซึ่งจะจัดการต่อให้ เพราะเมื่อสักครู่ได้พูดคุยกับทางเอกอัครราชทูตไทยประจำที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลเรียบร้อยแล้ว และยืนยันจะมีการจ่ายเงินเมื่อแรงงานไทยต้องการที่จะเดินทางกลับทันที ไม่จำเป็นต้องรอถึงวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี" นายกฯ กล่าว
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลและการช่วยเหลือคนไทย โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม และนายเศรษฐา รวมถึง น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวผ่านระบบออนไลน์ด้วย
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งในที่ประชุมว่า คนไทยที่กู้ยืมเงินเพื่อจ่ายค่านายหน้าในการหางานทำในต่างประเทศนั้น กระทรวงการคลังจะให้ความช่วยเหลือ โดยจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการปล่อยกู้เงินดอกเบี้ยต่ำแก่แรงงานไทย เพื่อให้นำจ่ายหนี้คืนนายหน้า สำหรับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำดังกล่าวมีระยะเวลาการผ่อนชำระ 20 ปี และคิดอัตราดอกเบี้ย 0.01 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเฉลี่ยแล้วเป็นการชำระคืนไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน โดยเราจะพยายามผลักดันเรื่องนี้สู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ได้ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ตนก็หวังว่าจะมีข่าวดี
"ขอให้คนไทยทุกคนรีบกลับประเทศ เพราะสถานการณ์ที่นั่นไม่ค่อยดี รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางในการเร่งจัดการเรื่องการเงิน เพื่อให้ทุกคนเกิดความสบายใจ และมีการดูแลอย่างเต็มที่ตลอดเวลา รวมถึงการจัดหางานใหม่ให้กับแรงงานไทย หากมีสัญญาณแจ้งว่าจะมีคนไทยต้องการกลับประเทศไทยมากขึ้น ขอให้รีบแจ้งมา เพื่อที่เราจะเตรียมเครื่องบินไปรับ"
ด้านนางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลและภารกิจอพยพคนไทยกลับประเทศว่า สถานการณ์การสู้รบขณะนี้มีความเป็นห่วงในพื้นที่ เลบานอน เวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพยายามพูดคุยกับอิสราเอลให้ชะลอการบุกแบบเต็มรูปแบบไปก่อน ด้วยความคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกัน ซึ่งตัวประกันที่เราติดตามได้รับการปล่อยตัวออกมา 2 ระลอกแล้ว จำนวน 4 คน โดยเป็นคนอิสราเอลทั้งหมด ทุกฝ่ายเรียกร้องให้ดูแลความปลอดภัยตัวประกันและปล่อยตัวประกันออกมาให้เร็วที่สุด
นางกาญจนากล่าวว่า ในส่วนแรงงานชาวไทยในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 33 ราย บาดเจ็บ 18 ราย โดยที่มี 5 รายอยู่ในระหว่างการรักษาพยาบาล และที่ถูกควบคุมตัวเป็นตัวประกันอยู่ที่ 18 ราย สำหรับนักศึกษาไทยในสถาบัน AICAT ที่เดินทางกลับประเทศนั้น ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิน 40 ราย และที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับมีจำนวน 75 ราย เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
"ข่าวลือเรื่องตัวประกันชาวไทยที่มีรายงานว่าถูกจับถึง 54 คนนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อกับทางการอิสราเอลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข่าวดังกล่าว ผลคือไม่ทราบแหล่งที่มา ตัวเลขที่ได้รับการยืนยันยังอยู่ที่ 18 รายเท่าเดิม จากนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเราจะเปิดเผยให้พี่น้องสื่อมวลชนได้รับทราบ”นางกาญจนากล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า สำหรับการอพยพคนไทยออกจากอิสราเอลนั้น ไทยเป็นชาติที่อพยพมากที่สุด มีเที่ยวบินทุกวัน เนื่องจากมีคนไทยอยู่ที่อิสราเอลเป็นจำนวนมาก ส่วนแรงงานไทยที่รอค่าแรง รัฐบาลพยายามส่งข้อความถึง โดยขอให้แน่ใจว่าปลอดภัย และขอให้กลับมาตั้งหลักที่ไทยก่อน เพราะการกลับไปทำงานทางการอิสราเอลยินดีตอบรับอยู่แล้ว
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในอิสราเอลว่า คนที่กลับมาในช่วงนี้ทางกรมการจัดหางานจะไม่ส่งกลับไปเด็ดขาดจนกว่าสงครามจะยุติ ขณะเดียวกันได้ประสานกับนายกฯ ว่าเป็นไปได้หรือไม่จะช่วยแรงงานใน 2 กรณี คือ คนที่กู้หนี้ยืมสินไปทำงานในอิสราเอลและยังทำงานไม่ครบ 5 ปี 3 เดือน ยังมีที่หนี้สินค้างอยู่ ทางกระทรวงจะขออนุมัติให้นายกฯ ช่วยให้ธนาคารของรัฐมาค้ำประกันต่อหรือปล่อยเงินกู้ให้แรงงาน และขอเพิ่มเงินเยียวยาที่ได้อยู่ 15,000 บาท ถ้านายกฯ อนุมัติ กระทรวงแรงงานจะทำเรื่องเสนอของบกลางให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัสเซีย ขัดขวางมติหยุดยิงของยูเอ็นในซูดาน
นายพลสองคนซึ่งเป็นคู่แข่งแย่งชิงอำนาจ ต่อสู้กันในซูดานมาเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งแล้ว ขณะนี้รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสห
ครม.ไร้วาระโต้ง ชื่อยังไม่ถึงคลัง ผวาขัดกฎหมาย
นายกฯ เมินเสียงวิจารณ์ "กิตติรัตน์" นั่ง ปธ.บอร์ด ธปท.
สันติผงาด‘น.1’ ‘ก.ตร.’ถกเดือด อาวุโสน้อยพรึ่บ
"นายกฯ อิ๊งค์" นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร. 20 พ.ย. แต่งตั้งรอง ผบ.ตร.-ผบช. กว่า 40 ตำแหน่ง จับตาถกเดือด!
‘อิ๊งค์’ตีปี๊บผลงาน100วัน
“นายกฯ อิ๊งค์” ต่อสายยินดี “ทรัมป์” พร้อมชวนมาเมืองไทย นายกฯ
สุริยะสั่งฟ้องเขากระโดง ‘ที่ดิน’ยันยึดคำพิพากษา
ปมเขากระโดงยังไม่จบ “สุริยะ” ย้ำที่ดินพิพาทเป็นของ รฟท.
60ปีเฮได้เงินหมื่น จ่ายไร่ละพันพักหนี้
“นายกฯ อิ๊งค์” ชี้ “ทักษิณ” จ้อการเมืองแค่สีสันสนุกสนาน ไม่ฉุดเศรษฐกิจดิ่ง