อิ๊งค์ตามพ่อตาดูดาวเท้าติดดิน

“เศรษฐา” ทำบุญทำเนียบฯ เงียบๆ บอกมาอยู่ 2 เดือนแล้ว ระบุเดือนนี้ยังไม่นอนทำเนียบฯ เพราะยังไม่พร้อม ตามสั่ง “อุ๊งอิ๊ง” นั่งหัวหน้าพรรคไร้คู่แข่ง พร้อม กก.บห.ชุดใหม่ เจ้าตัวประกาศดันเพื่อไทยเข้ามายืนหนึ่งในหัวใจคนไทย ย้ำยึดสโลแกนพ่อ “ตาดูดาว เท้ายังติดดิน” พร้อมวางการบ้าน 4 ข้อให้พรรคเร่งดำเนินการ

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นิมนต์พระสงฆ์ 10 รูปมาทำบุญ ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นการส่วนตัว

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวหลังร่วมพิธีทำบุญที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ว่า นายเศรษฐาระบุว่ามาอยู่ทำเนียบรัฐบาล 2 เดือนแล้วยัง ไม่ได้ทำบุญเป็นเรื่องราว จึงชวนบุคคลใกล้ชิดมาร่วมทำบุญเป็นสิริมงคล เป็นการทำบุญแบบส่วนตัว ไม่ได้เชิญใครมาก เพราะเกรงใจ อีกทั้งวันนี้จะมีประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย (พท.) จึงกะทันหัน

เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทางสงฆ์ นายเศรษฐาได้เดินลงมาส่งสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยได้สนทนาธรรมประมาณ 3 นาที ก่อนที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์ จะเดินทางกลับ ขณะที่ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย) ได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้กับนายกฯ ผู้ร่วมงาน และห้องทำงาน ห้องนอนที่นายกฯ จะใช้พักค้างคืนในตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ ได้สนทนาธรรมกับสมเด็จเจ้าคุณธงชัยอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนที่นายกฯ จะเดินออกมาส่งสมเด็จเจ้าคุณธงชัยเดินทางกลับ

นายเศรษฐากล่าวเรื่องนี้ว่า การทำบุญเป็นการทำบุญภายในเท่านั้นเอง เพราะเราเข้ามาเดือนกว่าแล้วยังไม่ได้มีการทำบุญกันเลย ห้องนอนก็ยังไม่เสร็จ ระบบน้ำร้อนยังไม่เรียบร้อย ยังมานอนไม่ได้ ต้องคอยประเดี๋ยว                เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าค้างคืนในทำเนียบฯ จะมีฤกษ์ดีอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่มีฤกษ์ ยังไม่ได้เช็ก แต่ภายในสิ้นเดือนนี้คงไม่ได้ เพราะอีก 2 วันก็สิ้นเดือนแล้ว

เมื่อถามว่า การพักค้างคืนในทำเนียบฯ จะมาค้างตลอดหรือค้างเฉพาะวันที่มีงานเยอะ นายเศรษฐากล่าวว่า มีงานเยอะก็ต้องค้าง หรือที่วันรุ่งขึ้นจะมีการประชุมทำเนียบฯ เช้าอะไรอย่างนี้มากกว่า หรือมีงานดึก จะได้สะดวกขึ้นเพื่อให้การเดินทางไม่เป็นภาระต่อฝ่ายรักษาความปลอดภัย

วันเดียวกันที่พรรค พท.จัดประชุมใหญ่วิสามัญ มีวาระสำคัญคือ การเลือกกรรมการบริหาร (กก.บห.) ชุดใหม่ ซึ่งบรรยากาศที่พรรคเป็นไปอย่างคึกคัก โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเดินทางมาถึงพรรคเวลา 09.09 น. โดยมีแฟนคลับพรรคคอยให้การต้อนรับ

และในเวลา 11.19 น. นายเศรษฐาได้เดินทางเข้ามาพรรค พท.เพื่อร่วมประชุม ซึ่งนายเศรษฐามีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายสื่อมวลชนที่มารอติดตามทำข่าว แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยเดินตรงขึ้นไปยังชั้น 7 ที่เป็นสถานที่ประชุมพรรคทันที

หลังการลงมติเลือก กก.บห.ชุดใหม่ก็เป็นไปตามคาด โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ได้รับคะแนน 289 จากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 290 คน ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 คน ส่วนรองหัวหน้าพรรค ได้แก่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อได้ 292 คะแนน, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงราย และ รมช.การคลัง ได้ 291 คะแนน, นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย สส.ชัยภูมิได้ 288 คะแนน, น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด ได้ 290 คะแนน, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ได้ 285 คะแนน, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.การคลัง ได้ 289 คะแนน

ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค จะให้นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ได้ 290 คะแนน และรองเลขาธิการพรรค ได้แก่ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ ได้ 290 คะแนน, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ ได้ 287 คะแนน, นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย ได้ 287 คะแนน,  นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค ได้ 287 คะแนน, นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นนายทะเบียนพรรค ได้ 287 คะแนน และนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นโฆษกพรรค ได้ 290 คะแนน

สำหรับ กก.บห.มี 9 คน ได้แก่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. ได้ 283 คะแนน, นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี ได้ 284 คะแนน, นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา ได้ 286 คะแนน, นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา ได้ 284 คะแนน, นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล ได้ 287 คะแนน, นายจเด็ศ จันทรา ได้ 285 คะแนน, นายพลนชชา จักรเพ็ชร ได้ 287 คะแนน, นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ 286 คะแนน และ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น ได้ 283 คะแนน

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้แสดงวิสัยทัศน์หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคว่า ต้องขอบคุณสมาชิกเพื่อไทยทุกท่านที่มอบความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าพรรค รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงการส่งต่อภารกิจ แต่เป็นการเชื่อมความเชื่อมั่นความศรัทธาของทุกคนเข้าด้วยกันอีกครั้ง เราผ่านอะไรมามาก เป็นพรรคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเป็นพรรคที่ถูกกระทำมากที่สุดเช่นกัน ตนเองเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ขอบคุณนายทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้ได้เห็นถึงความตั้งใจ และอุดมการณ์ของท่าน ได้เรียนรู้ใกล้ชิดและเป็นแรงบันดาลใจในการดำรงชีวิต

“ดิฉันรู้ดีว่าภารกิจนี้ยิ่งใหญ่และสำคัญ โดยเฉพาะบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทุกวันนี้ดิฉันมั่นใจเรามีบุคลากรที่มีความสามารถ มีประสบการณ์มาตั้งแต่ไทยรักไทยจนถึงปัจจุบัน เราจะพัฒนาพรรคอย่างไม่หยุดยั้ง จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราต้องเปลี่ยนวิธีคิด กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องถอดบทเรียนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาทำให้ดีขึ้นเพื่อนำพรรคเพื่อไทยกลับไปยืนในใจพี่น้องประชาชนในฐานะพรรคการเมืองอันดับ 1 อีกครั้งอย่างยั่งยืน” น.ส.แพทองธารกล่าว

น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า 2 เดือนที่ผ่านมาภายใต้การนำของนายเศรษฐา แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจตั้งรัฐบาลเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เพราะมีหลายอย่างเกิดขึ้น มีการสร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศอย่างมากมาย มั่นใจว่า 4 ปีหลังจากนี้ประเทศจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ที่เราทำต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 25 ปี ด้วยรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรงมาก พรรค พท.จะยังสานต่อภารกิจยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เรามีวันนี้ได้เพราะผู้ใหญ่ในพรรคที่ช่วยกันรดน้ำพรวนดินให้ต้นไม้ต้นนี้แข็งแรงและมีรากฐานที่มั่นคง ตนมองได้ชัดขึ้น ไกลขึ้น ก็เพราะผู้ใหญ่ร่วมกันสร้างไว้

น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า จากนี้อยากให้พรรค พท.เป็นมากกว่าพรรคที่ให้โอกาส แต่สามารถขจัดความเสี่ยงในชีวิตของประชาชน เพื่อให้ประชาชนปลดล็อกศักยภาพเพื่อพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งดีเอ็นเอ เราจะไม่ทิ้งนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงให้ได้ เราจะทำความฝันให้เป็นความจริง ที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคำสบประมาทด้วยผลงานที่ปฏิเสธไม่ได้ ดีเอ็นเอนี้จะอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไปและพัฒนาตามยุค มี 4 ข้อสำคัญที่ กก.บห.ชุดใหม่ต้องทำคือ 1.การเปลี่ยนผ่านข้อมูลทั้งหมดไปสู่ระบบดิจิทัลเพื่อให้พรรคมีฐานข้อมูลในการพัฒนา 2.สร้างองค์กรแนวราบ เพิ่มการมีส่วนร่วมของบุคลากร 3.เราจะทำให้องค์กรพรรคเพื่อไทยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ มีศูนย์ข้อมูลศูนย์วิจัย เพื่อพัฒนานโยบายได้ทันท่วงที ฝึกอบรมสมาชิกทุกระดับ ทั้งยุวสมาชิก และสมาชิกทั่วไปเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนในทุกมิติ และ 4.เป็นข้อที่สำคัญ เราต้องสร้างเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทยให้แข็งแรง ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อรับฟังเสียงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สุดท้ายนี้จะเป็นสิ่งที่ดิฉันอยากจะบอกกับตัวเองและทุกๆ คนว่า เราตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็งมั่นคง เพราะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน” น.ส.แพทองธารกล่าว

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้ถ่ายรูปร่วมกับนายเศรษฐา กก.บห.ชุดใหม่ทั้ง 23 คน และสมาชิกพรรคกลุ่มต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังมี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว น.ส.แพทองธาร อยู่ร่วมให้กำลังใจ น.ส.แพทองธารด้วย

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการแสดงความยินดีหรืออวยพรอะไรให้ น.ส.แพทองธารว่า อวยพรไปแล้ว สู้อยู่แล้ว และทุกคนก็สู้หมด ทุกคนช่วยกันหมด และเป็นกำลังใจให้ หากอยากให้ช่วยอะไรก็บอก และยินดี แต่เห็นว่า น.ส.แพทองธารเก่งอยู่แล้วและมีทีมงานเป็นคนรุ่นใหม่ มีแรงและพลังสูงทุกคน ทุกคนมั่นใจครับ

นายเศรษฐายังหันกลับมาพร้อมกล่าวขยายความคำว่ามั่นใจว่า “เป็นนายกฯ ต่อได้สบายๆ ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้กระเซ้ากลับไปว่าเปิดประเด็นเองอีกแล้ว ซึ่งนายเศรษฐาไม่ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแค่หันมายิ้ม พร้อมทำหน้ามีเลศนัย

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบางพรรคการเมืองยังพูดพาดพิงไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศวางมือทางการเมืองและลาออกจากการเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติไปนานแล้ว ขอทุกคนทุกฝ่ายอย่าพูดพาดพิง ด้อยค่า หรือดึงท่านเข้ามาเกี่ยวโยงการเมือง

“ผมไม่เข้าใจจริงๆ คนประเภทไหนกันที่เห็นคนดีมีความสุขแล้วเป็นทุกข์ หรืออาจจะเป็นคนบกพร่องทางสติปัญญา ป่วยทางจิตหรือไม่” นายธนกรกล่าวย้ำ.