ชู‘บิ๊กป้อม’หน.พรรคตลอดไป ‘นช.ทักษิณ’นอนห้องVIPต่อ!

ภูเก็ต ๐ "บิ๊กป้อม" เดี้ยง! ส่ง "บิ๊กป๊อด"   เปิดสัมมนา สส.พลังประชารัฐแทน ย้ำพรรคมีจุดประสงค์ในเรื่องความสามัคคีปรองดอง ให้มีประชาธิปไตยที่มีเสรีภาพ    "สันติ" ลั่น "ประวิตร" เป็นหัวหน้าพรรคตลอดไป "อนุสรณ์" เชื่อกระแสตอบรับ "อุ๊งอิ๊ง" พุ่งทะยาน หลังตอบรับพร้อมนั่งหัวหน้าพรรค ถือธงนำเพื่อไทยเต็มตัว ส่วน "ทักษิณ" นอนห้องวีไอพีชั้น 14 รพ.ตำรวจต่อไม่มีกำหนด

     เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล จ.ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาพรรค “รวมพลัง สามัคคี” มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เป็นประธานเปิดงานสัมมนา มีแกนนำและกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค

     รวมถึงประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค 7 ด้าน ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน ประธานกรรมการด้านนโยบายและการปฏิรูปเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ประธานกรรมการด้านความสัมพันธ์องค์กรและการต่างประเทศ, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ประธานกรรมการด้านกิจกรรมสัมภาษณ์, พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ประธานกรรมการด้านประสานงานและอำนวยการ, นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค ที่นำเสนอยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนพรรค เพื่อความเป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยมี สส.เขาร่วมพร้อมเพรียง เพื่อรับฟังและระดมความคิดเห็นเพื่อเสนอแนะในการพัฒนาพรรคให้เข้มแข็ง

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสัมมนาครั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาทได้ปรากฏตัวร่วมพบปะพูดคุยกับ สส.พรรคเป็นครั้งแรก ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยแจ้งว่ามีอาการขาแพลง   ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ติดภารกิจในการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดพังงาตลอดทั้งวัน

     พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ในฐานะตัวแทนของ พล.อ.ประวิตร ยินดีที่ได้มาเจอกับสมาชิกพรรคที่มีการสัมมนาเป็นครั้งแรก โดยจุดประสงค์ของการสัมมนาเพื่อให้ทุกคนสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกัน รวมหัวใจพลังประชารัฐให้เป็นหนึ่งเดียวในการผลักดันยุทธศาสตร์ ผลงาน และนโยบายของพรรค ที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นในโอกาสต่อไป พรรค พปชร.มีจุดประสงค์ในเรื่องความสามัคคีปรองดอง ให้มีประชาธิปไตยที่มีเสรีภาพ มุ่งเน้นให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ในช่วงที่เป็นแกนนำรัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นรูปธรรม เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การบริหารจัดการน้ำ การแก้ปัญหาน้ำมันปาล์ม และการค้ามนุษย์ฯ และริเริ่มนโยบายใหม่ จึงอยากให้บุคลากรของพรรค รวมพลังร่วมมือร่วมใจ เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนไปด้วยกัน

     ส่วนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ในฐานะประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ   กล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนา สส.พรรคว่า   ภารกิจของเราคือการทำงานร่วมกัน โดยความสำเร็จของการเลือกตั้งคือเป้าหมายของเรา ความนิยมของพรรคเป็นไปตามกระแสการเมือง ซึ่งมีความสำคัญและมีผลต่อการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ และตนหวังว่าในครั้งหน้า สส.ทั้ง 39 บวก 1 คนจะได้กลับมาอีก วันนี้เราต้องปรับภาพลักษณ์ของพรรค ซึ่งไม่ใช่ว่ามีปัญหา แต่เมื่อบริบทการเมืองเปลี่ยนแปลง ซึ่งเราต้องปรับภาพลักษณ์ของพรรคให้สอดคล้องกับบริบทการเมือง สอดรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะต้องช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ของพรรคให้เป็นที่นิยม

     “จาก 3-4 เดือนที่มีการประเมินในหลายพื้นที่ ภาพลักษณ์ของพรรคเรากำลังพลิกกลับมา เนื่องจากการเมืองภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองจะพลิกกันไปพลิกกันมา พรรคนี้อาจจะมาแล้ว แต่อาจจะแผ่ว บางพรรคอาจไปสะดุดขาตัวเองบางเรื่อง อีกสิ่งหนึ่งคือเราต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าใครคือโหวตเตอร์ที่สนับสนุนพรรค ทุกท่านที่ผ่านการเลือกตั้งเรารู้อยู่แล้วว่าเสียงของเราอยู่ที่ไหน ดังนั้นเราจะต้องปรับตัวเองให้สอดรับกับฐานเสียงของพรรค และตรงไหนที่ฐานเสียงเรายังไปไม่ถึงเราจะปรับตัวอย่างไร”

     นายสนธิรัตน์กล่าวว่า เป้าหมายของพรรคต้องยืนหยัดเป็นสถาบันทางการเมือง พรรคจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ   และจะต้องเป็นพรรคที่จะเข้าไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างสง่าภาคภูมิ และเป้าหมายคือทุกท่านต้องกลับมา และการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะต้องได้ สส.มากกว่าเดิม แต่วันนี้เร็วเกินไปที่จะบอกว่าได้ สส.เท่าไหร่ ซึ่งทุกคนจะต้องช่วยกัน ในจังหวัดของท่านจะต้องขยายเขตเลือกตั้ง และเตรียมสรรหาผู้สมัครที่มีความแข็งแกร่งรองรับเอาไว้ สส.แต่ละจังหวัดนอกจากจะมีหน้าที่รักษาพื้นที่แล้ว ยังจะต้องมองพื้นที่ที่มีโอกาสที่เรามีบุคลากร มีผู้สมัครในอนาคตมาทำงานร่วมกัน เพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไป

     ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ พล.ต.อ.พัชรวาทมาเป็นประธานเปิดการสัมมนา สส.แทน พล.อ.ประวิตรว่า เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร  ระหว่างทำงานอยู่ที่สำนักงาน บังเอิญเดินสะดุดจนข้อเท้าพลิก มีอาการบาดเจ็บ ก็คงอักเสบนิดหน่อย เลยไม่สะดวกเดินทางมา จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.พัชรวาทรับหน้าที่แทน ซึ่งคาดว่าอีก 3-4 วัน พล.อ. ประวิตรคงจะหายจากอาการบาดเจ็บ

     เมื่อถามว่า พล.ต.อ.พัชรวาทจะเข้ามามีบทบาทในพรรคเต็มตัวหรือไม่ นายสันติ  ตอบว่า พล.อ.ประวิตรพูดกับพวกเราเป็นประจำว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นหัวหน้าพรรคของพวกเราตลอดไป พวกเราทุกคนจะทำงานสนับสนุนไปตลอด เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็พูดกับตนเป็นประจำว่า เราทุกคนมีหน้าที่สนับสนุนพรรค ไม่ต้องเป็นห่วง พล.อ.ประวิตรท่านเป็นหัวหน้าพรรคของเราตลอดไป

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้าในการประชุมพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 17 ต.ค. พล.อ.ประวิตรยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าจะมาร่วมสัมมมาที่ จ.ภูเก็ตอย่างแน่นอน แต่เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดให้ ป.ป.ช.เปิดเผยรายงานการไต่สวน พล.อ.ประวิตรในกรณี “แหวนแม่  นาฬิกายืมเพื่อน” จนอาจเป็นเหตุผลหนึ่งหรือไม่ที่ พล.อ.ประวิตรไม่อยากตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน

     วันเดียวกันนี้ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุพร้อมรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า จะมีการประชุมวิสามัญพรรค พท.ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พท.ชุดใหม่ ถือเป็นข่าวดีและเป็นสัญญาณบวก ที่ น.ส.แพทองธาร ตอบรับชัดเจนว่าพร้อมแล้วที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค พท.คนใหม่ เชื่อมั่นว่าจากนี้ไปกระแสตอบรับ น.ส.แพทองธารจะพุ่งทะยานขึ้นไปอีก ซึ่งจะส่งผลถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า น.ส.แพทองธารเป็นศูนย์กลางของคนในพรรค เป็นการเข้ามาที่ถูกที่ ถูกเวลา ถูกจังหวะ และถูกคน

     เขากล่าวว่า น.ส.แพทองธารเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจการเมือง ทันยุคทันสมัย  สามารถกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางเพื่อนำพาพรรค พท.ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชนได้ การเมืองวันนี้เป็นยุคของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาสร้างความหวัง สร้างโอกาสเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ขับเคลื่อนอนาคตประเทศไปสู่ความมั่นคงยั่งยืน พาเศรษฐกิจไทยก้าวไกลสู่สากล

     “คุณแพทองธารผ่านการเพาะบ่ม สั่งสมประสบการณ์ทางการเมืองมาครบถ้วนทุกบริบท มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่จะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นำพาและขับเคลื่อนประเทศด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พาประเทศไทยพุ่งทะยานไปข้างหน้าทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา ให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ”  นายอนุสรณ์กล่าว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ชี้แจงเรื่องที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษที่อยู่ในการควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่รับตัวเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 แต่มีอาการป่วยฉุกเฉินในคืนแรกที่เข้าเรือนจำ และถูกย้ายตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ นับรวมจะครบ 60 วันในวันที่ 22 ต.ค.นั้น

     ล่าสุดมีรายงานว่า ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ลงนามให้นายทักษิณอยู่รักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ ตามความเห็นแพทย์ และนำเสนอปลัดกระทรวงยุติธรรมทราบตามขั้นตอน ส่วนต้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ.อีกนานเพียงใด ขึ้นกับความเห็นของคณะแพทย์ผู้รักษา ซึ่งต้องมีการพิจารณาต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ช่วยนักโทษติดคุกหมด เสรีพิศุทธ์ถอนตัวงัดหลักฐานมัดแก๊งชั้น14/ปชป.มีมติร่วมรบ.

"นายกฯ อิ๊งค์" อารมณ์ดีนัดสื่อให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง 30 ส.ค. "ภูมิธรรม" มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล หลังดึง

30วันเลือกนายกปทุม

"พิเชษฐ์" แจ้งสภา 143 สส.สังกัดพรรคประชาชนแล้ว ด้าน "ณัฐวุฒิ" เผยใช้อักษรย่อ "ปชน."