โชว์ปึ้กไทย-จีน ทุนใหญ่ไหลเข้า ปีหน้า‘จีดีพี’พุ่ง

"นายกฯ-ปธน.สี จิ้นผิง" ย้ำสัมพันธ์แนบแน่น “จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ประกาศเดินเคียงคู่กับพี่ใหญ่  กล่อมลงทุน "แลนด์บริดจ์" เมกะโปรเจกต์โลก มั่นใจปีหน้าจีดีพีประเทศพุ่งสูงขึ้น ให้คำมั่นดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว พร้อมแสดงความเสียใจเหตุกราดยิงพารากอน ยันเยียวยาเต็มที่  ปลื้มสักขีพยานลงนาม 8 พันธมิตรชั้นนำจีน โชว์ปึ้กนายกฯ จีน ให้เบอร์โทรสายตรง แย้มรับปากสางปมเครื่องยนต์เรือดำน้ำ

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ซึ่งเป็นวันที่ 3 ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ โดยเวลา 09.00 น. ที่โรงแรม Kerry กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างร่วมงาน  Thailand-China Investment Forum ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ว่า ขอขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทยและจีนมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยปี 2023 ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะครบรอบ 48 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต   

โดยการเยือนประเทศจีนครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ครั้งที่ 3 ซึ่งข้อริเริ่ม Belt and Road Initiative (BRI) เป็นนโยบายที่ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในหลากหลายมิติ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว  และด้านวัฒนธรรม รวมถึงยังมีส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในกลุ่มอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ และอำนวยประโยชน์ระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ตามแนวยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 60 ประเทศ มีประชากรอยู่ในเส้นทางเชื่อมโยงประมาณ 4,400 ล้านคน

 “สำหรับภาพรวมด้านเศรษฐกิจของไทย ในปี 2022 ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยเติบโตร้อยละ 3.4 ส่วนในปี 2023 แม้จะมีปัจจัยท้าทายจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ด้วยความพยายามของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว และการผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว เช่น การชักจูงการลงทุนจากบริษัทชั้นนำระดับโลก คาดว่าจะทำให้จีดีพีของไทยในปี 2024 ขยายตัวได้สูงกว่าปีที่ผ่านๆ มา” นายกฯ ระบุ

นายเศรษฐากล่าวว่า ในด้านการค้า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทย ตัวเลขการค้าระหว่างไทย-จีนในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2023 มีมูลค่าประมาณ 5 แสนล้านหยวน ในด้านการลงทุนจากต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2018-เดือน ก.ย.2023 ประเทศจีนเป็นผู้ลงทุนอันดับหนึ่งของไทย มูลค่าการลงทุนรวมมากกว่า 1 แสนล้านหยวน ขณะที่นักท่องเที่ยวจีน เป็นนักท่องเที่ยวอันดับต้นของประเทศไทย ช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค.2023 มีนักท่องเที่ยวจีนเยือนไทยแล้วประมาณ 2.2 ล้านคน ซึ่งไทยมีมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวจีนเป็นพิเศษตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางไปไทยมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้จนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนในต้นปีหน้า พร้อมเชิญชวนท่องเที่ยวเมืองรอง นอกเหนือจากท่องเที่ยวในสถานที่โด่งดังของไทย เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ยืนยันประเทศไทยมีความปลอดภัยและยินดีต้อนรับทุกคน

นายกฯ กล่าวว่า ขอประกาศว่าประเทศไทยเปิดแล้ว เราพร้อมที่จะให้นักลงทุนจีนเข้ามาร่วมพัฒนาประเทศ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการอนุมัติให้ศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมต่อระหว่างอันดามันกับอ่าวไทย ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร โดยจะเชื่อมต่อโดยรถไฟ การลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นเมกะโปรเจกต์ระดับโลก จะทำให้นักลงทุนจากทั่วโลกมีความมั่นใจที่จะเข้ามาสร้างฐานการผลิตที่เมืองไทย

"วันนี้ผมขอเชื้อเชิญนักลงทุนจากประเทศจีน ซึ่งถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด เข้ามาดูโปรเจกต์นี้ มาร่วมกันพัฒนาและพูดคุยเพื่อที่จะทำให้โครงการนี้สำเร็จสัมฤทธิผลโดยเร็วที่สุด ผมเชื่อมั่นว่าหลายท่านที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้มีเชื้อสายจีน รวมถึงตัวผมเองกว่าครึ่งหนึ่ง เราเป็นพี่น้องกัน เรามาทำค้าขายกัน ประเทศไทยแม้เป็นประเทศที่เล็ก แต่มีศักยภาพสูง เราเป็นน้องคนหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งจะช่วยกันเดินไปข้างหน้าควบคู่ไปกับพี่ใหญ่ บนเส้นทางที่ท้าทาย และทำให้โลกของเราเจริญรุ่งเรืองต่อไป" นายเศรษฐาระบุ

ต่อมาเวลา 09.55 น. นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ 8 พันธมิตรชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน

ประกอบด้วย หัวเว่ย ซีทริป เหม่ยถวน อาลีเพย์ สปริงแอร์ไลน์ สำนักงานข่าวซินหัว อ้ายฉีอี้ และเจโก้ทริป

จากนั้น นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้มีการลงรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง เรื่องการขนถ่ายสินค้าจากไทยไปจีนผ่านลาวที่พบว่ายังมีอุปสรรค คือ สะพานข้ามแม่น้ำโขงจากหนองคายไปลาว ซึ่งได้บอกนายกฯ จีนว่าควรจะมีการผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อให้การขนถ่ายสินค้าเป็นไปด้วยดี ซึ่งหากมีการสร้างสะพานดังกล่าวในช่วงจังหวัดหนองคาย จะมีการสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าด้วย รวมทั้งยังมีการลงทุนด้านรถไฟฟ้าอีวี ซึ่งขณะนี้มีเข้ามาแล้ว 4 บริษัท และจะได้เจรจาอีก 2 บริษัท สร้างเม็ดเงินกว่าล้านล้านบาท ทั้งนี้ รู้สึกว่ามีความผูกพันที่ดีมากๆ กับนายกฯ จีน ซึ่งได้ให้เบอร์มือถือไว้ หากมีอะไรสามารถโทร.พูดคุยได้

นอกจากนี้ยังได้หารือเรื่องวีซ่าฟรี ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติให้คนจีนเข้าไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ถึง 29 ก.พ.67 แต่รัฐบาลมีความประสงค์จะขยายให้เป็นแบบระยะยาว ซึ่งทางจีนรับไปพิจารณา ส่วนกรณีการแก้ปัญหาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่ยังติดปัญหาเรื่องเครื่องยนต์นั้น นายกฯ จีนรับปากว่าจะไปช่วยดูให้ ขณะที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้พูดคุยกับกองทัพจีนด้วย โดยช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ได้พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะได้มีการพูดคุยต่อเนื่อง

ต่อเวลา 11.00 น. Mr. Liu Jincheng, Chairman Founder, EVE Energy เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ โดย EVE Energy เป็นบริษัทผู้พัฒนา ผลิต และจำหน่ายแบตเตอรี่ ลำดับที่ 3 ของจีน และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาขยายการลงทุน โดยสนใจใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสำหรับตลาดอาเซียนและโอเชียเนีย ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า คาดว่าโครงการผลิตแบตเตอรี่จะยื่นการลงทุนภายในสิ้นปีนี้

จากนั้น เวลา 11.25 น. Mr. Liang Hua, Chairman, Huawei เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา โดย ​Huawei เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร ยินดีที่ทำงานร่วมกับไทย โดยยินดีสนับสนุนให้ไทยเป็นฮับด้านเอไอ

ต่อมาเวลา 17.15 น. ณ East Hall มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง นายกฯ หารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายชัย วัชรงค์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ และประธานาธิบดีจีนยืนยันสานต่อความสัมพันธ์ไทย-จีนที่มีมายาวนาน ตามประโยคที่ว่า “จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” พร้อมเน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านไทย-จีนที่ใกล้ชิด การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และมุ่งสู่วาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2568 โดยนายกฯ ได้เชิญประธานาธิบดีจีนเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่สะดวก

โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวแสดงความเสียใจที่มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้า ยืนยันว่ารัฐบาลได้ดำเนินการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเต็มที่ และการดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิด และให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาการตกลงเรื่องการยกเว้นตรวจลงตราระหว่างกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอมิ้ง' แจงยังไม่นำรายชื่อ 'ครม.อิ๊งค์ 1' ขึ้นทูลเกล้าฯ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติ คุณสมบัติ ในลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

สุดสับสน! ปรากฏการณ์การเมืองไทย ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะกลุ่ม สส. แต่หัวหน้าพรรคกลับถูกไล่ออกไม่ให้ร่วมด้วย

'เรืองไกร' ท้า 'นายกฯอิ๊งค์' โชว์ใบลาออก พ้นกรรมการ 20 บริษัท

ายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท

'นายกฯอิ๊งค์' อยู่ได้เกิน 6 เดือนไหม! ขึ้นอยู่กับ 2 ทางรอด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊งจะอยู่เกิน 6 เดือนไหม