นายกฯโชว์แลนด์บริดจ์เวทีโลก

"เศรษฐา"   ปลื้ม "ปูติน" กล่าวขอบคุณเป็นภาษาไทย ย้ำสัมพันธ์ 125 ปี เชิญเยือนไทยปีหน้า คุยนายกฯ จีน ฟรีวีซ่า ชวนมาลงทุน landbridge ท่าเรือ รถไฟความเร็วสูง จับตาหารือเรือดำน้ำด้วย ขณะที่ภาคเอกชนให้คะแนน "เซลส์แมนเศรษฐา" เกินร้อย ยันนโยบายรัฐบาลได้ประโยชน์

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 18 ตุลาคม    2566 ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการพบปะกับผู้นำระดับโลกในช่วงบ่ายวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ได้มีโอกาสได้พบกับนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการพูดคุยกันด้วยดีและแสดงเจตจำนงที่จะให้สมาชิกรัฐสภารุ่นใหม่มาพบปะพูดคุยกันมากขึ้น กระชับความสัมพันธ์กันระหว่าง 2 รัฐสภา และได้มีการชื่นชมกันถึงเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนเป็นการพบปะกันด้วยดี

จากนั้นได้พบกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่โรงแรมที่พักของท่าน มีการโอภาปราศรัยที่ดี ซึ่งประธานาธิบดีรัสเซียได้บอกว่าไทยและรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมา 125 ปี และมีการแลกเปลี่ยนทางด้านการค้า วัฒนธรรม และหลายๆ เรื่อง อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยที่ผ่านมากว่า 1,000,000คนแล้ว และดีใจที่ไทยได้เพิ่มจำนวนวันพำนักให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย จาก 30 วันเป็น 90 วัน ซึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้

"ประธานาธิบดีรัสเซียเองก็ชอบภูเก็ต  เข้าใจว่าเดินทางมาเป็นประจำ ซึ่งผมได้เชื้อเชิญท่านว่าในปีหน้าขอให้มาเยี่ยมเยียนประเทศไทย ท่านก็พยักหน้าพร้อมกล่าวคำว่าขอบคุณครับ ซึ่งเมื่อท่านพูดภาษาไทยได้ ก็แสดงว่ามีความคุ้นเคยที่ดีทั้งกับอดีตผู้นำด้วยและหลายๆ อย่าง  ซึ่งมีการพูดจากันด้วยดีอย่างมาก"  นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า และในช่วงค่ำได้ร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ที่ทางนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงรับรองกับผู้นำทั้งกว่า 20 ประเทศ ซึ่งระหว่างรอได้พบปะพูดคุยกับผู้นำจากลาว เวียดนาม และกัมพูชา โดยเป็นการพูดคุยกันที่ดี ซึ่งตนจะเดินทางไปเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการด้วย เพราะเป็นประเทศในอาเซียนที่ยังไม่ได้ไปเยือน และทางลาวทราบดีว่าระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคมนี้ ตนจะเดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งท่านยินดีและพร้อมที่จะเจอกับเราอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม มีโอกาสได้พบกับนายสีจิ้น ผิง ในเวลาสั้นๆ ได้ถ่ายรูปและทักทายกันกับท่านและภรรยา และนั่งร่วมโต๊ะกับรองประธานาธิบดีที่เป็นเบอร์ 2 ได้มีการพูดคุยกันเรื่องเศรษฐกิจและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างสองประเทศ รวมทั้งเรื่องที่จะมีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการในวันเดียวกันนี้ ทั้งเรื่องวีซ่าที่หวังว่าจะมีการทำให้เป็นระยะยาวไปเลยทั้งสองประเทศ คือต้องฟรีวีซ่าทั้งสองประเทศ เป็นการพูดคุยกันที่ดี นอกจากนี้ยังได้พบกับเลขาธิการสหประชาชาติด้วย ได้มีการพูดคุยกันถึงสถานการณ์ในอิสราเอล

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า สำหรับภารกิจในวันที่ 18 ตุลาคม เป็นการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation - BRF) ครั้งที่ 3 และช่วงบ่ายจะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ อีกทั้งวันเดียวกันนี้จะได้พบกับบริษัทจีนเพิ่มมากขึ้น โดยจะเจอกับทางจีลี่ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกบริษัทหนึ่ง เป็นการต่อเนื่องจากที่ได้ไปเจรจามาจากมาเลเซีย ซึ่งเขากับโปรตอนน่าจะสนใจที่จะเข้ามาตั้งโรงงาน ซึ่งกำลังการผลิตปีละประมาณ 100,000 คัน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี และมีความคืบหน้าในการเจรจา เป็นการสานต่อจากรัฐบาลที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เราได้เปิดประเทศแล้ว มีนักธุรกิจจากหลายประเทศให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเราก็พร้อมต้อนรับอย่างเต็มที่

"เมื่อเราได้ประกาศว่าเราเปิดประเทศแล้ว ก็มีนักธุรกิจหลายคน  เพราะแต่ละคนก็มีพรรคพวกเพื่อนฝูง ก็ได้มาขอเจรจาพูดคุย รวมทั้งมีการเสนอแนะ ซึ่งไทยพร้อมเสมอ วันนี้เราไม่ต้องการให้บริษัทต่างๆ เข้ามาแค่การผลิตรถยนต์ ไม่เช่นนั้นประเทศเราก็จะได้แต่ค่าแรงเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามีหลายบริษัทสนใจเข้ามา ทั้งการผลิตอุปกรณ์ ความต้องการต่างๆ ก็จะมีเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นเรื่องดี วันนี้ก็จะมีการสานต่อเพื่อการพัฒนาและร่วมงานกันที่ดีต่อไป ทั้งนี้เมื่อเราบอกว่าเปิดประเทศแล้ว ก็มีหลายธุรกิจที่สนใจจะเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย" นายกรัฐมนตรีกล่าว 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า สำหรับการเดินทางเข้าร่วมประชุมและเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ มีภาคธุรกิจของไทยเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจะได้พบและหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าอยากให้รัฐบาลมีส่วนช่วยเหลือผลักดันอย่างไร และในช่วงเย็นวันเดียวกัน จะได้หารือทวิภาคีกับนายหลี เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งประเด็นที่จะมีการหารือกัน จะมีเรื่องวีซ่า เรือดำน้ำ การค้า การลงทุน รถไฟความเร็วสูง

เวลา 13.10 น. ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ห้อง Function Room 3B โรงแรม China world นายหวัง ถงโจว ประธานบริษัท CHEC เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา โดย CHEC เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างในโครงสร้างสาธารณูปโภคใหญ่ที่สุดของจีน โดยดำเนินกิจการในประเทศไทยมายาวนาน ภายใต้ชื่อจดทะเบียนบริษัท ซีเอชอีซี (ไทย) จำกัด ตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งประกอบธุรกิจก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการขนส่ง และการให้บริการคำปรึกษาด้านวิศวกรรม

นายกฯ ยินดีหากบริษัทฯ จะเข้ามามีส่วนร่วมใน landbridge ซึ่งมีโครงการสร้างและขยายสนามบินด้วย จึงขอให้บริษัทฯ ได้ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานของไทย อาทิ กระทรวงคมนาคม และสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ ของไทย landbridge ท่าเรือ โครงการรถไฟขอให้คุยกับ BOI ในการเข้ามาลงทุน เพื่อขอรับสิทธิพิเศษการลงทุนตามนโยบาย โดยในโอกาสนี้ นายกฯ  ชักชวนบริษัทฯ ให้เปิด regional office ในไทยเพื่อประโยชน์ยิ่งขึ้น

เวลา 13.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ห้อง Function Room 3B โรงแรม China World นายแดเนียล ลี CEO บริษัท Geely เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา โดยนายกฯ กล่าวว่า เห็นว่าเป็นโอกาสดีสำหรับ Geely และรัฐบาลไทยที่จะได้หารือเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและกิจการต่อเนื่องในประเทศไทย และขอบคุณบริษัทที่เห็นศักยภาพและพิจารณาลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งทราบว่าบริษัทมีแผนจะนำรถ EV Pickup ไปจำหน่ายในไทยในเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเห็นว่ายังไม่มีผู้นำตลาดรถกระบะไฟฟ้าภายในประเทศจึงเป็นโอกาสดีของบริษัทที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยในฐานะผู้นำตลาดรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทย

เวลา 16.17 น. ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ศูนย์การประชุม China National Convention Center (CNCC) กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายเศรษฐากล่าวถ้อยแถลงในการประชุม High-Level Forum ภายใต้หัวข้อ “Green Silk Road for Harmony with Nature” ว่าเพิ่งให้คณะรัฐมนตรีวางแนวทางการศึกษาและแผนการดำเนินงานโครงการ Land Bridge เชื่อมโยงทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดียเข้ากับอ่าวไทยและมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงปรับปรุงการเชื่อมต่อในพื้นที่อันดามันทางตอนใต้ ลดระยะเวลาในการเดินทางผ่านช่องแคบมะละกา  ภายใต้แนวคิด “One Port, Two Sides” ในระยะทางบก 90 กิโลเมตร ทางภาคใต้ของไทย โดยหวังว่าโครงการนี้จะทำงานร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานของ BRI และมีส่วนช่วยสนับสนุนการเชื่อมโยงในระดับโลก

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการร่วมหารือกับภาคธุรกิจจีนว่า  รัฐบาลไทยมีความกระตือรือร้นทำงานในเชิงรุก โดยเฉพาะการเชิญชวนดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน และการที่มาประชุมที่จีนในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ยังได้ตอกย้ำว่าประเทศไทยมีความยินดีที่จะต้อนรับชาวจีนเข้าไปลงทุนและไปท่องเที่ยว รวมทั้งทำการค้ากับประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะมีการเซ็นเอ็มโอยูของภาครัฐแล้ว ก็ยังจะมีการเซ็นเอ็มโอยูระหว่างภาคเอกชน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (CCPIT) ทำเอ็มโอยูร่วมกัน เพื่อที่จะสร้างเทรดแพลตฟอร์มซึ่งเป็นทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ถือเป็นสิ่งที่ดี และยังจะมีการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างสองประเทศ โดยวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ทางจีนจะมีการจัดงานเอ็กซ์โป ซึ่งตรงกับทางภาคอุตสาหกรรมและเป้าหมายของเรา ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าจะให้คะแนนและความเชื่อมั่นกับเซลส์แมนที่ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลังอย่างไรบ้าง นายสนั่นกล่าวว่า "ถ้าพูดถึงเซลส์แมนที่ชื่อนายเศรษฐา  ผมว่าให้เกินร้อยในเรื่องของความตั้งใจ"

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่นายกฯ พามาในครั้งนี้ พวกเราในฐานะเอกชนยินดีที่จะทำตามนโยบายภาครัฐ เราสามารถใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ไม่ใช่เฉพาะแค่ฐานการผลิต แต่เพื่อส่งออกไปในภูมิภาคนี้และทั่วโลก วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ มีการย้ายฐานการผลิตต่างๆ ซึ่งผมคิดว่าประเทศมีเสน่ห์หลายๆ อย่าง ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอมิ้ง' แจงยังไม่นำรายชื่อ 'ครม.อิ๊งค์ 1' ขึ้นทูลเกล้าฯ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติ คุณสมบัติ ในลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

สุดสับสน! ปรากฏการณ์การเมืองไทย ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะกลุ่ม สส. แต่หัวหน้าพรรคกลับถูกไล่ออกไม่ให้ร่วมด้วย

'เรืองไกร' ท้า 'นายกฯอิ๊งค์' โชว์ใบลาออก พ้นกรรมการ 20 บริษัท

ายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท

'นายกฯอิ๊งค์' อยู่ได้เกิน 6 เดือนไหม! ขึ้นอยู่กับ 2 ทางรอด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊งจะอยู่เกิน 6 เดือนไหม