นายกฯ ถกเอกชนจีนเชิญ CITIC ลงทุนด้านพลังงานสะอาด รถยนต์ EV ในไทย ชวนบริษัท CRRC ลงทุนคมนาคมขนส่ง ด้านผู้บริหารฯ เปรียบนายกฯ เป็นหัวจักรขับเคลื่อนให้สำเร็จ คุยผู้บริหาร Alibaba ขยายลงทุนอุตสาหกรรมดิจิทัล โลจิสติกส์ "เสี่ยนิด" ฟุ้งหารือภาคเอกชนยักษ์ใหญ่ 5 บริษัท ประสบความสำเร็จ มั่นใจมาขยายลงทุนเพิ่มในไทย หารือทวิภาคี "ปูติน" กระชับสัมพันธ์รัสเซีย
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ในการเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Coperration - BRF) ครั้งที่ 3 และการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม ตามคำเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน
เมื่อเวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.) Mr.Zhu Hexin, Chairman CITIC Group Corporation เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี โดย CITIC เป็นบริษัทใหญ่ของจีนที่ดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนของการบริการทางการเงินแบบครบวงจร และใช้เทคโนโลยีระดับสูง
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอเชิญชวนให้ CITIC มาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ 5 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมกลุ่ม BCG หรือ Bio-Circular-Green Economy โดยเฉพาะเกษตรอาหาร การแพทย์ และพลังงานสะอาด, อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่
ขณะที่ฝ่ายบริษัทฯ ระบุว่า มีความประสงค์ขยายความร่วมมือกับไทยในอีกหลายด้าน บริษัทมีธุรกิจครอบคลุมและมีบริษัทในเครือจำนวนมาก และมีศักยภาพการแข่งขันระดับโลก รวมทั้งด้านพลังงานสะอาดที่ไทยสนใจ ทั้งนี้ไทยและ CITIC จะร่วมมือกันเพื่อต่อยอดและให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาล บริษัทต้องการขยายความร่วมมือและการลงทุนในไทย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอชวนมาขยายธุรกิจด้านการเงินในไทย ซึ่ง CITIC มีธุรกิจเกี่ยวข้องการเงินอยู่ด้วยแล้ว เช่น บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มีใบอนุญาตทางการเงินการธนาคารครบถ้วนและอยู่ในอันดับต้นๆ ในจีน จึงมีศักยภาพที่จะลงทุนในไทยได้ จะได้หารือในขั้นตอนต่อไป โดยไทยส่งเสริมการผลิตรถยนต์ EV
เวลา 10.00 น. Mr.Yongcai Sun, Chairman and Executive Director, CRRC Group เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา โดย CRRC Group เป็นรัฐวิสาหกิจจีนที่ผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสายการผลิตและบริการแบบครบวงจรครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา ออกแบบ การซ่อมแซม และให้บริการทางเทคนิค
ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนว่า มีโอกาสอย่างมากในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงในสาขาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้แก่ BCG Economy พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัท เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ไทยให้ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากต่างประเทศด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครันและสิทธิพิเศษการลงทุน จึงอยากเชิญชวนมาตั้งโรงงานในไทย ควบคู่กับการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ไทย อาจพิจารณาตั้งเป็น 2nd Hub ในไทย สำหรับโครงการ landbridge เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค เพื่อการขนส่งด้านพลังงาน และสินค้า เพื่อย่นระยะเวลาและประสิทธิภาพการขนส่ง สามารถขนส่งไปที่ต่างๆ ของโลกได้ง่ายขึ้นมาก
นายกฯ เป็นหัวจักรสำคัญ
ทางบริษัทฯ ยังกล่าวว่า เปรียบนายกฯ เป็นหัวจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนทั้งการพัฒนาระบบการขนส่งและการพัฒนาที่จะสำเร็จด้วยดี จึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งต่อศักยภาพของไทยที่จะเป็น hub การขนส่งระบบราง และต้องการเชิญนายกฯ ไปทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงด้วยตนเอง
เวลา 11.00 น. Mr.Xie Yonglin, Executive Director, President, Co-CEO เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา โดย บริษัท Ping An เป็น 1 ใน 3 ของผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของจีน บูรณาการด้านการเงินและการบริการด้านสุขภาพเข้าด้วยกัน และรวมถึงธุรกิจประกันภัย
ด้านบริษัทฯ กล่าวว่า มีการดำเนินธุรกิจในไทยมายาวนาน มีธุรกิจครบวงจรเกี่ยวกับการเงิน medical care สำหรับผู้สูงอายุ และการแพทย์ ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ สาธารณสุข จึงคิดว่าสามารถร่วมมือกับไทยได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอเชิญชวนให้มาลงทุนในไทยให้มากขึ้น ไทยยินดีต้อนรับการลงทุนจากบริษัทในทุกด้านที่บริษัทเชี่ยวชาญ เช่น healthcare การเงิน ด้านบริษัทฯ กล่าวว่า จะขยายการบริการประกันภัยนอกประเทศ จะพิจารณาไทยเป็นประเทศแรก
เวลา 13.00 น. Mr.Alain Lam, Vice President, CFO เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา โดย Xiaomi เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีนวัตกรรมขั้นสูง สร้างอุตสาหกรรมดิจิทัลที่หลากหลาย โดดเด่นในการผลิตโทรศัพท์มือถือที่ปฏิบัติการบนโปรแกรมเพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในระบบ Android
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พร้อมสนับสนุนการขยายตลาดและการลงทุนในประเทศไทย เชื่อว่าไทยมีข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่บริษัทจะได้ประโยชน์ในการลงทุนและขยายตลาดในพื้นที่ และให้ความมั่นใจการเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์ EV ของภูมิภาค ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่พร้อม และสภาพแวดล้อมที่ได้เปรียบ
ขณะที่บริษัทยินดีที่จะขยายการผลิตชิ้นส่วน electronics ต่างๆ ในไทยสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท และนำสู่ตลาดโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มทักษะการผลิตของแรงงานไทยควบคู่กับการ training
เมื่อเวลา 14.00 น. Mr. Fan Jiang, CEO บริษัท Alibaba International Digital commerce Group เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา โดย Alibaba Group เป็นบริษัท e-commerce รายใหญ่ ให้บริการและพัฒนาระบบการค้าออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ระบบ Alibaba Cloud Computing และระบบการชำระเงิน Alipay
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หวังว่าจะได้รับการขยายการลงทุน และ Alibaba จะสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย เชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสในการลงทุนไทยได้อีกมาก
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ เห็นว่าไทยมีศักยภาพเป็น strategic partner บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในไทยในหลากสาขาของผลิตภัณฑ์ มีลูกค้าตลาดใหญ่ของบริษัทฯ ยินดีสนับสนุน e-training ให้กับไทย พร้อมขยายความร่วมมือการลงทุน ได้แก่ E-commerce training สำหรับบุคลากรและแรงงานไทย ยินดีสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในด้านดิจิทัล และเสนอให้ตั้ง smart digital hub ในไทย
ฟุ้งชวน 5 บริษัทยักษ์ลงทุน
เมื่อเวลา 15.30 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมการหารือกับภาคเอกชนของจีนว่า ได้มีการพูดคุยพบปะกับภาคเอกชน 5 บริษัท เข้าใจว่าจากการพบปะพูดคุยทั้ง 5 บริษัท ประสบความสำเร็จดี และเข้าใจในเจตนารมณ์ของประเทศไทยดีขึ้น ว่าการที่เรามา One Belt One Road นี้เพื่อชี้แจงในเรื่องของโลจิสติกส์ ที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยในอนาคต รวมทั้งได้มีโอกาสพูดคุยแผนอนาคตที่จะขยายในเรื่องของแลนด์บริดจ์ รวมทั้งจุดโน้มน้าวที่จะให้เขาเข้ามาลงทุน โดยมีมาตรการทางด้านภาษีมาสนับสนุนด้วย ซึ่งทุกคนดีใจและกระตือรือร้นที่จะเข้ามาทำธุรกิจมากขึ้น เพราะประเทศไทยได้เปิดแล้ว
เมื่อเวลา 16.30 น. ณ Reception Hall มหาศาลาประชาชน นายเศรษฐา หารือกับนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่สนใจร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทรัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ และการขจัดความยากจน
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จีนเป็นทั้งคู่ค้าและนักลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ของไทยในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ยังมีศักยภาพพัฒนาได้อีกมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนให้วิสาหกิจจีนเข้ามาใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนของประเทศไทย
ต่อมาเวลา 18.00 น. ณ เรือนรับรองเตี้ยวหยูไถ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายเศรษฐาหารือทวิภาคีกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกันในด้านการเมือง ด้านการศึกษา และด้านเศรษฐกิจ เห็นควรเพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกันมากขึ้น โดยนายกฯ ขอให้ฝ่ายรัสเซียส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกัน พร้อมทั้งเชิญชวนให้รัสเซียพิจารณาเพิ่มการลงทุนในไทย รวมทั้งยังได้เชิญประธานาธิบดีรัสเซียเดินทางเยือนไทย ซึ่งประธานาธิบดีรัสเซียตอบรับ โดยจะได้ร่วมกำหนดวันที่ทั้งสองฝ่ายสะดวกต่อไป
จากนั้นในเวลา 18.30 น. นายกฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำโดยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และภริยา เป็นเจ้าภาพ ณ มหาศาลาประชาชน
ด้านความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ว่า พล.อ.ประวิตรได้เชิญมาพูดคุยเรื่องขอบเขตงานตำแหน่งที่ จะมอบหมายคือ โฆษกพรรค พปชร. ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่ขณะนี้ตนดำรงตำแหน่งเป็นราชองครักษ์พิเศษ ซึ่งคงจะต้องดำเนินการทางธุรการและกราบบังคมทูลขอพระราชวินิจฉัยเพื่อขอมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น ตนจะมาดำรงตำแหน่งโฆษกพรรค ต่อเมื่อมีพระราชวินิจฉัยหรือทรงโปรดเกล้าฯ มาแล้ว
น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายอดิศร เพียงเกษ สส. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ระบุกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ให้พรรคร่วมฝ่ายค้านไปซักฟอกตัวเองก่อนจะซักฟอกรัฐบาลว่า เข้าใจว่านายอดิศรก็ต้องปกป้องรัฐบาล แต่การซักฟอกรัฐบาลเป็นหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่แล้ว และการยื่นอภิปรายมาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ไม่เร็วเกินไป
“ยุคสมัยเปลี่ยน งานการเมืองต้องเดินหน้าทำงานให้ได้เนื้อหาสาระและประโยชน์ของประชาชน สุดท้ายด้วยความเคารพ ท่านอย่าหาว่าดิฉันตอบโต้โดยไม่สนรุ่นใหญ่รุ่นเล็กเลย อย่าให้เรื่องความอาวุโส เกิดก่อนเกิดหลังมาเป็นเงื่อนไข ใช้เป็นประโยชน์ในการให้ข่าวเพื่อประโยชน์ฝ่ายเดียว”
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของคณะกรรมการวินัยพรรคก้าวไกลตรวจสอบ สส.ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ น.ส.ภคมนกล่าวว่า ขณะนี้คดีความยังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่พรรคก็น้อมรับ และนำไปเร่งรัดตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งเร็วๆ นี้จะตั้งคณะกรรมการอีก 1 ชุด เพื่อตัดสินทางวินัยกรณีนี้โดยเฉพาะ ยืนยันจะไม่นานเหมือนเรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้
สจ.จอยประกาศไม่เผาศพ!
7 ผู้ต้องหาคดียิง "สจ.โต้ง" คอตกเข้าคุกเรียบร้อย
กกต.ย้ำ1ก.พ.เลือก47อบจ. พท.จ่อเคาะชื่อเก้าอี้โคราช
กกต.ย้ำเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด 1 ก.พ.2568
พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี
"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล
หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี
’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี