“บิ๊กต่อ" สั่ง รพ.ตำรวจรายงานเรื่อง “ทักษิณ” ศรีสุวรรณบุกร้องปลัดยุติธรรมตั้ง คกก.สอบ ชี้สมคบคิดจัดฉากช่วยนักโทษชายอยู่นอกเรือนจำต่อ "เจ้าสัวเปรมชัย” พ้นคุกแล้ว ขึ้นรถหรูไปรักษาตัวกรุงเทพฯ ราชทัณฑ์แจงพักโทษไม่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม เหตุเบาหวานลงขา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นดี อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งราชทัณฑ์ส่งมารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.66 อยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ และล่าสุดมีภาพปรากฏนอนบนรถเข็นลงมาทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเล่นละครเพื่อขอต่อเวลารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ เนื่องจากใกล้จะครบ 90 วันในวันที่ 20 ต.ค.นี้ว่า เนื่องจากตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ผบ.ตร. และไม่ได้ดูมาตั้งแต่ต้น ซึ่งได้สั่งให้มีการรายงานขึ้นมาให้ทราบแล้ว เบื้องต้นนายทักษิณอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ และราชทัณฑ์ประสานมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในส่วนของตำรวจช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย สำหรับกระบวนการขั้นตอนต่างๆ ขอดูข้อมูลก่อน
ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมายื่นคำร้องต่อปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาสอบสวนกรณีมีพฤติการณ์ที่เชื่อได้ว่ามีการสมรู้ร่วมคิดกันในการสร้างสถานการณ์ให้นายทักษิณได้รักษาตัวต่อในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งขัดต่อกฎหมายราชทัณฑ์ 2560 และกฎกระทรวงหรือไม่
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การที่โซเชียลฯ และสื่อมวลชนได้เผยแพร่แชร์ภาพการเคลื่อนย้ายนายทักษิณที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้ป่วยจากชั้น 14 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ลงมาชั้นล่างผ่านทางเดินเท้าเพื่อไปทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอที่ตึก ภปร. โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นการเล่นละครจัดฉากกัน เพื่อหวังการตบตาสังคมหรือเพื่อเอื้อประโยชน์กันในการชงเรื่องมายังปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจต่อไปโดยไม่ต้องกลับเข้าคุกอีกหรือไม่
ทั้งนี้ ตามมาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 คือต้องเป็นผู้ต้องขังซึ่งป่วย มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตหรือเป็นโรคติดต่อเท่านั้น ส่วน น.ช.รายนี้มีประวัติการป่วยเพียง 4 โรคสำคัญเท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับสุขภาพจิตหรือเป็นโรคติดต่อ ดังนั้น การที่กรมราชทัณฑ์ให้ความเห็นชอบให้นักโทษเด็ดขาดชายรายนี้ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำหรือโรงพยาบาลตำรวจนั้น เป็นการใช้อำนาจเกินไปกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และหรือจึงเป็นการใช้ดุลยพินิจมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร ดังนั้น ปลัดกระทรวงยุติธรรมควรต้องใช้อำนาจตามกฎหมายในการทำความจริงให้ปรากฏได้ ด้วยการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาตรวจสอบเพื่อนำความจริงมาเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ หากพบใครผิดต้องลงโทษ
วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีการปล่อยตัวและลดวันต้องโทษนายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องขังในคดีล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ซึ่งถูกศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พิพากษาชั้นฎีกาจำคุก 2 ปี 14 เดือน เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2564 ว่า กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยลดวันต้องโทษจำคุก ครั้งที่ 13/2566 ในวันที่ 17 ต.ค.2566 โดยมีผู้ต้องขังที่เข้ารับการพิจารณารวมทั้งสิ้น 567 ราย อนุมัติ 484 ราย ไม่อนุมัติ 83 ราย
โดยกลุ่มที่อนุมัติปล่อยตัวลดวันต้องโทษจำคุกในวันที่ 17 ต.ค.2566 มีจำนวน 113 ราย ซึ่งในกลุ่มนี้มีนักโทษเด็ดขาดเป็นที่สนใจของสังคม จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายเปรมชัย ต้องโทษอยู่ที่เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ในความผิดฐาน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า, พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ความผิดต่อเจ้าพนักงาน
ทั้งนี้ มติที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ได้เห็นชอบอนุมัติให้ปล่อยตัวลดวันต้องโทษจำคุกเพื่อคุมความประพฤตินายเปรมชัย ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2566 และจะพ้นโทษในวันที่ 7 ธ.ค.2566 แต่เนื่องจากนายเปรมชัยมีปัญหาด้านสุขภาพ ตรงบริเวณข้อเท้าที่เคยถูกคว้านเนื้อที่ตายจากอาการเบาหวานลงขา เพราะป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมได้ยาก และหากใช้อุปกรณ์ดังกล่าว จะมีการเสียดสีจนเกิดบาดแผลที่รุนแรงขึ้นอีก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการบำบัดรักษาในกรณีฉุกเฉิน คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติเห็นควรไม่ให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) ทั้งนี้ เมื่อปล่อยตัวคุมประพฤติจะต้องมารายงานตัวและอยู่ภายใต้เงื่อนไขคุมความประพฤติจนกว่าจะครบกำหนดโทษจริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. ที่บริเวณหน้าเรือนจำทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปล่อยตัวนายเปรมชัย โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัท อิตาเลียนไทยฯ พร้อมด้วยนายวิทูล ยิ้มพราย คนสนิทของนายเปรมชัย ได้พยุงตัวนายเปรมชัย ซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขายาวสีเทา สภาพร่างกายค่อนข้างอิดโรย หน้าตาอ่อนเพลีย และเดินเขยกต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัว ออกจากประตูเรือนจำไปขึ้นรถบ้านหรูยี่ห้อเบนซ์ หมายเลข 6263 กรุงเทพมหานคร โดยไม่พูดอะไรกับสื่อมวลชน ทั้งนี้ นายวิทูลเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่าทางครอบครัวรู้สึกดีใจที่นายเปรมชัยได้ออกจากเรือนจำ และต้องรีบนำตัวคุณเปรมชัยไปส่งยังโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจร่างกายโดยเร่งด่วน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว! บิ๊กโจ๊กฟ้อง 'เศรษฐา' เป็นอาญาแผ่นดินปมตั้ง 'บิ๊กต่อ'
'บิ๊กโจ๊ก' ยื่น ป.ป.ช. ฟ้อง 'เศรษฐา' ผิด ม.157 ปมแต่งตั้ง 'บิ๊กต่อ' เป็นผบ.ตร. โดยมิชอบ ระบุไม่ได้ท้ารบ แต่ปกป้องสิทธิ
'บิ๊กต่อ'ลั่นไขก๊อกก่อนเกษียณเป็นเรื่องอนาคตส่วนเรื่อง 'บิ๊กโจ๊ก' เราอยู่กันแบบพี่น้อง!
'บิ๊กต่อ' ย้ำไม่ได้มีความขัดแย้งกับ 'บิ๊กโจ๊ก' อยู่กันแบบพี่น้อง เผยการออกจากราชการก่อนเกษียณเป็นเรื่องของอนาคต
ทร.บวงสรวง เรือพระที่นั่ง นำลงน้ำ4ก.ค.
สิริมงคล "กองทัพเรือ" บวงสรวงเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค
ไฟเขียวรบ.ก่อหนี้ใหม่ กู้ทะลุ1ล้านล้านบาท
ครม.อนุมัติปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่สอง ปีงบ 67
ครม.สัญจรหนีม็อบ ทุ่มงบเอาใจอีสาน
"เศรษฐา" หลบม็อบเหมืองโปรแตช เปลี่ยนเส้นทางพร้อมเลิกชมนิทรรศการ
กฤษฎีกาเบรกชาญนายกอบจ.
เลขาฯ ป.ป.ช.แจงปมชี้มูล “ชาญ” ทุจริตอยู่ขั้นสืบพยานในชั้นศาล