ตั้ง38นายพล-ตร.อาวุโสผงาด

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ก.ตร.ฉลุยแต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจ 38 ตำแหน่ง ตำรวจอาวุโสพาเหรดขึ้นนั่งเก้าอี้เกรดเอ “ธนา-สราวุฒิ” นั่งรอง ผบ.ตร. "ไกรบุญ" เป็น จเรตำรวจฯ "เศรษฐา" โวเป็นการแต่งตั้งที่ดีที่สุด "บิ๊กต่อ" ยันเป็นไปตามกฎหมาย ยึดหลักอาวุโส ความรู้ความสามารถควบคู่กัน ไม่กังวลถูกฟ้อง มอบเสื้อกั๊กสะท้อนแสงแบบใหม่ให้ตำรวจพื้นที่นำร่อง สร้างภาพลักษณ์เป็นมิตร ยกระดับรักษาความปลอดภัย ปชช.

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เวลา 08.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 11/2566 โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีรายงานว่าวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพล ตำแหน่ง รองผบ.ตร.ลงไปถึง ผบช. วาระประจำปี 2566 ซึ่งมีตำแหน่งว่างจำนวน 24 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รอง ผบ.ตร.ว่าง 3  ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 5 ตำแหน่ง และ ผบช.ว่าง 16  ตำแหน่ง

ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อดังกล่าวผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณารายชื่อข้าราชการตำรวจ หรือบอร์ดกลั่นกรอง ตร. เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาเรียบร้อย โดยระดับรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร.จะเรียงตามอาวุโส แต่ที่น่าสนใจคือตำแหน่ง ผบช.ที่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาตามหลัก อาวุโส 50% และความรู้ความสามารถ 50%

มีรายงานว่า บัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ได้รับความเห็นชอบตามมติ ก.ตร. มีการแต่งตั้งนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ ผบช.รวมทั้งหมด 38 ตำแหน่ง ระดับรอง ผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง เป็นการพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ดังนี้ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.

 ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. 6 ตำแหน่ง พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ดังนี้ พล.ต.ท.ณพวัฒน์ อารยางกูร จเรตำรวจ  (สบ8) ขึ้นเป็นรองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9), พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.,  พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่  (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบช.สพฐ.ตร. ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.

ระดับ ผบช.ว่าง 16 ตำแหน่ง ดังนี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก (อาวุโส 50%) รอง ผบช.น. ขึ้นเป็น ผบช.ภาค 1, พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 โยกไป ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี (อาวุโส 50%) รอง ผบช.ภาค 3 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.3, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. โยกไป ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร (อาวุโส 50%) รอง ผบช.ภ.5 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ (อาวุโส 50%) รอง ผบช.ภ.1 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.6, พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ. โยกไป ผบช.ภ.7, พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 อยู่ที่เดิม, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.9

 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.2 โยกไป ผบช.สตม., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. โยกมา ผบช.สพฐ., พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต (อาวุโส 50%) รอง ผบช.ตชด. ขึ้นเป็น ผบช.ตชด., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.สง.ผบ.ตร. (ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศฯ) โยกไป ผบช.ปส., พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. ขึ้นเป็น จเรตำรวจ (สบ 8), พล.ต.ต.สยาม บุญสม รอง ผบช.น. ขึ้นเป็น จเรตำรวจ (สบ 8), พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทำหน้าที่นายตำรวจประจำ สมช.), พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ (อาวุโส 50%) รอง ผบช.ศ. ขึ้นเป็น ผบช.สตส., พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ  รอง ผบช.ภ.8 ขึ้นเป็น ผบช.ทท., พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทำหน้าที่นายตำรวจประจำ สมช.) โยกเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ประสานงานนายกฯ) พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ (สบ 8) โยกเป็นนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา จเรตำรวจ (สบ 8) โยกเป็น จเรตำรวจ (สบ 8) (หัวหน้าจเรตำรวจ) พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทำหน้าที่ประสานงานสำนักนายกฯ) โยกไป ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศฯ) พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. ขึ้นเป็น จเรตำรวจ (สบ 8)

พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ (อาวุโส 50%) รอง ผบช.ก.  ขึ้นเป็น ผบช.สงป., พล.ต.ต.ไพบูลย์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์ใหญ่ (สบ 7) ขึ้นเป็น นายแพทย์ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ, พล.ต.ต.วัชรินทร์ พิภพมงคล รองนายแพทย์ (สบ 7) โรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเป็น นายแพทย์ (สบ 8), พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7. ขึ้นเป็น ผบช.ศ., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 ขึ้นเป็น ผบช.สยศ.ตร., พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รอง ผบช.ตชด. ขึ้นเป็น จเรตำรวจ (สบ 8), พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รอง ผบช.ทท. ขึ้นเป็น ผบช.กมค.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ กล่าวถึงการประชุม ก.ตร.ว่า ผ่านไปได้ด้วยดี ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นอดีตข้าราชการ ของ ตร.ยังชมว่าการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการแต่งตั้งครั้งที่ดีที่สุด เพราะได้คำนึงถึงความอาวุโส ความเหมาะสม ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และขอชื่นชม ผบ.ตร.และกรรมการกลั่นกรองที่ทำงานมาได้ด้วยดี

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวว่า การแต่งตั้งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยยึดหลักอาวุโส ความรู้ความสามารถควบคู่กัน โดยในที่ประชุม ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิมีการอธิบายถึงคุณสมบัติบางนาย ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงและเตรียมนำมาปรับปรุงพิจารณาเพื่อให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ส่วนบัญชีรายชื่อที่ได้รับการแต่งตั้ง ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อยจากบอร์ดกลั่นกรองเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 66 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครไปตำแหน่งไหน ต้องรอการโปรดเกล้าฯ ก่อน โดยในวันนี้ (16 ต.ค.) ตนจะลงนามในคำสั่งให้ผู้ที่มีรายชื่อทั้งหมดไปรักษาราชการแทนในตำแหน่ง เพื่อเตรียมพิจารณารายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบช.-ผบก. ที่จะมีการประชุม ก.ตร.ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ยืนยันว่าการแต่งตั้งวาระประจำปี 2566 เป็นการแต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ ที่มีการพิจารณาจากระดับล่างขึ้นไป ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ระดับ ตร.จะลงไป

ส่วนกรณีที่อาจจะมีข้าราชการตำรวจบางนาย ที่เห็นว่าการแต่งตั้งไม่ได้รับความเป็นธรรมและต้องการยื่นฟ้อง ตร.นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ได้กังวลเพราะถือเป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้นๆ ที่สามารถยื่นฟ้องได้ แต่ยืนยันว่าการแต่งตั้งคำนึงถึงหลักกฎหมายเป็นตัวตั้ง และครั้งนี้เป็นการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุดแล้ว

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ไปเป็นประธานในพิธีมอบเสื้อกั๊กสะท้อนแสงสีเขียวอมเหลืองแบบใหม่ ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามที่ปฏิบัติงานในสถานีตำรวจนำร่อง พื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล,  ตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง,  กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หรือพื้นที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เพื่อให้ตำรวจใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ตร.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและพัฒนารูปแบบเสื้อคลุมแบบแจ็กเก็ตสะท้อนแสง ซึ่งพบว่าการใช้สีแบบ retroreflector หรือสีสะท้อนแสง ช่วยให้ประชาชนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ง่ายตั้งแต่ระยะ 200-500 เมตร ทั้งยังเป็นสีที่เป็นมิตรต่อประชาชน นอกจากนี้สีดังกล่าวยังนิยมใช้สวมใส่ทับเครื่องแบบกันแพร่หลาย เป็นที่เข้าใจในระดับสากล โดยจะนำไปทดลองใช้จริงเป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นจะสำรวจความพึงพอใจทั้งจากประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อนำมาพัฒนารูปแบบเสื้อกั๊กให้มีความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวเป็นการยกระดับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี