สมศักดิ์ชูยอดยึดทรัพย์ วัดผลปราบ‘ยาเสพติด’

เพิ่มตัวชี้วัดผลงานจับ  “ยาเสพติด” เปลี่ยนจากนับจำนวนคดี เป็นเงินอายัดทรัพย์ ขยายผลคิดตามมูลค่า Value-based ใช้เป็นเครื่องมือตัดวงจรทุนของผู้ค้า “สมศักดิ์” เผยทิ้งทวนเก้าอี้ยุติธรรมยึดได้ 3 หมื่นล้านบาท “เศรษฐา” ตรวจการบ้าน 8 คณะ  เรียก ตร.ปส.สรุปงาน

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเรียกกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) มาเข้าพบว่า ได้นัดหมายพบกับหลายคน ทั้งตามงานกับรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ตามงานเรื่องสะพานที่สุไหงโก-ลก กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พบกับ ปส. และที่ปรึกษานายกฯ ในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากตอนที่ทุกพรรคการเมืองหาเสียงอยู่นั้น ปัญหาเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่มากของประชาชน  ซึ่งก็เป็นการตามงานตามปกติ วันนี้มีเข้าพบประมาณ 7-8 คณะ ในส่วนของยาเสพติดเกี่ยวข้องกับหลายส่วน ทั้งเรื่องสาธารณสุข ด้านการเยียวยาและการรักษา เรื่องกระบวนการยุติธรรม เรื่องของความมั่นคงด้วย เมื่อคุยกับแต่ละหน่วยงานแล้ว จะมาประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ขอให้สบายใจ ยืนยันว่าขณะนี้พยายามอย่างเต็มที่

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2567 คณะที่ 2.2 แผนงานบูรณาการป้องกันปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ป.ป.ส. กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ สำนักงบประมาณ ได้เน้นย้ำว่าการจัดทำงบประมาณด้านการแก้ปัญหายาเสพติด ต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ที่สามารถนำผลสำเร็จมาเป็นตัวชี้วัดได้ เพราะจะทำให้ทุกภาคส่วนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากมีตัวชี้วัดเรื่องงบประมาณกำหนดไว้อย่างชัดเจน

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ตัวชี้วัดด้านการปราบปรามยาเสพติด จากในอดีตจะนำกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้กี่คดีมาเป็นตัวชี้วัด แต่ปัจจุบันรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในเรื่องการยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งมีการกำหนดไว้ในแนวนโยบายของรัฐบาลอย่างชัดเจน ตนจึงมอบแนวทางให้ที่ประชุมปรับเปลี่ยนตัวชี้วัด ด้วยการเพิ่มเรื่องการยึดอายัดทรัพย์สินเข้าไปด้วย เพราะตัวเลขการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดจะเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนในการบูรณาการแก้ปัญหายาเสพติด

“ที่ผ่านมาผลการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดไม่เคยถูกนำมาเป็นตัวชี้วัด แต่ผมมองว่าการยึดอายัดทรัพย์มีตัวเลขผลงานที่ชัดเจน ซึ่งสามารถนำมาเป็นตัวชี้วัดผลงานได้ จึงอยากให้มีการเพิ่มในเรื่องนี้ เพราะผมเชื่อว่าการยึดอายัดทรัพย์จะช่วยตัดวงจรการค้ายาเสพติดได้ โดยตั้งแต่ผมผลักดันเรื่องนี้ ด้วยการแก้กฎหมาย เพิ่มการยึดทรัพย์ ก็ทำให้สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้มากขึ้น จากเดิมปีละไม่เกิน 900 ล้านบาท แต่ปีสุดท้ายก่อนผมลาออกจาก รมว.ยุติธรรม ยึดอายัดได้แล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท”

 นายสมศักดิ์กล่าวว่า หากเรานำเรื่องการยึดอายัดทรัพย์มาเป็นตัวชี้วัด ก็จะช่วยให้การทำงานในเรื่องนี้ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และจะทำให้ขบวนการผู้ค้ายาเสพติดไม่มีเงินหมุนเวียนไปกระทำผิดซ้ำได้อีก ซึ่งเรื่องนี้สำนักงบประมาณ ได้เห็นด้วยที่จะกำหนดเรื่องการยึดอายัดทรัพย์ไว้ในตัวชี้วัดแล้ว ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาร่วมกันเดินหน้ายึดอายัดทรัพย์กันอย่างเต็มที่มากขึ้น เช่น ตำรวจ หลังมีการจับกุม ก็ต้องมีการขยายผล รวมถึงคิดตามมูลค่า หรือ Value-based ที่ต้องนำมูลค่าการค้ายาเสพติดมาคำนวณ เพื่อยึดทรัพย์ย้อนหลัง โดยถือว่าเป็นผลดีกับพี่น้องประชาชน ที่รัฐบาลเร่งแก้ปัญญายาเสพติดแบบทุกมิติ เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานเรา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี