สภาล่มอีก!วิปรบ.แก้ไม่ตก

บิ๊กป้อม-กลุ่ม กทม.พปชร.ไปกันคนละทางเรื่องส่งคนชิงเก้าอี้พ่อเมืองกรุง หน.พรรคบอกไม่ส่งในนามพรรค แต่ ส.ส.บอกกำลังคัดตัว "บิ๊กวิน" กั๊กไปต่อหรือพอแค่นี้ "ดร.เอ้" เข้าการเมืองแค่สามวัน เจอรับน้องปมดรามาหลานไอน์สไตน์ วิปรัฐบาลแก้ไม่ตกสภาล่ม! อีกแล้ว

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ที่ได้พิจารณาระเบียบวาระเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ​ซึ่งนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กับคณะเป็นผู้เสนอ โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านแสดงความเห็นต่างกันในหลายประเด็น ทำให้นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าเนื่องจากร่างฉบับนี้เสนอโดย ส.ส. ดังนั้นเพื่อความรอบคอบรัฐบาลจึงขอนำกลับไปพิจารณาใหม่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาภายใน 60 แล้วจะส่งกลับมาที่ประชุมสภาให้พิจารณาอีกครั้ง ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ ครม.นำกลับไปทบทวนด้วยคะแนน 236 ต่อ 36 งดออกเสียง 49 ไม่ลงคะแนน 3

จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ ที่มีนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอ หลังจากที่ ส.ส.อภิปรายครบถ้วนแล้วแต่ยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ นายอนุชาจึงขอให้ ครม.ขอรับร่างฉบับนี้ไปพิจารณาเป็นเวลา 60 วัน เหมือนกับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อความรอบคอบแล้วค่อยส่งกลับมาให้ที่ประชุมสภาพิจารณาอีกครั้ง

จากนั้นเวลา 16.25 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิกมาแสดงตนเพื่อลงมติจะส่งเรื่องให้ ครม.พิจารณาหรือไม่ ทั้งนี้นายสุชาติกดออดเรียกอยู่ 2-3 นาที แต่ภายในห้องประชุมยังมี ส.ส.บางตา ก่อนที่นายสุชาติจะให้ ส.ส.กดบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุม เมื่อ ส.ส.กดบัตรแสดงตนครบถ้วนแล้ว นายสุชาติทิ้งระยะเวลาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกว่า “ไม่ครบอีกแล้วหรือครับ” และสั่งปิดประชุมทันที โดยไม่ยอมขานคะแนนว่ามีองค์ประชุมอยู่เท่าใด

โดยก่อนหน้านี้ วิปรัฐบาลและแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ในรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาสภาล่มที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงหลัง ซึ่งก็ดีขึ้นมาระยะหนึ่ง จนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีกครั้งในครั้งนี้

ด้านความเคลื่อนไหวศึกชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุว่าจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ในช่วงกลางปี 2565 ว่า เป็นเวลาโดยประมาณ ยังไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่ชัดออกมา จะเป็นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่เกินกรอบเวลาดังกล่าว

ป้อมไม่ส่งคนชิงผู้ว่าฯ กทม.

พลเอกประวิตรยังกล่าวถึงความชัดเจนของพรรค พปชร.ในการส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า ให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา เนื่องจากมีคนแสดงความประสงค์หลายคน เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้เคยบอกว่า พรรค พปชร.จะไม่ส่งผู้สมัคร แต่ทำไมตอนนี้จะพิจารณาตัวว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ใช่ส่ง แต่จะสนับสนุนใครที่เป็นคนดี มาทำงานร่วมกับรัฐบาล ใครก็ได้ ไม่ใช่ว่าเราจะส่ง”

เมื่อถามว่า นิยามผู้ว่าฯ กทม.ไว้ควรจะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ต้องเป็นคนดี มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน และทำงานด้วยความโปร่งใส ทำให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี ” ส่วนเรื่องการทำโพลวัดความนิยมของพรรคนั้นไม่ได้ทำเลย เรื่องโพลถามผู้สื่อข่าวก็รู้

นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. พรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสที่พรรคจะไม่ส่งผู้ว่าฯ กทม. โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเมื่อวานนี้ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ตนเองในฐานะ กก.บห.และเป็นหัวหน้าภาค กทม.ได้รายงานความคืบหน้าในการจัดทำร่างนโยบายการส่งผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขตในนามพรรค และการคัดสรรผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ซึ่ง กก.บห.ได้รับทราบความคืบหน้าเรื่องต่างๆ ดังกล่าว และยังให้ข้อสังเกตว่าในส่วนการคัดสรรผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น ขอให้คณะทำงานภาค กทม.ใช้เวลาพิจารณาผู้สมัครที่ดีที่สุดก่อนเสนอมายัง กก.บห.เพื่อพิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย และยังไม่ช้าเกินไปที่จะเปิดตัว ทั้งนี้ตนได้แถลงยืนยัน ไปแล้วเมื่อวานนี้ หลังการประชุม กก.บห. และในวันจันทร์ที่ 20 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ได้ติดต่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต ซึ่งขณะนี้ขาดอีกเพียง 4-5 เขต เพื่อแจ้งมติ กก.บห.อย่างเป็นทางการและจะได้เดินหน้าทำงานในพื้นที่ต่อไป

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรค พปชร.กล่าวถึงเรื่องผู้ว่าฯ กทม.ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นเรื่องของทุกพรรคการเมืองที่สามารถส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง และคนตัดสินคือประชาชน อยากให้แต่ละพรรคแข่งขันกันสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่ดีงามให้แก่ประชาชนและบ้านเมือง แล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง ยืนยันว่าการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคจะต้องผ่านกระบวนการคัดสรรตัวผู้สมัคร ที่มีความรู้ความสามารถเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์กรณีการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ยังไม่มีพรรคไหนติดต่อมา ตอนนี้ก็ทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนจะลงสมัครหรือไม่นั้นขอตัดสินใจอีกครั้ง เมื่อ กกต.ประกาศจัดการเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าเมื่อใด ก็จะตัดสินใจเมื่อนั้น ส่วนจะลงร่วมกับพรรคการเมืองหรือลงในนามอิสระ ก็ต้องรอให้ กกต.ประกาศเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อน มองว่าเป็นเรื่องดีที่มีผู้เตรียมสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.จำนวนมาก ทำให้ประชาชนจะได้มีทางเลือกว่าเขาชอบใคร อยากให้ลงทุกพรรคเลย 20-30 คนก็ดี ประชาชนจะได้มีตัวเลือก

ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลว่า ขอให้รอดูทีเดียวตอนคิกออฟเปิดตัวในเดือนมกราคม 2565 โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักแน่นอน

ดร.เอ้สะดุดหลานไอน์สไตน์

ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ดร.เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาสมัยศึกษาอยู่ในระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยเอ็มไอที ไม่ได้เป็นหลานกับอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ว่า เมื่อตนไปเรียนที่เอ็มไอทีได้รับคำบอกเล่าจากรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ก่อนว่า โชคดีมากที่ได้เรียนกับดร.เฮอร์เบิร์ต เพราะเป็นหลานของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด ไม่ได้มีเจตนาจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการหาเสียง ถ้าใครได้ติดตามจะทราบว่าได้พูดถึงเรื่องนี้ในการบรรยายมาตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจอย่างนั้นจริงๆ

นายสุชัชวีร์กล่าวอีกว่า ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน ศิษย์เก่าเอ็มไอที และเคยเรียนกับ ดร.เฮอร์เบิร์ต ก็ยังเชื่อว่าเป็นหลานเหมือนกัน เพราะสมัยไปเรียนที่เอ็มไอทีก็ได้รับการบอกเล่าเรื่องนี้ รวมทั้ง ศ.ดร.บุญชัย อุกฤษฏชน อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยเรียนกับ ดร.เฮอร์เบิร์ต ก็บอกเช่นกันว่าเลขาฯ ภาควิศวกรรมโยธา เอ็มไอที เล่าว่า ดร.เฮอร์เบิร์ตคือหลานของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศ.ดร.สุชัชวีร์ได้เปิดตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และแถลงนโยบาย โดยตอนหนึ่ง ศ.ดร.สุชัชวีร์อ้างถึงประวัติการศึกษาว่า จบปริญญาเอกด้านวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นลูกศิษย์ของ ศ.เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ หลานแท้ๆ ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลก

โดยเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. มติชนออนไลน์ได้เผยแพร่อีเมลการสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวกับ ศ.เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ และได้รับการยืนยันว่า นายสุชัชวีร์เป็นนักเรียนปริญญาเอกของตนเองจริง และเป็นคนที่เก่งมาก แต่อย่างไรก็ตามประเด็นที่ระบุว่า ตนเป็นหลานแท้ๆ ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์นั้น ไม่เป็นความจริง

เรื่องดังกล่าวทำให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคก้าวไกลวิจารณ์ว่า การเปิดตัวของนายสุชัชวีร์ยิ่งใหญ่อลังการ ที่ได้พูดถึงเรื่องโทนี สตาร์ก หรือการเป็นทายาทของไอน์สไตน์ นั้น เป็นมุมมองของนายสุชัชวีร์ แต่ถามว่าประชาชนได้อะไรจากการเป็นทายาทไอน์สไตน์ และคนที่อ้างถึงก็ส่งจดหมายข้ามทวีปมาชี้แจงว่าไม่ได้เป็นญาติกับไอน์สไตน์ กรณีนี้เป็นบันไดก้าวแรกที่นายสุชัชวีร์น่าจะก้าวพลาด เพราะนโยบายที่ประกาศไว้ไม่ได้ตอบโจทย์คน กทม. ส่วนที่นายสุชัชวีร์ระบุการเชื่อข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากรุ่นพี่ เป็นการเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจนั้น หากนายสุชัชวีร์แจ็กพอตได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จริง ผ่านไป 4 ปีจะมาบอกว่าตัวเองเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าพรรค ปชป.ดีที่สุด หรือบอกว่าเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าจะทำเรื่องนี้ได้ แต่กลับทำไม่ได้ แบบนี้คนกทม.ก็ต้องเสียเวลาไปอีก การฟังรุ่นพี่บอกต่อๆ กันมานั้นไม่เท่าไหร่ แต่ฟังแล้วเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี ตั้งแต่เรียนจบเอ็มไอทีมา แล้วนำมาพูดต่อสาธารณชนอย่างภาคภูมิใจ ต้องถามกลับว่านี่คือวุฒิภาวะของคนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นำขบวนคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัดออกเดินทางจากจังหวัดชัยภูมิถึงขอนแก่น โดยได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น 3 เขต ประกอบด้วย นางสาวรัมภามาศ ทีฆธนานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 นายพชรกร อรรณนพพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งทั้ง 3 คนถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจการเมือง เชื่อมั่นในผู้นำพรรค เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง สามารถสร้างเศรษฐกิจที่ดี.