โควิดรายใหม่ 3,370 ราย เสียชีวิต 29 ราย ศบค.ห่วงคลัสเตอร์ "ตลาด-ร้านหมูกระทะ" เพิ่มขึ้น เตือน ปชช.หยุดยาวปีใหม่ต้องเข้มงวด "สธ." เผยไทยติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 14 ราย ย้ำฉีดวัคซีนป้องกันได้ "บิ๊กป้อม" ขอบคุณฝรั่งเศสบริจาควัคซีน 4 แสนโดส ส่งถึงไทย ม.ค.65
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,370 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 3,239 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,161 ราย ค้นหาเชิงรุก 78 ราย เรือนจำ 111 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 20 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 4,557 ราย อยู่ระหว่างรักษา 46,315 ราย อาการหนัก 1,018 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 277 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 29 ราย ในจำนวนนี้ไม่ได้รับวัคซีนถึง 21 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาย 6 ราย หญิง 23 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 23 ราย มีโรคเรื้อรัง 5 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย จ.ชลบุรี อายุ 43 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวานและไม่ได้รับวัคซีน โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,178,276 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,110,107 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 21,260 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่ กทม. 583 ราย ชลบุรี 172 ราย นครศรีธรรมราช 150 ราย สมุทรปราการ 140 ราย สงขลา 135 ราย ปัตตานี 117 ราย สุราษฎร์ธานี 97 ราย เชียงใหม่ 89 ราย ปราจีนบุรี 76 ราย ตรัง 71 ราย ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ยังมีในหลายจังหวัดประกอบด้วย คลัสเตอร์โรงงานพบที่ปราจีนบุรี, ระยอง, ขอนแก่น คลัสเตอร์ตลาดพบที่จันทบุรี, สระแก้ว, ลพบุรี คลัสเตอร์ค่ายทหารพบที่ประจวบคีรีขันธ์ คลัสเตอร์งานศพพบที่นราธิวาสและขอนแก่น และคลัสเตอร์ร้านอาหารพบที่ กทม.และสุราษฎร์ธานี ซึ่งคลัสเตอร์ร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นร้านหมูกระทะ ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงใช้กระทะเดียวกันและใช้เวลานั่งอยู่นาน
"สถานการณ์โควิดในประเทศไทยยังเป็นไปตามคาดการณ์ มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีการพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในหลายพื้นที่ ซึ่ง ศบค.มีความห่วงใยการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่อาจพบมากขึ้นในช่วงเทศกาลหยุดยาวนี้ได้ กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมากขึ้นคือตลาดและร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีรายงานต่อเนื่อง คือหมูกระทะ มาจากปัจจัยเสี่ยงรับประทานกระทะเดียวกันและใช้เวลานาน ทำให้เสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น ส่วนตลาดวันหยุดมีการจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดมากขึ้น ศบค.อยากให้งานปีใหม่คนไทยมีความสุขที่มาพร้อมความปลอดภัย ไม่อยากให้เกิดการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ปีใหม่” พญ.สุมนีกล่าว
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโอมิครอนว่า ทั่วโลกขณะนี้กระจายตัวไป 70 ประเทศ และที่มีการระบาดหนักเกิดขึ้นใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย อังกฤษ, เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ขณะที่ในประเทศไทยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 11 ราย โดยจำนวนนี้รอการยืนยันถอดรหัสพันธุกรรมอยู่ 3 ราย อย่างไรก็ตามสายพันธุ์หลักที่แพร่ในไทยตอนนี้ยังเป็นเดลตา 99.58% มีสายพันธุ์โอมิครอนเพียงร้อยละ 0.23 สายพันธุ์อัลฟาร้อยละ 0.17 และสายพันธุ์เบตา 0.02%
ไทยพบโอมิครอน 14 ราย
ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.เพิ่มเติม 393,116 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 98,046,970 โดส สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดส คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) ขอแจ้งให้ดำเนินการฉีดเข็มกระตุ้นเข็ม 3 โดยมีการเพิ่มสูตรไขว้ 2 สูตร คือผู้ที่ฉีดเข็ม 1 และ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า สามารถฉีดเข็ม 3 เป็นไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา โดยมีระยะห่างจากเข็มที่ 2 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป และสำหรับผู้ที่ฉีดเข็ม 1 ซิโนแวคหรือซิโนฟาร์มแล้ว เข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า สามารถฉีดเข็ม 3 กระตุ้นได้ด้วยทั้งแอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา โดยมีระยะห่าง 3 เดือนขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2
"สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงวันที่ 1-30 พ.ย.มีจำนวนทั้งสิ้น 133,061 คน ซึ่งวันที่ 1-14 ธ.ค.มีทั้งสิ้น 103,263 คน โดย 5 อันดับประเทศที่เข้ามามากที่สุดในเดือน ธ.ค. ได้แก่ เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอเมริกา โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าประเทศที่เดินทางเข้ามาอันดับ 1 เปลี่ยนจากอเมริกา คาดว่าเพราะสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมกับองค์การอนามัยโลก จัดเสวนาวิชาการออนไลน์ “เปิดข้อมูล (ไม่) ลับ กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยทุกข้อมูลเรื่องวัคซีนโควิด-19 รับมืออย่างไรเมื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่มาเยือน” มีนายแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ จากกระทรวงสาธารณสุขมาให้ความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการตรวจเชื้อโควิดโอมิครอนว่า ก่อนหน้านี้ประเทศไทยเคยจะลดการตรวจ RT-PCR โดยจะให้ตรวจเฉพาะ ATK เฉพาะกลุ่มเดินทางเข้ามาแบบ Test and Go แต่เมื่อมีเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาจึงต้องคงมาตรการตรวจ RT-PCR ตามเดิม อย่างไรก็ตามในการตรวจโควิดนั้น ปัจจุบันมีแล็บ 465 แล็บทั่วประเทศที่ให้การรับรองมาตรฐาน แต่การตรวจสายพันธุ์ดำเนินการได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่งทั่วประเทศ ส่วนกลางและมหาวิทยาลัยบางแห่ง ซึ่งถือว่าครอบคลุมมากพอสมควร เนื่องจากเรามีการตรวจมาตั้งแต่เริ่มระบาด
นพ.ศุภกิจกกล่าวว่า การตรวจด้วย RT-PCR ไม่ได้เป็นปัญหา และตรวจด้วย ATK ก็ยังสามารถตรวจสอบว่าติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อได้ แต่หากจะตรวจหาสายพันธุ์ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจหา Whole Genome Sequencing ด้วยวิธีการตรวจสอบอย่างละเอียด ล่าสุดกรมวิทย์ฯ ได้มีการตรวจเพิ่มเติม ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธ.ค.64 พบผู้เข้าข่ายติดเชื้อโอมิครอน 14 ราย ยืนยันด้วยวิธี Whole Genome Sequencing ถอดรหัสพันธุกรรมแล้ว 9 ราย
“การตรวจหาสายพันธุ์ในผู้ติดเชื้อจะสุ่มตรวจจากคนไข้อาการหนัก ชายแดน ผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกราย เกิดคลัสเตอร์แปลกๆ และไม่รู้สาเหตุ เป็นต้น โดยตรวจสัปดาห์ละเป็นพัน ถ้ามีเข้ามาก็จะเจอ ดังนั้นวันนี้ยังเป็นระยะแรกของประเทศไทยที่เริ่มมีสายพันธุ์โอมิครอนเข้ามา แต่ไม่ต้องตกใจ ยืนยันสูตรการตรวจหาสายพันธุ์โอมิครอนของกรมวิทยาศาสตร์ฯ สามารถดักเชื้อโอมิครอนได้แน่นอน ถ้าเจอและจำกัดวงของการแพร่ระบาดได้เร็วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ยิ่งสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยขณะนี้เป็นการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ดังนั้นวัคซีนที่ฉีดอยู่ขณะนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าว
ฝรั่งเศสให้วัคซีน 4 แสนโดส
ส่วน พญ.ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมด้านวัคซีนเมื่อเกิดการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนว่า ปัจจุบันวัคซีนทุกชนิดที่ใช้กันทั่วโลกจะช่วยป้องกันการป่วยหนักเสียชีวิตได้ โดยไทยมีผลการศึกษาต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ค. ผลศึกษา 90++ ทุกวัคซีน ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ ซึ่งวัคซีนทุกชนิดยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเวลาผ่านไปภูมิจะตกลงมา ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการกระตุ้นซ้ำอีกครั้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับการเยี่ยมคารวะของนายตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศส พร้อมคณะ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยทั้งสองฝ่ายได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนาน และหารือร่วมกันในการยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในอนาคต
"พล.อ.ประวิตรได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายตีแยรี มาตู ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมขอบคุณฝรั่งเศสที่บริจาควัคซีนให้ไทย 400,000 โดส ซึ่งจะส่งถึงไทยไม่เกินเดือน ม.ค.65 และยินดีที่ฝรั่งเศสให้ความสนใจภูมิภาคเอเชีย โดยกำหนดยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก-ฝรั่งเศส และมุ่งมั่นจัดทำโรดแมปร่วมกัน โดยไทยพร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่อไป" โฆษกรองนายกฯ กล่าว
จ.พิษณุโลก ที่ตลาดสดโคกมะตูม อ.เมืองพิษณุโลก นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่สำนักสาธารณสุขเทศบาลนครพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก ATK เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการภายในตลาดสดโคกมะตูม หลังจากพบผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์ตลาดสดโคกมะตูมจำนวน 12 ราย พร้อมกันนี้ได้สั่งปิดตลาดสดโคกมะตูมเป็นเวลา 3 วัน คือวันที่ 16-18 ธ.ค.
จ.อำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วย ม.3 ต.โนนโพธิ์ อ.เมืองอำนาจเจริญ จำนวน 2 ราย เชื่อมโยงกับการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) งานสังสรรค์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วหลายราย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
สั่งประหารชีวิต ‘แอม ไซยาไนด์’ คุกผัวเก่า-ทนาย
ศาลพิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" วางยาฆ่าก้อย พร้อมชดใช้ 2.3 ล้าน