"ในหลวง-พระราชินี" ทรงห่วงใย พระราชทานตะกร้าสิ่งของมอบแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุกราดยิงในห้างพารากอน "รัฐบาล" ตั้งโต๊ะแถลงแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บเต็มที่ "เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง" ร่วมงานที่พารากอนยืนไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ "นายกฯ" เอาจริงคุย "ผบ.ตร.-มท.1" คุมเข้มอาวุธปืน แก้ กม.ห้ามนำเข้าปืนแบลงก์กัน "ต่อศักดิ์" เร่งปราบขายออนไลน์ป้องกันเข้าถึงง่าย "อนุทิน" สั่งงดออกใบอนุญาตพกปืน จัดระเบียบสนามยิงปืนรัดกุมขึ้น "ตร." แจ้ง 5 ข้อหาเด็ก 14 ผู้ก่อเหตุ ส่งศาลเยาวชนฯ ไต่สวน พบกระทำเป็นภัยร้ายแรงนำตัวควบคุมสถานพินิจฯ ญาติยังไม่ยื่นประกัน
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศโทภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ฯ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เยาวชนใช้อาวุธปืนยิงบุคคลอื่นภายในห้างสรรพสินค้าพารากอน และเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต่างๆ
โดยที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่นางหลี่ ชา (Ms. Li Sha) สัญชาติจีน โดยมีนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรับมอบ จากนั้นเชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ญาติ น.ส.เพ็ญพิวรรณ มิตรธรรมพิทักษ์ และนายวิเชียร วิจิขากี, ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ญาติ น.ส.คำ พูอี (Miss Kham Phuou) สัญชาติลาว, ที่โรงพยาบาลตำรวจ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ น.ส.อัญพัชร์ ทิพย์จิระสกุล
ในการนี้ ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนฯ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับทราบ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ด้วย
การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้บาดเจ็บทั้ง 5 ราย รวมทั้งครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ, น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายอารัญ บุญชัย ปลัดการท่องเที่ยวและกีฬา, น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมหารือเพื่อพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยว
นายจักรพงษ์แถลงว่า จากสถานการณ์ที่มีชาวต่างชาติเสียชีวิตในห้างสรรพสินค้าเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยนายกฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์พูดคุยกับเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ที่พลเมืองได้รับผลกระทบแล้ว ขณะเดียวกันทางกระทรวงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
รัฐบาลแถลงเสียใจสุดซึ้ง
น.ส.สุดาวรรณกล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกท่านกับเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดไม่ว่าจะที่ใดก็ตามในโลกนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 2 ราย รายหนึ่งเป็นชาวจีน และอีกรายหนึ่งเป็นชาวเมียนมา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย คนไทย 3 ราย คนจีนและคนลาว ล่าสุดผู้บาดเจ็บอยู่ในระยะปลอดภัยส่วนหนึ่ง และอีก 1-2 คนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลไทยจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด รวมถึงครอบครัวและญาติของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตที่จะเดินทางมายังไทยด้วย
"เราจะตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจะได้สื่อสารกับทุกท่าน ทุกภาคส่วนเพื่ออัปเดตสถานการณ์ต่างๆ ต่อไป” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬากล่าว
พล.ต.ท.สำราญกล่าวว่า จากการประเมินเหตุการณ์ เข้าลักษณะคลุ้มคลั่งกราดยิง ซึ่งเมื่อเดือน ต.ค.2565 ตร.และห้างเคยซักซ้อมรับมือกับสถานการณ์ลักษณะนี้ไว้แล้ว ถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้ดี และยุติเหตุการณ์ได้เร็ว
ส่วน น.ส.ฐาปนีย์กล่าวว่า หลังจากที่ได้ประชุมแล้ว เราจะดำเนินการใน 3 ส่วน 1.มาตรการด้านความปลอดภัยยกระดับพื้นที่ 2.มาตรการเยียวยาฟื้นฟูจิตใจ อำนวยความสะดวกแก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต และ 3.สื่อสารภาพลักษณ์สร้างความมั่นใจ ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว
ถามถึงมาตรฐานการครอบครองปืน พล.ต.ท.สำราญกล่าวว่า ปืนแบลงก์กันเป็นปืนพลาสติก แต่ได้นำมาเปลี่ยนลำกล้องดัดแปลงให้ใช้ได้ จากนี้เราจะเพิ่มมาตรการในการควบคุม รวมถึงกฎหมายควบคุมอาวุธปืนแบลงก์กัน ซึ่งตัวเดิมๆ ไม่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อมาดัดแปลงภายหลังให้เป็นอาวุธปืนในส่วนนี้จะเพิ่มเติมมาตรการควบคุม รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมวัสดุสิ่งเทียมอาวุธปืนดังกล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐาได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายคำพัน อั่นลาวัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประจำประเทศไทย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนจนทำให้มีผู้บาดเจ็บ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชาวลาวด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้ารับการรักษาตัว
"นายกฯ ได้ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้แจ้งกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งนายกฯ ยังได้ประสานและติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย" แหล่งข่าวระบุ
ต่อมา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ เข้าพบนายกฯ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ทางการจีนเฝ้าติดตามการดำเนินการของฝ่ายไทยหลังเกิดเหตุว่าทำอะไรไปบ้าง และเชื่อมั่นว่าขณะนี้แต่ละประเทศจะมีความพอใจในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี นายกฯ กังวลเรื่องนักท่องเที่ยวและเสียใจกับเหตุการณ์กับผู้ที่ได้รับเสียหายและครอบครัว และสั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องติดตามและดูแลผู้เสียหายตลอดเวลาอย่างดีที่สุด
ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เวลา 10.30 น. นายเศรษฐาเป็นประธานเปิดงาน "SCBX NEXT TECH" เทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมด้วย โดยทางห้างยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เพียงแต่บริเวณจุดเกิดเหตุกราดยิงและจุดที่จับผู้ก่อเหตุยังคงกันพื้นที่ไว้
ก่อนเริ่มต้นงาน น.ส.ชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้อ่านแถลงการณ์ไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนหนึ่งระบุว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนั้นไม่สามารถประเมินค่าได้ สยามพารากอนขอขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่บริษัทและพนักงานของเรา ท่ามกลางวิกฤตกาลนี้ และขอน้อมรับคำแนะนำทั้งปวงเพื่อนำมาพัฒนาและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
จากนั้น นายกฯ น.ส.แพทองธาร และผู้ร่วมงาน ยืนไว้อาลัย 1 นาที
แก้ กม.ห้ามปืนแบลงก์กัน
นายเศรษฐากล่าวถึงอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุหาซื้อได้ง่ายว่า เป็นปัญหาหนึ่งซึ่งได้มีการพูดคุยกับ ผบ.ตร. ในกรณีที่มีการซื้อทางออนไลน์ จะต้องมีการรัดกุมให้มากยิ่งขึ้นในการที่เยาวชนสามารถเข้าถึงการซื้ออาวุธ ตรงนี้น้อมรับ ถือเป็นนโยบายที่จะต้องไปดำเนินการให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นในการให้เข้าถึงการซื้ออาวุธปืนให้ได้ยากมากขึ้น
ต่อมานายเศรษฐาเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือกับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. โดยนายเศรษฐากล่าวว่า มีเรื่องคุย 3 เรื่อง เรื่องแรกคือมาขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ได้ออกปฏิบัติการได้อย่างเฉียบขาดทันควันในแง่ของการจับกุมผู้กระทำความผิด และในเรื่องการที่จะค้นหาญาติของคนจีนที่กระจัดกระจายไปตอนช่วงชุลมุน ซึ่งก็ได้ติดตามมาได้ในเวลา 22.00 น.กว่า ซึ่งตนก็ได้โทร.บอกทูตจีนด้วยว่าเจอแล้ว เพื่อทำให้ทางสถานทูตจีนได้คลายความกังวลว่าเราได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องที่สอง ได้พูดคุยว่าทางตำรวจต้องมีมาตรการในการยกระดับของกฎหมายในการครอบครองปืน หรือความง่ายในการเข้าถึงอาวุธปืน อันนี้ตนต้องขออนุญาตให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลงต่อ และเรื่องที่สาม ได้พูดคุยว่าตอนนี้เป็นหน้าที่ในฐานะที่ตนเป็น รมว.การคลัง ซึ่งดูแลกรมศุลกากร จะต้องเข้มงวดในการนำเข้าปืน ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ถือเป็นช่องโหว่อันหนึ่งที่สามารถนำปืนนอกเข้ามาได้
ส่วน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า นายกฯ ได้กำชับให้ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งที่จริงเราทำกันมาแล้ว สถิติอาชญากรรมทางอาวุธปืนในช่วงก่อนหน้านี้ 2 เดือน ตำรวจก็ได้มีการปิดล้อมตรวจค้นหลายร้อยที่หมาย จับผู้ต้องหาได้กว่า 2,000 คดี ได้ปืนกว่า 900 กระบอก ซึ่งในช่วงที่ตนดูแลงานปราบปราม ยืนยันมีการดำเนินการจับอย่างจริงจัง ไม่ใช่การเมกขึ้นมา แต่ดูจากสถิติที่มีการส่งขึ้นมาปืนที่เป็นปืนจริงแทบจะไม่ได้ถูกนำมาก่อเหตุ แต่สถิติที่เห็นว่าปืนที่นักเรียนมักจะนำมาใช้ในการทะเลาะวิวาทกันเป็นปืนชนิดแบลงก์กัน
"การใช้ปืนแบลงก์กันไม่มีกฎหมายที่จะไปบังคับการนำเข้า ผ่านพิธีทางศุลกากร คนขายแค่ขออนุญาต แต่คนซื้อไม่มีใบอนุญาต นี่คือช่องว่างทางกฎหมาย แล้วก็นำไปดัดแปลง ซึ่งปืนที่ใช้ก่อเหตุเมื่อวานเป็นปืนแบลงก์กัน และนำไปดัดแปลงตาม youtube โดยในขั้นแรกผมได้สั่งการไปที่ บช.สอท. ให้เจาะเว็บไซต์ของกลุ่มพวกนี้ให้ได้ ตั้งเป็นทีมจับกุมเว็บที่ขายปืนเถื่อนทางออนไลน์โดยเฉพาะ โดยมีการสั่งตั้งทันที" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าว
ผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนประเด็นข้อกฎหมาย ได้ประสานกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทำให้ปืนแบลงก์กันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อขายกันได้ ให้ตีว่าเป็นอาวุธยกระดับข้อกฎหมายขึ้นไปเลย เพราะการนำเข้ามาแบบสิ่งเทียมอาวุธปืน ทำให้สิ่งของเหล่านี้หลุดมาในตลาด เราจะไม่ใช่แค่ดำเนินการจับกุม แต่จะเป็นการยกระดับให้มีข้อกฎหมาย ห้ามนำเข้าเลย ให้ถือว่าเป็นปืนจริง ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงกับนายกฯ แล้วว่าจะทำตรงนั้น
ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการควบคุมอาวุธปืนว่า จะหารือกับอธิบดีกรมการปกครอง เพื่อกำหนดนโยบายในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย จะไม่มีการออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนให้กับบุคคลทั่วไป เพราะไม่มีเหตุผลความจำเป็น สำหรับผู้ที่ให้เหตุผลว่าชีวิตอยู่ในอันตราย หากยิ่งอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนจะยิ่งเพิ่มอันตรายมากขึ้น เช่นเดียวกับสนามซ้อมยิงปืน แม้ทุกวันนี้จะมีระเบียบข้อบังคับและกฎหมายในการควบคุมการเข้าไปใช้พื้นที่อยู่แล้ว แต่ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะขณะนี้เป็นเรื่องของการหลีกเลี่ยงกฎหมาย ในขณะที่ผู้คุมกฎระเบียบก็ไม่เคร่งครัดมากพอ
"มาตรการการตรวจสอบและป้องกันการครอบครองอาวุธปืน จะรวมไปถึงปืนดัดแปลงและสิ่งเทียมอาวุธ อย่างปืนบีบีกันสมัยก่อนหาซื้อได้ตามท้องตลาด หากพบว่าสามารถนำไปดัดแปลงได้ก็จะต้องควบคุม อาจไปถึงการจำกัดการซื้อและการเข้าถึง เพราะปืนบีบีกันมีความอันตราย หากยืนในระยะประชิดก็มีอนุภาคทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสได้เช่นกัน ดังนั้นจากนี้อาจจะเปิดให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองปืนบีบีตลอดจนสิ่งเทียมอาวุธอื่นอย่างถูกต้อง" นายอนุทินกล่าว
เร่งทำระบบแจ้งเตือนเหตุ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ในวันที่ 5 ต.ค.เวลา 11.00 น. นายอนุทินจะเป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางจำกัดการออกใบอนุญาตพกปืนแก่บุคคลทั่วไปที่ทำเนียบรัฐบาล
ต่อมาเวลา 16.30 น. นายเศรษฐาเดินทางกลับเข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้หารือกับหลายหน่วยงาน รวมถึงได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายอนุทินเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนที่มีการแพร่หลายอยู่ในประเทศไทย และได้กำชับให้กวดขันมากขึ้น นอกจากนี้ นายกฯ ได้เชิญตัวแทนเอกอัครราชทูตของไทย และตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ มาพูดคุยเพื่อเร่งการเปิดตลาดกับต่างประเทศ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการว่าระบบการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน หรือ Emergence Alert system ต้องรีบทำ โดยเฉพาะในเรื่องของอาวุธปืนจะต้องยกระดับความเข้มงวดให้ครบวงจร ไม่ว่าจะอาวุธเทียมปืน นายกฯ กำชับว่าห้ามปล่อยให้มีการซื้อขายกันโดยง่าย ทุกอย่างจะต้องยากขึ้น รวมถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในสถานที่สำคัญต้องยกระดับมากยิ่งขึ้น
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุว่า เบื้องต้นได้ประสานกับทาง กสทช. พบว่าอยู่ระหว่างการทำเรื่อง cell broadcast ที่ใช้เตือนภัยแบบเจาะจง โดยมีการดำเนินการดังนี้ 1.ทำ command center เพื่อให้ operators รู้ว่าต้องรับคำสั่งจากใคร ส่งอย่างไร ซึ่ง กสทช.จะออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง 2. อัปเดตซอฟต์แวร์ ที่กระจายส่งสัญญาณ ให้ใช้ cell broadcast ได้โดยเร็ว ซึ่งได้สั่งการให้ทีมติดตามเรื่องระบบการแจ้งเตือนภัยแบบเจาะจง โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สามารถติดต่อสื่อสารได้แบบเจาะจงรายบุคคลให้ข้อมูลที่ทันเวลา เพื่อลดผลกระทบความสูญเสีญต่อประชาชน
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2566 เกิดเหตุกราดยิงที่ห้างสยามพารากอน มีคนจีนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย หลังสถานทูตจีนประจำประเทศไทยทราบเหตุการณ์ดังกล่าว สถานทูตจีนเร่งเปิดใช้กลไกฉุกเฉิน ตรวจสอบสถานการณ์ และทำงานร่วมกับฝ่ายไทยเพื่อจัดการเรื่องนี้ โดยส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเร่งไปสถานที่เกิดเหตุทันทีเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ และไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล ขณะนี้ได้ค้นพบข้อมูลประจำตัวของผู้เสียชีวิต และได้ส่งผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในอาการคงที่
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ไปเยี่ยมคนจีนบาดเจ็บที่โรงพยาบาล นายเศรษฐาและนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศไทย ได้โทร.ถึงนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจโดยในนามของรัฐบาลไทย ต่อคนจีนที่เสียชีวิตและแสดงความห่วงใยต่อคนจีนที่บาดเจ็บ โดยเน้นว่าฝ่ายไทยจะสอบสวนและจัดการเหตุการณ์นี้ตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และเสริมสร้างการจัดการความปลอดภัยทางสาธารณะ เพื่อเสนอสภาพแวดล้อมที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยสำหรับคนจีนที่เดินทางมาประเทศไทย
ในส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 กล่าวว่า เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับเยาวชนรายดังกล่าวทั้งหมด 5 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงอยู่ระหว่างสอบสวนว่าผู้ปกครองจะเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยหรือไม่
"ผู้ก่อเหตุยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ปทุมวัน โดยจะต้องเชิญแพทย์ นักจิตวิทยาและอัยการ มาร่วมหารือประเมินสภาพจิตและอารมณ์ของเด็ก เนื่องจากการพูดคุยวานนี้เด็กยังไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมให้การ จากนั้นจะควบคุมตัวเด็กส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อทำการไต่สวน ก่อนจะยื่นคำร้องต่อศาลฝากขัง" พล.ต.ต.นครินทร์กล่าว
ผบก.น.6 กล่าวถึงการตรวจค้นบ้านพักผู้ก่อเหตุว่า พบเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากในบ้านพักของผู้ก่อเหตุ ซึ่งจะแยกดำเนินคดีเป็นอีก 1 คดี
ส่งเด็ก 14 เข้าสถานพินิจฯ
ที่ สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาเข้าร่วมสอบปากคำผู้ก่อเหตุ เนื่องจากยังเป็นเยาวชนชายอายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุยิงกลางห้างพารากอน จากนั้นตำรวจ สน.ปทุมวันควบคุมตัวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไต่สวนเพิ่มเติมกรณีดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจได้มีการแจ้ง 5 ข้อหา
เมื่อถึงศาลเยาวชนฯ พนักงานสอบสวนนำเยาวชนชายอายุ 14 ปี แสดงตัวต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุมตัวหลังถูกจับภายใน 24 ชั่วโมง ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553
โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ดำเนินการตรวจสอบการจับกุมแล้ว มีคำสั่งว่าศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากการสอบผู้ร้องและตรวจเอกสารของผู้ร้องแล้ว เห็นว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดจริง เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมพบผู้ต้องหาในขณะกระทำผิดจึงจับกุมตัว ซึ่งเป็นความผิดซึ่งหน้า การจับเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการปฏิบัติของเจ้าพนักงานตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนที่ขอให้ศาลส่งตัวผู้ต้องหาไปให้แพทย์จิตเวชสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อรักษาจนกว่าผู้ต้องหาจะสามารถต่อสู้คดีได้นั้น พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้นำแพทย์ผู้ทำความเห็นมาให้ศาลได้สอบถามหรือไต่สวนให้ฟังได้ว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตจริง ดังนั้นข้อเท็จจริงจึงยังไม่ยุติว่า ผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตเวช และเนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาอาจเป็นภัยร้ายแรงต่อผู้อื่น จึงเห็นควรส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และให้สถานพินิจฯ ดำเนินการตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ต้องหา ให้หมายควบคุมเว้นแต่มีประกัน
โดยวันนี้ไม่ปรากฏว่าผู้ปกครองยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเยาวชนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวเยาวชนไปยังสถานพินิจฯ ตามคำสั่งศาลแล้ว
นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงพ่อแม่เยาวชนอายุ 14 ปีที่ก่อเหตุว่า ตามกฎหมาย หากเป็นเด็กหรือเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ พ่อแม่ก็ต้องรับผิดด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 429 เว้นแต่พ่อแม่จะพิสูจน์ข้อยกเว้นตามกฎหมายได้ว่าตนเองไม่ได้มีส่วนผิด
"กฎหมายให้ดูพฤติการณ์ของแต่ละเรื่องไป ยกตัวอย่างเช่น ใน 1 คดี มีเด็กทำผิดกฎหมาย 10 คน ศาลอาจจะใช้มาตรการที่ต่างกันไปของทั้ง 10 คนก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และความจำเป็นของเด็กแต่ละคน เหมาะสมแค่ไหน" โฆษกศาลยุติธรรมกล่าว
ที่สถาบันนิติเวชวิทยา น้องสาวและเพื่อนร่วมงาน น.ส.เมา เมจิน อายุ 30 ปี ชาวเมียนมา ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เยาวชน 14 ปีกราดยิงที่ห้างพารากอน เดินทางมาพร้อมกับเอกสารจากสถานทูต เพื่อติดต่อขอรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยของดให้สัมภาษณ์ ขณะที่น้องสาวที่มารับศพสะอื้นร้องไห้ตลอดเวลา ส่วนศพของน.ส.จ้าว จินหนาน อายุ 34 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่พร้อมที่จะมาติดต่อรับศพ เนื่องจากทำใจไม่ได้ และเสียใจอย่างมากที่มีการแชร์ภาพลูกฝาแฝดของหญิงชาวจีนตามหาแม่ ก่อนจะปรากฏเป็นข่าวว่าแม่ของเด็กฝาแฝดคู่นี้คือหญิงชาวจีนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และยิ่งทราบว่ามีผู้สื่อข่าวมารอทำข่าวจึงขอเลื่อนการเข้ารับศพ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างมาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน
‘ทักษิณ-พท.’ยิ้มร่า ศาลยกคำร้องล้มล้างฯ เพื่อไทยเล็งฟ้องเอาคืน
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง