‘บิ๊กต่อ-โจ๊ก’แค่ลิ้นกับฟัน ปัดตั้งทนายไร้เซอร์ไพรส์

นายกฯ เรียก "บิ๊กต่อ" เข้าหารือที่ทำเนียบฯ เผยสไตล์ทำงานแบบมิติใหม่ เน้นคุยวงเล็ก ต้องพร้อมทุกเมื่อ  หวังให้กระตือรือร้น มองปัญหา "โจ๊ก-ต่อ" แค่ลิ้นกับฟัน เตือนอย่ามีข่าวลบ  "บิ๊กต่อ" ร่วมกินข้าวเที่ยงกับรอง ผบ.ตร.กลบข่าวเกาเหลา "โจ๊ก" แจงไม่มีคดีความใดๆ โบ้ยลูกน้อง 8 คนต้องไปสู้ในศาลเอง ยันไม่เคยแต่งตั้งทนาย ขณะที่ผบ.ตร.มอบงานรอง ผบ.ตร. เปิด 10 นโยบายบริหาร 4 นโยบายเน้นหนัก

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 3 ตุลาคม ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ได้เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบนายกฯ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาทีว่า มาพูดคุยเรื่องที่นายกฯ  มอบนโยบายในวันนี้ว่ามีอะไรบ้าง แต่นายกฯ ไม่ได้กำชับอะไร ตนมารายงานนายกฯ ถึงเรื่องที่จะแถลงข่าวมอบนโยบาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รายงานความคืบหน้ากรณีตั้งคณะกรรมการสอบกรณี  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี นายกฯ ก็ไม่ได้ถามอะไรเรื่องนี้ ตนมารายงานนโยบายเร่งด่วนที่จะทำ ซึ่งนายกฯ ก็แฮปปี้ เมื่อถามย้ำว่าปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจบ นายกฯ ก็แฮปปี้ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า “ครับ จบแล้ว”

ด้านนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า   เรื่องการพบปะกับข้าราชการระดับสูง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงินการคลัง  ฝ่ายความมั่นคง จากนี้ต่อไปจะเป็นการทำงานในลักษณะแบบนี้ ไม่จำเป็นจะต้องไปประชุมใหญ่ที่มีองคาพยพขนาดใหญ่ ในลักษณะการประชุมหลาย 10 คน แต่อย่างการมาประชุมวันนี้ ก็ประชุม 3-4 คน หรือ 6 คนเต็มที่ จากนั้นเป็นเรื่องการสั่งการและรับฟังความคิดเห็น

นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการพบปะกันธรรมดา ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในการทำงาน ไม่มีอะไรผิดปกติ เรื่องแบบนี้เราทำกันมาอยู่แล้ว และภาคส่วนอื่นก็ทำเช่นนี้ เพราะถ้าไม่มีการพูดคุยส่วนตัวคิดว่าน่าเป็นห่วงมากกว่า การประชุมต่อไปนี้ไม่ต้องเป็นทางการมาก ไม่ต้องมีการเตรียมงาน แต่จะเป็นการกระตุ้นให้กับทุกคนและตัวตนเองว่าข้อมูลต้องพร้อม ต้องเตรียมตัวให้ดีตลอดเวลา ไม่ต้องไปเตรียมตัว 2-3 วัน บอกเช้ามาบ่ายก็ได้ จึงอยากให้ผู้ร่วมงานทุกคนและหน่วยงานมีความกระตือรือร้น แต่ไม่ต้องซีเรียสมากที่จะมาพูดคุยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการพบกันครั้งนี้ ได้มีการเคลียร์ปัญหาในวงการตำรวจหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าตั้งแต่ช่วงที่มีการแต่งตั้งออกไป ทั้ง ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร.สุรเชษฐ์ก็มีภาพข่าวออกไปแล้วว่ามีการพูดคุยกันในเชิงบวก

 “คนเราอยู่ด้วยกันก็มีลิ้นกับฟันเป็นธรรมดา แต่ผมเชื่อว่าความตั้งใจจริงของทั้งสองท่าน และอาจจะยังมีอีกหลายๆ คู่ที่อาจเป็นคู่กรณีกัน ซึ่งผมไม่ทราบ แต่เรามีนโยบายชัดเจนว่าเรามีภารกิจใหญ่คือความมั่นคงของประเทศ การดูแลทุกข์สุขของประชาชนถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เรื่องส่วนตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องทำงานให้ได้ ต้องไม่มีข่าวเชิงลบ ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชนได้ตลอดเวลา” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯ พร้อมจะห้ามศึกใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าเราไม่ต้องห้าม เรามีการพูดคุยกันอย่างเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่จำเป็นที่ว่าการพูดคุยแล้วจะต้องมีการทะเลาะเบาะแว้ง เราผิดใจกันได้ แล้วก็กลับมาสมานใจกันได้ใหม่ สังคมอยู่ด้วยกันมาจากหลายที่หลายทาง จะให้เห็นตรงกันทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ต้องมีการพูดคุยกันในภาษาที่น่าฟัง ไม่ใช่ไปด้อยค่าซึ่งกันและกัน ต้องไม่มีการดูถูกดูแคลนกัน

ถามว่า ภาพลบที่ออกไปประชาชนอยากให้มีการปฏิรูปตำรวจ นายกฯ  กล่าวว่า ทุกองค์การทุกสถาบัน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การดูแลทุกข์สุขของประชาชน การพัฒนาความสัมพันธ์ มีการแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เชื่อว่าทุกคนตระหนักดี และรู้ว่าอะไรไม่ดีก็ต้องมีการแก้ไข

เมื่อถามว่า ได้มีการสั่งการอะไรพิเศษกับ ผบ.ตร.คนใหม่บ้าง นายกฯ   กล่าวว่า เท่าที่พูดคุยกันวันนี้ได้ขอให้มีการติดตามในเรื่องวีซ่าฟรีคนจีนเข้ามาต้องไม่มีปัญหา เรื่องของการตรวจคนเข้าเมืองต้องอำนวยความสะดวกให้ดี นอกจากนี้ยังได้สั่งการในเรื่องยาเสพติด ก็ได้กำชับกับ ผบ.ตร.คนใหม่ไป และอีก 2-3 วัน ตนจะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่จะไปช่วยดูแลตรงนี้ ซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจที่เพิ่งเกษียณอายุราชการไป

ต่อมาเวลา 12.47 น. ที่ห้องกระจกชั้น 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร. ได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน โดยเมนูที่รับประทานคืออาหารจานเดียวข้าวหน้าไก่ไข่ดาว พร้อมด้วยขนมหวานคือกล้วยบวชชีบัวลอย และผลไม้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการรับประทานอาหารเป็นไปอย่างครึกครื้น  โดยผู้บัญชาการระดับสูงทั้งหมดได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ต่อมาเวลา 12.50 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เดินทางตามมาสมทบ โดยขณะที่เข้ามาถึงได้ยกมือสวัสดีผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่ถูกจัดวางติดกับจาก ผบ.ตร.

มีรายงานว่า การรับประทานอาหารร่วมกันครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้สังคมภายนอกทราบว่าผู้บริหารระดับสูงภายในตร. ไม่ได้มีความขัดแย้งกันเองตามที่เข้าใจ หลังจากที่ก่อนแต่งตั้ง ผบ.ตร. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT พร้อมด้วยหน่วยคอมมานโดอาวุธปืนครบมือเข้าตรวจค้นบ้านพัก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เดินออกจากห้องทำงาน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องเกี่ยวกับคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่า ไม่มีคดีความใดๆ ติดอยู่ แต่คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นคดีของลูกน้องทั้ง 8 คน ซึ่งทั้งหมดจะต้องไปต่อสู้คดีในชั้นศาลเอง ส่วนกรณีของทนายอนันต์ชัยที่บอกว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์นั้น ยืนยันว่าตนยังไม่ได้มีการเซ็นตั้งทนายใดๆ จึงไม่ทราบว่าบิ๊กเซอร์ไพรส์คือเรื่องอะไร และจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่บ้าง ให้ไปถามตัวทนายความเอง ซึ่งทนายอนันต์ชัยเป็นทนายที่เข้ามาแก้ต่างในคดีของลูกน้องทั้ง 8 คน ไม่ใช่คดีของตน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ไปร้องตำรวจบก.ปปป. ให้ดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 157 เนื่องจากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการเอาผิดกับตำรวจทั้ง 8 นาย หรืออาจรู้เห็นกับการกระทำความผิดของตำรวจทั้ง 8 นาย   พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ และให้ไปถามนายอัจฉริยะเอง

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมมอบแนวทางการบริหารงานราชการตำรวจครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้มีวาระสำคัญคือการมอบหมายงานและการกำหนดตำแหน่งหน้าที่ของรอง ผบ.ตร. โดยจำแนกเป็น 6 สายงานหลัก โดยมอบหมายงานให้ 1.พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานบริหารกำกับดูแล สกบ., สกพ., สทส., สงป., สง.ก.ตร., สง.ก.ต.ช., รพ.ตร. (ยกเว้น นต.), บช.ศ., รร.นรต., บช.น. (เฉพาะ ศฝร.บช.น.) ภ.1-9  (เฉพาะ ศฝร.ภ.1-19) บช.ก. (เฉพาะ ศฝร.) บช.ตชด. (เฉพาะ บก.กฝ.), สตม., (เฉพาะ ศฝร.ตม.) สยศ.ตร. (ยกเว้น ผอ.ผก.ผค.) บ.ตร., สท., สลก.ตร., วน. โรงพิมพ์ตำรวจ

2.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม กำกับดูแล บช.น. (ยกเว้น บก.สส., จร. อคฝ. ศฝร.บช.น.) ภ.1-8 (ยกเว้น บก.กค. บก.สส. ศฝร.ภ.1-8) ภ.9 (ยกเว้น ภ.จว.ยล. ปน. นธ. สภ. 4 อำเภอใน จว.สงขลา, บก.กค. บก.สส., บก.สส.จชต., ศฝร.ภ.9 กก.ปพ.) บช.ก. (ยกเว้น บก.ทล., ปพ. ศฝร.) สยศ.ตร. (เฉพาะ ผอ., ผก.) บช.ปส. 3.พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน กำกับดูแลงานสืบสวน บช.น. (เฉพาะ บก.สส.) ภ.1-9 (เฉพาะ บก.สส.) บช.สอท.,สพฐ.ตร., รพ.ตร. (เฉพาะ นต.) 4.พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานกฎหมายและคดี กำกับดูแลสำนักงานกฎหมายและคดี, กมค., ภ.1-9 (เฉพาะ บก.กค.)

5.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กำกับดูแล บช.น. (เฉพาะ บก.จร., บก.อคฝ.) ภ.9 (เฉพาะ ภ.จว.ยะลา., ปน., นธ., สภ. 4 อำเภอ จว.สงขลา, บก.สส.จชต., กก.ปพ.) ศปก.ตร.สน., บช.ก. (เฉพาะ บช.ทท., สตม. (ยกเว้น ศฝร.ตม.), บช.ตชด. (ยกเว้น บก.คฝ.) บช.ส., สยศ.ตร. (เฉพาะ ผค.), ตท., สบร. (ILEA) 6.พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร.รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร. รับผิดชอบ จต.

สำหรับนโยบาย ผบ.ตร.คนที่ 14 มี 10 นโยบายบริหารราชการ 4 นโยบายเน้นหนัก ดังนี้ 1.ปกป้อง เทิดทูน และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 3.ป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4.แก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างเป็นระบบ 5.ให้ความสําคัญกับการพัฒนาสถานีตำรวจให้มีความพร้อมในการดูแลประชาชน 6.พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทั้งความรู้ ทักษะ ยุทธวิธี คุณธรรมจริยธรรม 7.พัฒนาระบบฐานข้อมูลและนำเทคโนโลยี 8.บริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ 9.พัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการ ขวัญกําลังใจ และความสามัคคี 10.เน้นภาวะผู้นำในทุกระดับ ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา

4 นโยบาย เน้นหนักดังนี้ 1.ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว 2.แก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ 3.cyber crimes หรือการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4.การดูแลสวัสดิการ และขวัญกำลังใจของตำรวจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ'ลั่นไขก๊อกก่อนเกษียณเป็นเรื่องอนาคตส่วนเรื่อง 'บิ๊กโจ๊ก' เราอยู่กันแบบพี่น้อง!

'บิ๊กต่อ' ย้ำไม่ได้มีความขัดแย้งกับ 'บิ๊กโจ๊ก' อยู่กันแบบพี่น้อง เผยการออกจากราชการก่อนเกษียณเป็นเรื่องของอนาคต

'เศรษฐา' ชวนคนไทยเชียร์ตัวแทนทีมชาติไทยในโอลิมปิกปารีส 2024

นายกฯ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งที่ 33 วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้ เชิญชวนคนไทยร่วมเชียร์และรับชมถ่ายทอดสด