ชัยธวัชโยนอารมณ์ค้าง

"หมอพรทิพย์" กลับถึงไทยแล้ว เผยใช้ธรรมะจัดการ "ด้อมส้ม" ไล่ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ รับผิดพลาดถ่ายภาพบนลาวามอสไม่ได้ศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจน "3 ส.ว." โดดป้อง ซัดกลับทำรุนแรงเกินเหตุ ดิบเถื่อน หยาบคายต่ำชั้น สร้างความแตกแยก แนะเห็นต่างได้แต่ไม่ควรละเมิดสิทธิ หัวหน้าพรรค ก.ก.อ้างสะท้อนความโกรธตอนเลือกนายกฯ ที่ไม่เคารพเสียง ปชช.  "โรม" ไปไกลอาจมีขบวนการดิสเครดิต ก.ก.

เมื่อวันอาทิตย์ ยังมีความเห็นต่อเนื่องจากกรณี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่เดินทางไปเที่ยวไอซ์แลนด์ ถูกพนักงานซึ่งเป็นคนไทยไล่ออกจากร้านอาหาร อีกทั้งปรากฏภาพเข้าไปนอนถ่ายภาพทับ Lava Moss หญ้าอนุรักษ์ ทั้งที่มีป้ายเตือน ต่อมาภายหลัง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ได้ลบภาพดังกล่าวออกไปจากโซเชียลมีเดียของตัวเองแล้ว แต่ยังมีชาวเน็ตสามารถแคปเจอร์ภาพดังกล่าวไว้ได้ทัน

ภายหลัง พญ.คุณหญิงพรทิพย์กลับถึงประเทศไทย ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กลับถึงไทยแล้ว ขออนุญาตเรียนตามที่บอกไว้เรื่องทริปนี้  ส่วนเรื่องการถูกไล่ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ ได้เป็นบททดสอบธรรมะในตน ทันทีที่ทราบว่าเขาเกลียดมากจนชี้หน้าด่า หมอกลับรู้สึกเฉย และมองไปข้างหลังและข้างหน้าของเขาที่จะเป็นเช่นไร ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำแนะนำ แต่ขออนุญาตเลือกที่จะใช้ธรรมะจัดการมากกว่าใช้กฎหมายจัดการ

"ส่วนเรื่องการถ่ายภาพบนลาวามอสนั้น ถือเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจน ในบริเวณที่ลงถ่ายไม่มีป้าย จึงทำไม่ถูกระเบียบ แจ้งมาเพื่อให้รู้ว่าหมอผิดพลาดเอง และแก้ไขทันทีที่ทราบ จึงลบออกตั้งแต่ยังไม่กลับมา แต่ก็ไม่ทันสำหรับคนที่เกลียดชังนำไปขยายผล ขอบคุณอีกครั้ง"

นายวันชัย สอนศิริ สว. กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นเรื่องรุนแรง ไม่พึงจะเกิดขึ้นกับคนไทยไม่ว่าจะเป็นใคร จะเป็น สว.หรือไม่เป็นก็ตาม ซึ่งการมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ต่างกันไม่ควรแสดงความขัดแย้งต่อกัน เพราะจะย้อนถอยกลับไปอยู่ในวังวนของสีเหลืองและสีแดงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งประเทศไทยขณะนี้ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เข้าใจว่าคนที่อยู่ต่างประเทศคงตกยุคข่าวสารในประเทศไทย และฝังใจในตอนเลือกนายกรัฐมนตรี แม้แต่คนไทยในขณะนี้ไม่ได้มีความขัดแย้ง การประณามหยามเหยียด หรือขับไล่ ฉะนั้นถือว่าคนที่กระทำเหตุการณ์เช่นนี้ ตกยุค ตกข่าว ก่อให้เกิดความขัดแย้งและแตกแยก เป็นการกระทำที่ดิบและเถื่อนเกินไป

เมื่อถามว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วทาง สว.จะรับมืออย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก ไม่เฉพาะแค่ต่างประเทศ รวมถึงภายในประเทศไทยด้วย นายวันชัยกล่าวว่า ไม่เฉพาะแค่ สว. แต่รวมถึงประชาชนไทยที่ไม่ควรสนับสนุนการกระทำนี้ และควรประณามด้วยซ้ำ เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ทำให้คนไทยแตกแยก ไม่ควรยกย่อง การกระทำเช่นนี้เป็นการถอยหลังเข้าคลอง จะชอบหรือไม่ควรเก็บไว้ในใจ

"ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ประณามการกระทำดังกล่าว แม้ในวันโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกผมเองจะโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ ขอเรียกร้องให้คนไทยลุกขึ้นมาต่อต้านการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้น" นายวันชัยกล่าว

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวว่า ไม่ว่าจะเห็นต่างทางการเมืองกันอย่างไร การแสดงออกที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงคิดว่าไม่ควรทำ รวมทั้งคนที่อ้างว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแล้วมองคนอื่นเป็นฝ่ายเผด็จการ คิดว่าถ้าเป็นประชาธิปไตยจริงจะไม่เกิดการกระทำหยาบคายแบบนี้เด็ดขาด

เมื่อถามว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ทาง สว.จะรับมืออย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็มีความคิดที่จะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศจากประเทศที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คงจะแสดงความคิดเห็นในฐานะที่พวกเราเป็น สว.เป็นตัวแทนของประเทศไทย ควรได้รับการต้อนรับตามสมควร ควรให้เกียรติ ส่วนเรื่องจะชอบส่วนตัวหรือไม่ให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

นายสมชาย แสวงการ สว. อดีตผู้อำนวยการร่วมด้วยช่วยกัน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยรู้จักคุณหญิงหมอพรทิพย์เป็นการส่วนตัวมาก่อน เพิ่งพบเจอกันครั้งแรกเมื่อช่วงเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 คุณหญิงหมอพรทิพย์ลงไปลุยทำงานสึนามิ ระดมสรรพกำลังช่วยตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์ ศพนิรนามทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมากมาย หลายพันศพคนยุโรปและทั่วโลกนับถือคุณหมอ ซึ่งเป็นทั้งญาติผู้สูญหายและในระดับรัฐบาลขอบคุณและชื่นชมในความทุ่มเทเสียสละของคุณหญิงหมออย่างยิ่ง ผมจำเหตุการณ์สึนามิในครั้งนั้นได้ดี เพราะเป็นผู้นำทีมร่วมด้วยช่วยกันลงไปร่วมช่วยผู้ประสบภัย ค้นหาศพ และร่วมสร้างบ้านน็อกดาวน์ ฯลฯ จึงได้พบและรู้จักกับคุณหมอครั้งแรกที่นั่น ที่วัดย่านยาว

"วันนี้เห็นสิ่งที่คุณหมอเสียสละทำงานเพื่อประเทศชาติและโลกแล้ว ถูกกระทำเช่นนี้แล้ว รับไม่ได้ครับ เพราะเทียบชั้นกันไม่ได้เลยกับเด็กทำครัวคนหนึ่งที่ไอซ์แลนด์ ไม่เคยสร้างผลงานใดๆ ให้ประเทศชาติ กลับมีพฤติกรรมต่ำๆ  ออกมาในคลิปที่คุกคามขับไล่ออกจากร้าน ด้วยความคลั่งไคล้การเมืองสุดโต่งแบบนั้น ส่วนตัวผมถือว่าหยาบคาย ต่ำชั้นมากครับ เพราะถ้านับคุณค่าคนกันแล้ว คนละระดับ คนละโลกกันเลย" นายสมชายระบุ

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลไกล (ก.ก.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  สะท้อนความรู้สึกโกรธของประชาชนจำนวนไม่น้อยที่มีต่อบทบาทของ สว. ในการเลือกนายกฯ ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีประชาชนที่ไม่พอใจ เพราะเขารู้สึกว่าเสียงของประชาชนผ่านการเลือกตั้งไม่มีความหมาย นี่ก็เป็นพื้นฐานที่เข้าใจได้ ซึ่งมันแยกเรื่องบทบาทของ สว. กับเรื่องนี้ไม่ออก แต่เราไม่อยากเห็นการเลือกปฏิบัติจากความคิดที่แตกต่างกันในทางการเมือง ทางออกคือต้องมีการแก้ไขกฎกติกาทางการเมืองเพื่อไม่ให้มีใครจะมาใช้อำนาจได้เหนือกว่าเสียงของประชาชนได้

เมื่อถามว่า มีการแชร์ภาพชายคนที่ไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เหมือนจะเป็นกองเชียร์แฟนคลับพรรค ก.ก. ส่วนนายสมชาย แสวงการ สว.จี้ให้เช็กให้ชัดว่าเป็นสมาชิกพรรค ก.ก.หรือไม่ ถ้าใช่ควรขับออกจากการเป็นสมาชิก กรณีนี้พรรคก.ก.จะตรวจสอบอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ผู้ที่เลือกพรรค ก.ก.มี 14 ล้านคน มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกันหมด แต่แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดร่วมคือประชาชนที่เขาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและเลือกพรรค ก.ก.มาอันดับหนึ่งย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดากับบทบาทของ สว. แม้ว่าเราจะไม่ได้สนับสนุนให้มีการเลือกปฏิบัติจากจุดยืนในทางการเมือง แต่ สว.ก็ต้องตระหนักว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องความคิดเห็นต่างกันทางการเมือง แต่มันเป็นความไม่ไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อบทบาทของ สว. ที่เขารู้สึกว่าไม่เคารพเสียงของพวกเขา

"คิดว่าต้องทบทวนกันทุกฝ่าย ปรากฏการณ์แบบนี้เเม้อาจจะไม่อยากเห็น แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ มันจะเกิดขึ้นมา มันมีที่มาที่ไป ต้องไม่พิจารณาแยกจากกันไม่ว่าจะเป็นประชาชนฝั่งไหน เราก็ไม่สนับสนุน แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของการปฏิบัติต่อคนที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง แต่มันเชื่อมโยงกับบทบาทของ สว.ที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าไม่เคารพเสียงของเขาผ่านการเลือกตั้ง" นายชัยธวัชกล่าว         

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. กล่าวว่า ถ้ายืนอยู่บนสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ก็คงไม่มีใครอยากถูกไล่เวลาไปที่ไหน ไม่มีใครชอบที่จะโดนกระทำ แต่อีกด้านตนก็เข้าใจความรู้สึกโกรธของประชาชนที่มีต่อการกระทำของ สว. ที่มีการใช้เงินภาษีของประชาชน แต่กลับไม่ได้แสดงออก หรือเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นตามเจตนารมณ์ของประชาชน สุดท้ายคิดว่าต้องหาจุดสมดุลให้ได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศไอซ์แลนด์ หากมีข้อสุ่มเสี่ยงทางกฎหมายก็ต้องรับผลตามกระบวนการ แต่อีกด้านก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าการที่นักการเมืองแสดงออกโดยไม่เคารพเสียงประชาชน ก็มีราคาที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงกลุ่มคนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้อีก  นายรังสิมันต์กล่าวว่า การพูดคุยด้วยเหตุผลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่สร้างความยอมรับได้มากกว่า ต้องฝากถึงนักการเมืองว่าเราก็มีบทเรียนเช่นกันว่าต้องเคารพเสียงของประชาชนด้วย เป็นบทเรียนของทุกฝ่าย อย่างฝ่ายที่แสดงออกด้วยท่าทีที่โมโหต่อ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เขาก็โดนวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วย

"เข้าใจว่ามีกระบวนการดิสเครดิตทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มที่ไปต่อว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โดยกล่าวหาว่า นี่ไงด้อมส้มเป็นอย่างนี้ บ้างก็โยงมาถึงพรรคก้าวไกล ทั้งที่พรรคไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ กระบวนการดิสเครดิตนี้เป็นการทำให้สังคมยิ่งไปสู่ความขัดแย้ง ให้ร้าวลึกมากขึ้น"  นายรังสิมันต์กล่าว

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ทุกคนสามารถมีสิทธิเดินทางไปทั่วโลก เป็นสิทธิเสรีภาพสากล ส่วนกรณีที่เกิดเหตุที่นั่น ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอารมณ์ความรู้สึกอะไรหรือไม่ ที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2566 คนเราต้องมีเหตุผล ไม่ใช่ใช้อารมณ์ ตาต่อตา ฟันต่อฟันมาใช้ลักษณะนี้ ความคิดเห็นทางการเมืองของแต่ละคนอาจไม่ตรงกัน แต่การแสดงออกลักษณะนี้ไม่เหมาะสม ซึ่งทางไอซ์แลนด์ก็มีกฎหมายที่เข้มข้น อาจสามารถส่งบุคคลนี้กลับประเทศได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในยุคที่เป็นประชาธิปไตย ในยุคที่โลกมีเทคโนโลยีสูง น่าจะมีเหตุผลสูงกว่านี้ ไม่ใช่นำอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในสังคมประชาธิปไตย คำว่าประชาธิปไตยหัวใจคือการเคารพในความแตกต่างทางความคิด หากคุณคิดอย่างหนึ่ง อีกคนคิดอย่างหนึ่ง ต่างคนต่างว่ากันไป นั่นคือประชาธิปไตย แต่ถ้าหากว่าคุณคิดต่างกันแล้วนำความคิดนั้นไปบูลลี่หรือไปแสดงจริยามารยาทอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่เหมาะสมกับบุคคลอื่นนั้น คุณไม่ต่างอะไรกับเผด็จการเลย

"ในกรณีที่เกิดขึ้นเป็นผู้ประกอบกิจการร้านอาหารกับลูกค้า ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ ก็ควรจะมีจิตใจที่มีเซอร์วิสมายด์มากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง ควรศึกษาแนวทางประชาธิปไตยของประเทศนั้น แล้วใช้เป็นแนวทางในการทำงานจะดีกว่า  เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาอย่างที่เห็น ก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อใคร และไม่รู้ด้วยว่าจะมีมาตรการทางกฎหมายใดตามมาด้วยหรือไม่" นายวราวุธกล่าว.