พท.พาเหรดเชียร์อุ๊งอิ๊ง ดาวฤกษ์นำพรรคเจริญ

เพื่อไทยพาเหรดเชียร์   “อุ๊งอิ๊ง” นั่งหัวหน้าพรรคสุดลิ่ม “อดิศร”   ยันสมาชิกหนุน 100% อนุสรณ์อวยเป็นดาวฤกษ์ที่พาพรรคทะยานเป็นสถาบันการเมือง หญิงหน่อยแนะใช้โมเดล ทสท.แก้รัฐธรรมนูญจบแน่ปี 67

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.)     ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สส.พรรค พท.สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า น.ส.แพทองธารเป็นที่ยอมรับในบรรดาสมาชิกพรรค 100% จากการทำงานเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และการลงพื้นที่รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา ได้แสดงถึงศักยภาพของ น.ส.แพทองธารในทุกด้าน

“ยินดีที่ น.ส.แพทองธารจะได้ก้าวขึ้นไปสู่หัวหน้าพรรค เพราะเป็นคนทั้งเข้าใจและเป็นคนของยุคสมัย เพราะคนรุ่นผมก็รู้สึกว่าแก่เกินไป ซึ่งเป็นจังหวะโอกาสที่จะได้นำประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ซึ่งจะนำพาพรรค พท.ได้อย่างแน่นอน ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ น.ส.แพทองธาร” นายอดิศรกล่าว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวเช่นกันว่า การประชุมวิสามัญพรรคในวันที่ 27 ต.ค. จะเป็นการประชุมวิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่แทนชุดเดิมที่ลาออกไป ซึ่งกระแสข่าว น.ส.แพทองธารจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค พท.คนใหม่นั้น เชื่อมั่นว่าหาก น.ส.แพทองธารได้เป็นหัวหน้าพรรคจริง ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก จะสามารถถือธงนำพาพรรคเพื่อไทยไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้

“น.ส.แพทองธารเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถ เข้าใจบริบทการเมืองอย่างทะลุปรุโปร่ง เป็นบุคลากรทางการเมืองที่ทุกคนเชื่อมั่น ไว้วางใจให้ขึ้นมานำพรรค นำพาพรรคเพื่อไทยพุ่งทะยานไปข้างหน้า เพิ่มแรงสนับสนุนให้ สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนมีพลังในการทำงาน ทั้งงานระดับชาติและระดับพื้นที่ การได้คนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคในสถานการณ์นี้ จะยิ่งสอดประสานการทำงานให้เป็นปึกแผ่น  เป็นเอกภาพ ตรงสเปกการทำงานการเมืองในยุคดิจิทัล” นายอนุสรณ์กล่าว และว่า น.ส.แพทองธารถือเป็นดาวฤกษ์ มีแสงในตัวเอง เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่  ในยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม นำพาพรรคเพื่อไทยพุ่งทะยานไปข้างหน้า วางเป้าหมายการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า ไม่มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น และใช้เวลานานมาก ทั้งๆ ที่เมื่อตอนเป็นฝ่ายค้านต้องการแก้ไขตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป รวมถึงการแก้รายประเด็นเพื่อตัดอำนาจ สว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรค ทสท.เองได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ใจความสำคัญคือ ให้เลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร.เป็นผู้มาเขียนรัฐธรรมนูญ โดยไม่แก้หมวด 1 และ 2 เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง โดยมุ่งแก้ไขในส่วนที่กระทบถึงประชาชนและขจัดการสืบทอดอำนาจ

“ทสท.ได้เสนอร่างแก้ไขไปแล้ว ตรงนี้เราชัดเจน โดยวิธีการของเราคือไม่ต้องไปทำประชามติถามประชาชนก่อน เพราะไม่ใช่เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ประชาชนเสียโอกาสมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้ถ้าร่วมมือกันก็จะแก้ไขได้เสร็จภายในปี 2567 ดร.โภคิน พลกุล ซึ่งถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ท่านได้ร่างเอาไว้ สามารถทำได้ทันที” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว และว่า ถ้าจริงใจให้ใช้วิธีนี้ ไม่ต้องเสียเงินไปทำประชามติก่อน และไม่เกิดความขัดแย้ง เพราะไม่ได้แก้หมวด 1 และ 2 อยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจ อย่าไปซื้อเวลาด้วยการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่จะทำให้เสียเงิน และยิ่งสร้างความขัดแย้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง