ชงรบ.แก้วิกฤตตำรวจ สภาถกเดือด!จี้กล้าปฏิรูป เสี่ยนิดชี้ตั้งผบ.ตร.ถูกกม.

"เศรษฐา" บอกสบายใจตั้ง "ผบ.ตร.คนใหม่" เรียบร้อย ยันทำถูก กม. ให้ความเป็นธรรมแคนดิเดตทุกคน "ต่อศักดิ์" ปัดสัมภาษณ์ "เอก" แจงโหวตค้านเหตุไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมาย  "โรม” โวยนายกฯ ไม่นัดวันตอบกระทู้ปมตั้ง ผบ.ตร. “วันนอร์” แจงติดภารกิจเยือนกัมพูชา สภาชงข้อเสนอส่ง รบ.แก้ปัญหาตำรวจ "บิ๊กเด่น" เปิดเก้าอี้ สวป.-รอง สวป.ชุมชนสัมพันธ์ 1,938 ตำแหน่ง พบบัญชีม้าเว็บพนันลูกน้อง "บิ๊กโจ๊ก" โยงนักข่าว 7 คน 1 สมาคม จ่อเรียกสอบในฐานะพยาน

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6)  วันที่ 28 ก.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ว่า ขอให้คอย ให้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน ซึ่งเมื่อภารกิจทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้วก็มีความสบายใจ

ถามว่า เหตุใดถึงไม่รอผลสอบเนื่องจากมีคดีที่เกี่ยวข้องและมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการกลั่นแกล้งกัน นายเศรษฐากล่าวว่า อันนี้ขอให้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน และถ้าจบแล้วก็จะมีคณะกรรมการ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นผู้แถลงเอง เมื่อถามย้ำว่าในเรื่องของข้อกฎหมายได้ดูเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรียบร้อย

ซักถึงกรณี 1 เสียงของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เห็นค้าน  นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการไม่เหมาะสมที่จะนำออกมาพูด เมื่อถามว่าที่นายกฯ งดออกเสียง เป็นเพราะกังวลเรื่องข้อกฎหมายใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ ไม่มีความกังวล ทำด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์ ไม่ได้ลุแก่อำนาจ และได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางในที่ประชุม เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้พูด และให้ความเป็นธรรมกับแคนดิเดตทุกคน

ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า เหตุผลอะไรที่นายกฯ เสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล  เป็นว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ โดยนายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ซึ่งเดินทางมาส่งนายกฯ ที่สนามบินกองบิน 6 ปฏิเสธจะกล่าวถึงการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ว่า ขอเรื่องแต่งตั้งเอาไว้ก่อน ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ  เมื่อถามว่าสบายใจขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีเรื่องกังวลอะไรเลย

ด้าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า  ผลการประชุม ก.ตร.มีมติเสียงข้างมาก (9 ต่อ 1 งดออกเสียง 2) เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.คนต่อไป ตนได้ทำหน้าที่ด้วยการอภิปรายแสดงความคิดเห็นถึงบริบทกฎหมายการแต่งตั้งตำรวจ เริ่มตั้งแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ปรับปรุงกฎหมายบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ มีหลักประกันว่าตำรวจจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อิสสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด

พล.ต.อ.เอกระบุว่า พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 (ฉบับปฏิรูปตำรวจ) ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ โดยระบุเหตุผลและความจำเป็นเพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีมาตรการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ การแต่งตั้งคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถ ให้ความสำคัญของอาวุโสในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับ กฎหมายตำรวจฉบับนี้มีบทบัญญัติในหลายมาตรา ( ม.60 ม.87 ม.88 ม.150) ที่ทำให้เห็นเจตนารมณ์ของกฎหมาย มุ่งเน้นในเรื่องระบบคุณธรรม และการคุ้มครองระบบคุณธรรม ตลอดจนกำหนดโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา

'เอก' แจ้งค้านตั้ง 'ต่อศักดิ์'

"ผมได้โหวตไม่เห็นด้วยเป็นเสียงข้างน้อย ด้วยเหตุผลที่ได้ขอบันทึกไว้ในรายงานการประชุมว่า การคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่เป็นหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ผมขอยืนยันได้แสดงความคิดเห็นด้วยบริสุทธิ์ใจ ใช้วิจารณญาณและดุลพินิจ ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด เพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจและประเทศชาติบ้านเมือง" พล.ต.อ.เอกระบุ

ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ได้เสนอญัตติด่วนเกี่ยวกับความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า จากที่ได้ติดตามข่าว ก็ไม่สบายใจที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ระบุถ้าเปิดข้อมูลออกมาจะตายกันหมดทั้ง สตช. ซึ่งในความขัดแย้งเช่นนี้ควรเสนอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพราะ กมธ.สามัญยังไม่ปรากฏเป็นรูปเป็นร่าง เรื่องของตำรวจควรมีการพูดคุยในสภา แม้จะมีการตั้ง ผบ.ตร.ไปเรียบร้อย แต่เรื่องความขัดแย้งเปรียบเหมือนภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่ใต้ดิน

"เรื่องที่ตำรวจแบ่งออกเป็นก๊กเป็นเหล่า ต้องกล้าปฏิรูปตำรวจ เมื่อองค์กรเดินไม่ได้ ประชาชนเป็นผู้รับกรรม เชื่อว่าญัตตินี้ไม่ใช่ของฝ่ายใด แต่เป็นของทั้งสภาที่เห็นความสำคัญ จะมาทำเล่นๆ ไม่ได้ เพราะอยู่ในสายตาของประชาชน หากมีการตั้ง กมธ.วิสามัญ ก็จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนทั้งหมด เพราะถ้าความขัดแย้งของตำรวจแก้ไม่ได้ พนันออนไลน์ก็แก้ไม่ได้ ผมได้ยินมาแบบนั้น จริงหรือเปล่าต้องไปถามตำรวจ ก็ต้องฝากไปถึง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่จะต้องทำงานอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่าท่านเติบโตมาจากสายปราบปราม วันแรกก็จับยาบ้า เฮโรอีนเลย ตอน 23.00 น. เมื่อคืนนี้” ประธานวิปรัฐบาลระบุ

เวลา 11.25 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร. แต่นายวันมูหะมัดนอร์แจ้งว่า นายกฯ ไม่สามารถมาตอบได้ เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ได้รับหนังสือแจ้งว่านายกฯ เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เข้าใจได้ว่าท่านมีภารกิจล่วงหน้า แต่ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 151 กำหนดว่าการที่ไม่มาตอบกระทู้ จะต้องบอกต่อสภาว่าจะมาตอบเมื่อไหร่ แต่นายกฯ ไม่ได้ระบุรายละเอียดดังกล่าว ถือว่าผิดข้อบังคับข้อที่ 151 อย่างชัดเจน ตนต้องการคำอธิบายว่าเหตุใดหนังสือที่ได้รับจึงไม่มีการลงรายละเอียด

"เมื่อวันที่ 27 ก.ย. มีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. เรายังไม่ทราบถึงเหตุผล หลักเกณฑ์ ในการแต่งตั้งว่าเป็นอย่างไร เรื่องที่ผมถามจึงมีความจำเป็นเร่งด่วน แม้ว่าเรื่องของตำรวจจะไม่มีกระทรวงอื่นๆ ดูแลเป็นการเฉพาะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นในสังคม ดังนั้นนายกฯ ควรจะคาดหมายได้อยู่แล้วว่าจะถูกถามในที่ประชุมสภาวันนี้ จึงควรมอบหมายให้รัฐมนตรีบางท่านมาตอบคำถาม เพื่อให้ประชาชนสบายใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับองค์กรตำรวจ แต่นายกฯ ไม่มาตอบ และไม่บอกว่าจะมาตอบเมื่อไหร่ แสดงให้เห็นว่าท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาของตำรวจ" นายรังสิมันต์กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่า  เจตนารมณ์ของกระทู้ถามสดคือต้องการให้มีการถามและตอบแบบทันท่วงที ตนไม่อยากให้รัฐบาลผิดเจตนารมณ์ของข้อบังคับ จึงจะประสานไปยังรัฐบาลว่าช่วงกระทู้ถามสดหรือกระทู้อื่นๆ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ภารกิจอื่นหากไม่จำเป็นควรต้องมาตอบกระทู้ที่สภา แต่วันนี้เข้าใจได้เพราะนายกฯ มีการกิจอย่างเป็นทางการ แต่ภาวะปกติจะต้องมาตอบ เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หากเลื่อนไปจะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และไม่ใช่เรื่องสด

"ผมจะประสานรัฐบาลและวิปรัฐบาล หากนายกฯ ไม่มาตอบคำถามในครั้งถัดไป ผมจะให้นายรังสิมันต์ถามโดยไม่ต้องมีผู้ตอบ แต่ครั้งนี้ต้องขอให้เข้าใจจริงๆ  เพราะนายกฯ เดินทางไปจริง มีกำหนดการล่วงหน้าชัดเจน" ประธานสภาฯ กล่าว

สภาชง รบ.แก้ปัญหา ตร.

นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เชื่อมั่นและได้พูดคุยกับนายกฯ ท่านอยากจะมาที่สภาแห่งนี้ ตนจะรับปากแทนท่านก็ไม่ได้ แต่ท่านอยากจะให้ความสำคัญกับกระทู้ถามสดทุกกรณี รวมถึงรัฐมนตรีทุกคนด้วย

ต่อมาเวลา 15.00 น. ระหว่างที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานการประชุมสภา  นายอดิศรและนายรังสิมันต์เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องการแก้ไขความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจ เพื่อเสนอความคิดเห็นของ สส.ไปยังรัฐบาล

นายอดิศรเสนอญัตติว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนว่าเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นจะทำอย่างไร ตนติดใจนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่าถ้าเปิดข้อมูลตายทั้ง สตช. รู้สึกตกใจและรับไม่ได้ จึงอยากให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์สนใจและขยายผลเรื่องนี้ว่าสิ่งที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่พูดคือเรื่องอะไร ฝากเป็นผลงานของ ผบ.ตร. และเห็นว่าในองค์กรของท่านไม่มีความสามัคคีจะทำให้ประชาชนทำใจยาก ไม่รู้จะปฏิรูปตำรวจทำไม ถ้าองค์กรตำรวจยังมีปัญหาเกิดขึ้นแบบนี้

ส่วนนายรังสิมันต์เสนอญัตติว่า จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายราย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานตำรวจ โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ รวมถึงยังขาดความเชื่อมั่นการแต่งตั้งโยกย้ายภายใน สตช. เหตุการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นในช่วงที่จะมีการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ทำให้ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอาจเป็นการทำไปเพื่อช่วงชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.ระหว่างคนในวงการตำรวจด้วยกันเอง และอาจถูกมองว่าเป็นการตัดตอนตำรวจที่ทำคดีกำนันนกให้ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ มีนักข่าวสัมภาษณ์นายกฯ เรื่องการสังคายนาตำรวจ ซึ่งนายกฯ ก็ตอบว่าอย่าไปใช้คำว่าสังคายนา เพราะเป็นการทำลายเกียรติของตำรวจ นั่นแสดงให้เห็นว่านายกฯ ไม่ได้มีความจริงใจที่จะปฏิรูปตำรวจใช่หรือไม่

"ทราบดีว่าการปฏิรูปตำรวจนั้นไม่ง่าย เพราะมีเรื่องของตั๋วช้าง หรือคนของท่านเองเป็นตัวประกัน แม้จะได้เป็นตั๋วแมมมอธ แต่แมมมอธก็สูญพันธุ์ได้ วันนี้จึงเป็นตัวประกันว่าจะทำอะไรก็ยากลำบาก แต่หากท่านไม่ลงมือทำอะไรเลย องค์กรตำรวจก็จะอยู่ในสภาพนี้ต่อไป ทั้งนี้สิ่งที่ตนต้องการมีเพียงข้อเดียวที่เป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปตำรวจ คือนายกรัฐมนตรีต้องมีความกล้าหาญ กล้าที่จะทำ กล้าที่จะปฏิรูปให้ตำรวจดีๆ มีที่ยืนอยู่บ้าง ถ้าท่านมีหัวใจที่กล้าหาญ" นายรังสิมันต์กล่าว

สส.พรรคก้าวไกลรายนี้ระบุว่า  กระดุม 5 เม็ดที่จะอภิปรายจะเป็นไกด์ไลน์ให้กับนายกฯ กระดุมเม็ดแรก ต้องทำให้การเลือก ผบ.ตร.เป็นการเลือกด้วยความสามารถ มีเหตุผล เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของวงการตำรวจและประชาชน, กระดุมเม็ดที่ 2 คือต้องแก้ไขพ.ร.บ.ตำรวจใหม่ ด้วยการกระจายอำนาจตำรวจเพื่อให้จังหวัดและประชาชนในจังหวัดนั้นได้เข้ามามีบทบาทต่างๆ, กระดุมเม็ดที่ 3 นายกฯ ต้องอย่าทำให้ตำรวจหิว เราควรมาคุยกันได้แล้วว่าเงินเดือนที่เหมาะสมของทุกตำแหน่งคือเท่าไหร่, กระดุมเม็ดที่ 4 รัฐบาลควรส่งเสริมให้ตำรวจชั้นประทวนมีโอกาสเติบโตให้มากขึ้น, กระดุมเม็ดที่ 5 รัฐบาลต้องเลิกสิ่งที่ไม่จำเป็นทั้งหลายที่ตำรวจต้องทำ เช่น โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช เป็นต้น รวมถึงการยกเลิกบังคับทรงผมที่เป็นอยู่ในขณะนี้ นี่คือการเคารพต่อหัวของเขาอย่างที่สุด

เวลา 16.25 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. อภิปรายว่า การแก้ไขปัญหาของตำรวจนอกจากการปฏิรูปแล้ว ควรแก้ไขเรื่องต่างๆ ทั้งเสรีภาพของสื่อมวลชน กฎหมายบางฉบับที่ตำรวจใช้ในการรีดไถ ทบทวนโทษที่ไม่สมสัดส่วน การกระจายอำนาจ ความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล ปกป้องผู้ให้เบาะแส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมได้ข้อสรุปทำเป็นรายงานรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา เพื่อส่งให้รัฐบาลนำไปประกอบการพิจารณาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กรตำรวจต่อไป

เด่นทิ้งทวนเปิด สวป.ชุมชน

ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ชี้แจงกรณีนายรังสิมันต์ตำหนินายกฯ หนีตอบกระทู้ถามสดกรณีปัญหาเกี่ยวกับตำรวจว่า  การตั้งกระทู้ถามสดเป็นเรื่องปัจจุบันทันด่วน ซึ่งตนในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานกับสภา กว่าจะรู้เรื่องก็ประมาณ 9 โมงและได้ประสานกลับไปว่านายกฯ ไม่อยู่ เนื่องจากติดภารกิจต่างประเทศ

ถามว่า มองว่าพรรค ก.ก.ใจร้อนหรือเล่นการเมืองเร็วไปหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา จะเล่นหรือไม่เล่น แต่ก้าวไกลก็ทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบสอบถาม ก็ถือเป็นหน้าที่เราเข้าใจและก็อยากให้พรรค ก.ก.เข้าใจเหมือนกัน เพราะท่านก็รู้อยู่แล้วว่านายกฯ ไปกัมพูชา เพราะข่าวออกไปทั่ว แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของใคร มันก็คลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยในการประสานงาน ก็เท่านั้นเอง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ ติดภารกิจเยือนกัมพูชา แต่ก็ยังหาเรื่องตั้งกระทู้ถามสดในสภา ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์อะไรครับ

วันเดียวกัน น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง เมื่อไปบริโภคข่าวสาร ก็จะมองว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของเว็บหรือเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ใช่ตัวแม่จริงหรือไม่ ซึ่งมันต้องมีอะไร ดังนั้นหากต้องตรวจสอบแล้วร่วมมือกันทำให้ถูกต้อง ยิ่งรัฐบาลนี้เปิดมาก็จะทำเรื่องใต้ดินมาอยู่บนดิน ทำเรื่องพนันออนไลน์และกาสิโนให้ถูกกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องบอกว่าไม่มีการพนันและกาสิโนเลย เป็นเรื่องที่ถูกที่สุด แต่ที่แย่ที่สุดคือมีแล้วฝังไว้ใต้ดิน แม้แต่ประเทศทั่วโลกตระหนักเรื่องพวกนี้ แม้แต่ประเทศที่เคร่งกว่าเราก็เอาเรื่องนี้มาทำให้ถูกหมดแล้ว แต่ประเทศเรากลับกลายเป็นว่าไปบังแล้วกดเรื่องพวกนี้ไว้ใต้ดิน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เล็งเห็นความสำคัญกับการปฏิบัติงานด้านชุมชนสัมพันธ์ในสถานีตำรวจ จึงได้ลงนามอนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการประเมิน เพื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทำหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ให้กับสถานีตำรวจทั่วประเทศ ตามที่ อ.ก.ตร.บริหารทรัพยากรบุคคลเสนอ รวมทั้งสิ้น 1,938 ตำแหน่ง แบ่งเป็น สว.(ป้องกันปราบปราม) ทำหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ หรือ สวป.(ชส.) 487 ตำแหน่ง ในสถานีตำรวจขนาดใหญ่จำนวน 437 สถานี และสถานีตำรวจขนาดกลางในพื้นที่ตำรวจนครบาล อีก 50 สถานี และรอง สว.(ป้องกันปราบปราม) ทำหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ หรือรอง สวป. (ชส.) 1,451 ตำแหน่ง สำหรับสถานีตำรวจขนาดกลางและเล็กในสังกัด ภ.1-9

ส่วนที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. เปิดเผยหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงลูกน้องพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ว่า ได้ประชุมเพื่อสรุปข้อมูลธุรกรรมการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นบัญชีม้า ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสื่อมวลชนทั้งหมด 7 คน กับ 1 สมาคมสื่อมวลชนในชื่อบุคคล เบื้องต้นพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าจะออกหมายเรียกเพื่อสอบปากคำในฐานะพยานหรือไม่ ทั้งนี้ สื่อมวลชนแต่ละรายได้รับเงินไม่เท่ากัน มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท บางรายรับอย่างต่อเนื่องรายเดือน บางรายรับเป็นครั้งๆ

"ขณะนี้มีผู้บริสุทธิ์ใจมาพบตำรวจแล้ว 10 ราย ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่  ส่วนตำรวจผู้ต้องหา 8 รายแรก กำลังพิจารณาว่าอาจจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง รวมทั้งยังคงเร่งติดตามผู้ต้องหาความผิดฐานฟอกเงินและเป็นบัญชีม้าอีก 6 รายที่ยังคงหลบหนี" พล.ต.ท.ไตรรงค์ระบุ.