กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา เรียกหน่วยงานควบคุมดูแล “น.ช.ทักษิณ” ชี้แจง แต่ไร้ข้อมูลอาการป่วย เหตุอ้าง “ความลับผู้ป่วย” จ่อเรียกแจงใหม่เดือน ต.ค. เผยอยู่ รพ.ครบ 6 เดือน ก.พ.67 เข้าเกณฑ์พักโทษ กลับไปอยู่บ้านได้โดยไม่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม "ราชทัณฑ์" แจงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผู้ต้องขังเจ็บป่วยได้หากไม่ได้รับการยินยอม ชี้เป็นไปตามหลักกฎหมาย มาตรฐานสากล
ที่รัฐสภา วันที่ 25 กันยายน มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่มีนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นประธาน กมธ. โดยได้พิจารณาติดตามการดูแลนักโทษของระบบราชทัณฑ์ ทั้งนี้พบว่าตัวแทนของหน่วยงานที่ กมธ.เชิญร่วมประชุม คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, โรงพยาบาลตำรวจ, กระทรวงยุติธรรม, กรมราชทัณฑ์, ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายสมชายกล่าวตอนหนึ่งก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระว่า การเชิญตัวแทนหน่วยงานมาให้ข้อมูลกับ กมธ.นั้น ต้องการทราบถึงการดูแลผู้ป่วยตามมาตรการของกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส รวมถึงติดตามหรือข้อสงสัย ในกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่รักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ นั้น จะไม่ล้วงลูกหรือกระทบกระเทือนสิทธิผู้ป่วย ทั้งนี้การประชุมจะเป็นการประชุมลับ และจะเปิดเผยรายละเอียดเฉพาะที่ได้รับอนุญาต
ต่อมาเวลา 16.45 น. นายสมชายแถลงว่า กมธ.ได้รับคำตอบชัดเจนในระดับหนึ่งใน 4 ประเด็น คือ 1.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ารับการรักษาที่ รพ.ตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ที่ให้พักรักษาตัวอยู่ใน รพ.ตำรวจ มีทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเวรเฝ้าดูแลควบคุม ข้อครหาที่ว่านายทักษิณไม่ได้อยู่ที่ รพ.ตำรวจจริง หรือกลับบ้านไปเลี้ยงหลานแล้วนั้น ตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยัน นายทักษิณยังพักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ 2.การรักษาตัวเป็นไปตาม 4 โรคสำคัญ ที่มีผลรับรองทางการแพทย์จากสิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
"ขณะที่การผ่าตัดนายทักษิณโดยแพทย์ใหญ่ที่ รพ.ตำรวจนั้น ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเรื่องอาการป่วยและการผ่าตัด เพราะเป็นไปตามกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิผู้ป่วย และตัวแทนแพทย์ รพ.ตำรวจที่มาชี้แจง กมธ.ในครั้งนี้ไม่ใช่แพทย์ผู้ดูแลรักษานายทักษิณ แต่ กมธ.ให้คำแนะนำว่า ขณะนี้มีการสงสัยอาการป่วยหลายโรค แพทย์ควรชี้แจงว่า มีโรคใดที่ควรกังวล ใช้เวลาพักฟื้นเท่าใด เพื่ออธิบายให้สังคมเข้าใจ คลายความสงสัย แม้ประเด็นดังกล่าวจะเป็นสิทธิของผู้ป่วยและญาติไม่เปิดเผย แต่ควรอธิบายให้สังคมเข้าใจในบางระดับว่าจะต้องรักษาต่อไปอีกนานเท่าใด กมธ.แนะนำสามารถส่งข้อมูลทางลับได้ เพราะ กมธ.จะไม่นำไปเปิดเผย"
นายสมชายกล่าวต่อว่า 3.ถ้านายทักษิณอาการดีขึ้นจะส่งตัวกลับไปรักษาที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระบุว่า ต้องดูอาการนายทักษิณว่าอยู่ในเกณฑ์ใด ขึ้นอยู่กับแพทย์จะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจ และเป็นสิทธิของญาติที่จะชี้แจงกับสังคมหรือไม่ โดย กมธ.ไม่ก้าวล่วง 4.กรณีรับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี จะได้รับการลดโทษได้อีกหรือไม่ กรมราชทัณฑ์ระบุว่า เกณฑ์ขอลดโทษตามช่วงเวลาที่ขอพระราชทานอภัยโทษนั้น มีช่วงเวลาตามโอกาสพิเศษ เช่น วันที่ 5 ธ.ค., 28 ก.ค., 12 ส.ค. แต่การขอลดโทษตามเกณฑ์ดังกล่าว นักโทษต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน โดยยึดเกณฑ์เวลาที่มากกว่า
"กรณีนายทักษิณจะครบเกณฑ์รับโทษ 6 เดือนในเดือน ก.พ. 2567 จะได้รับสิทธิการพักโทษ เพราะอยู่ในเงื่อนไขมีอายุเกิน 70 ปี แม้จะรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ก็ถือว่าเข้าข่ายให้นับโทษอยู่ในเรือนจำ ดังนั้นหากนายทักษิณรักษาตัวอยู่ใน รพ.ตำรวจครบ 6 เดือน ในเดือน ก.พ. 2567 ก็จะเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องใส่กำไลอีเอ็ม แต่อาจจำกัดพื้นที่ให้อยู่ที่บ้านในประเทศไทย ไม่สามารถเดินทางไปนอกราชอาณาจักรได้"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กมธ.ได้รับข้อมูลหรือไม่ว่า นายทักษิณต้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจไปอีกนานแค่ไหน นายสมชายกล่าวว่า เป็นประเด็นที่แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจจะพิจารณา กมธ.ไม่ค่อยได้รับคำตอบเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ เราไม่สามารถไปบังคับให้ต้องตอบ ทำได้แค่ให้คำแนะนำว่าถ้าไม่ตอบสังคมจะมีความสงสัย หากไม่ป่วยต้องกลับเข้า รพ.ราชทัณฑ์ แต่หากป่วยต้องชี้แจงถึงระยะเวลารักษา อยากเห็นความตรงไปตรงมา หากนายทักษิณตัดสินใจจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หากปล่อยให้มีความสงสัยและเกิดเป็นคลื่นใต้น้ำ อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมได้ กมธ.จะให้เวลาอีก 1 เดือน คือในช่วงเดือน ต.ค. ก่อนที่นายทักษิณจะครบสิทธิการรักษาตัวนอกเรือนจำอีก 30 วัน จากนั้นจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงอีกครั้ง
วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจง เรื่องการเปิดเผยข้อมูลผู้ต้องขังว่า เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลให้เป็นไปโดยเสมอภาคกันตามกฎหมาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ต้องขัง การสัมภาษณ์ การเปิดเผยใบหน้า โดยเฉพาะข้อมูลทางการแพทย์ การรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังรายใดก็ตาม ทั้งที่เป็นประชาชนคนธรรมดา ดารานักแสดง นักการเมือง หรือผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคม ฯลฯ ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำโดยกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมไม่สามารถเปิดเผยได้หากผู้ต้องขังไม่ยินยอม และกรณีที่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ต้องมีการลงนามในแบบฟอร์มเพื่อยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลเท่านั้น (Informed Consent) โดยยึดหลักกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
1.พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 7 ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลเป็นความลับส่วนบุคคล 2.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 ผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท 3.ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 ข้อ 27 ซึ่งแพทย์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ยังยึดมั่นในหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังพึงได้รับตามมาตรฐานสากล โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศภาคีสมาชิกแห่งองค์การสหประชาชาติ มีการวางมาตรฐานข้อกำหนดแมนเดลา (Mandela Rules) ซึ่งเป็นข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง โดยรายละเอียดของผู้ต้องขังในฐานะผู้ป่วย ตามข้อกำหนดที่ 26, 32 ที่กำหนดว่า ข้อมูลด้านเวชระเบียนผู้ต้องขังทุกคนต้องเก็บเป็นความลับ ผู้ต้องขังมีสถานะเป็นผู้ป่วยตามปกติเมื่อเข้าพบแพทย์ ผู้ป่วยต้องให้ความยินยอมบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง (Informed Consent) สำหรับการตรวจหรือรักษาทางการแพทย์ ประวัติการรักษาของผู้ต้องขังต้องถูกเก็บเป็นความลับ การไม่เปิดเผยข้อมูลเรื่องสุขภาพของผู้ต้องขังนั้น ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงได้รับเท่าเทียมกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน
‘ทักษิณ-พท.’ยิ้มร่า ศาลยกคำร้องล้มล้างฯ เพื่อไทยเล็งฟ้องเอาคืน
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง