หลังปีใหม่โอมิครอนพุ่ง แจก‘อสม.’500บ.6เดือน

ยอดติดเชื้อรายใหม่ลดเหลือ 2,862 ราย เสียชีวิต 37 คน “บิ๊กตู่”ย้ำยังไม่ปรับมาตรการโควิด หลังอังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโอมิครอน สั่ง สธ.ศึกษาความรุนแรงโรคเชิงลึก "อธิบดีกรมการแพทย์" ชี้กลาง ม.ค.65 ไทยจะเริ่มพบผู้ป่วยโอมิครอนมากขึ้น เหตุติดง่ายแพร่เร็วกว่าเดลตา ขอ ปชช.ป้องกันเข้มงวด "อนุทิน" เผยของขวัญปีใหม่ อสม. นายกฯไฟเขียวเพิ่มค่าเสี่ยงภัย 500 บาทอีก 6 เดือน เตรียมชง ครม.อนุมัติอังคารหน้า

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,862 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,826 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,799 ราย ค้นหาเชิงรุก 27 ราย เรือนจำ 17 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 19 ราย หายป่วยเพิ่ม 4,818 ราย อยู่ระหว่างรักษา 47,531 ราย อาการหนัก 1,039 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 296 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 37 ราย เป็นชาย 22 ราย หญิง 14 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 27 ราย มีโรคเรื้อรัง 8 ราย ผู้เสียชีวิตมากสุดใน กทม. 12 ราย

สำหรับ 10 อันดับจังหวัดผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด กทม. 570 ราย, นครศรีธรรมราช 225 ราย, ชลบุรี 136 ราย, สงขลา 119 ราย, สุราษฎร์ธานี 106 ราย, สมุทรปราการ 102 ราย, เชียงใหม่ 93 ราย, ตรัง 70 ราย, นครราชสีมา 62 ราย, กระบี่และนครสวรรค์ จังหวัดละ 61 ราย

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,174,906 ราย ยอดหายป่วยสะสม 2,106,144 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 21,231 ราย ยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. เพิ่มเติม 250,737 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ทั้งสิ้น 97,653,854 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 271,067,467 ราย เสียชีวิตสะสม 5,328,132 ราย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มอบหมาย กรณีการประเมินสถานการณ์และการปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย หลังมีผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอนชาวอังกฤษเสียชีวิตว่า เรื่องดังกล่าวนายกฯ ชี้แจงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ ศบค.ได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยได้พิจารณาและติดตาม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการอะไรจากที่ประชุม ศบค. เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.

"ทั้งหมดขึ้นอยู่กับทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือกัน เพราะหากมีมาตรการ แต่ไม่นำไปสู่การปฏิบัติร่วมกัน ก็จะไม่สำเร็จ และจะเกิดความเดือดร้อน จึงขอความร่วมมือมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร หรือ Covid Free Setting รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

มีรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สธ.ได้รายงานเรื่องเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นเพียงเชื้อที่กลายพันธุ์ สามารถรักษาได้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์บอกมีสำนักข่าวต่างประเทศบางแห่งระบุเชื้อดังกล่าวอาจจะรุนแรงได้ จึงขอให้ สธ.ไปศึกษารายละเอียดดังกล่าว และเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้งเร่งทำความเข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น.พล.อ.ประยุทธ์ได้หารือเรื่องวัคซีนโควิดผ่านระบบซูม ร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และตัวแทนบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ใช้เวลา 1 ชม. หลังจากก่อนหน้านี้ ศบค.รับทราบแผนการจัดหาวัคซีนในปี 2565 ซึ่งจะมีการจัดหาวัคซีนเตรียมพร้อมในเข็มที่ 4 ซึ่งมีวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าด้วย

หลังปีใหม่โอมิครอนอื้อ

ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากพบการระบาดของโอมิครอนและในอังกฤษพบคนเสียชีวิต 1 คน มาตรการต่างๆ ในการรักษายังคงเดิม แต่ขณะนี้ได้มีการหารือกับภาคีเครือข่ายเตรียมพร้อมในการดูแลผู้ป่วย หากไทยต้องเผชิญกับโอมิครอน โดยส่วนตัวคาดว่าไทยน่าจะเริ่มพบผู้ป่วยโอมิครอนมากขึ้นหลังปีใหม่ หรือในกลางเดือน ม.ค. หากพบมากขึ้น ป่วยน้อยก็ยังใช้การรักษาแบบ HI

"ต้องยอมรับโอมิครอนติดง่ายและแพร่เร็วกว่าเดลตา แม้ผลการรายงานโอมิครอนอาจหลบภูมิคุ้มกันวัคซีน แต่การฉีดวัคซีนยังช่วยลดอัตราการติดเชื้อรุนแรงได้อยู่ ส่วนเรื่องของยาทั้ง Molnupiravia และ Paxlovid ยังประสิทธิภาพน่าจะได้อยู่ แต่ที่สามารถป้องกันได้ผล 100% คือ มาตรการระยะห่าง สวมหน้ากาก และล้างมือ ช่วยป้องกันโอมิครอนได้แน่นอน อย่างไรก็ดี ความรุนแรงของโอมิครอนขึ้นอยู่กับจำนวนการติดเชื้อ หากมีการติดเชื้อมากย่อมมีโอกาสที่จะพบคนมีความรุนแรง โดยอัตราป่วยคิดเป็น % เช่น ป่วย 1,000 คน อาจรุนแรง 5% แต่ขณะนี้จากการติดตามสถานการณ์ไม่พบผู้ป่วยอาการหนักจากโอมิครอนในไอซียู" อธิบดีกรมการแพทย์ระบุ

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มีข่าวดีสำหรับนักรบชุดเทาที่ทำงานหนักตลอดช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลพยายามหาทางตอบแทนความทุ่มเทเสียสละ โดยก่อนหน้านี้ได้ให้ค่าตอบแทนพิเศษเดือนละ 500 บาทแล้ว รวมเป็นระยะเวลา 12 เดือน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติค่าเสี่ยงภัยให้ อสม.เพิ่มเติมอีก 6 เดือน เดือนละ 500 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับนักรบชุดเทา สรุปนับตั้งแต่มีโควิดระบาดพี่น้อง อสม.จะได้รับค่าตอบแทนพิเศษรวมแล้ว 18 เดือน

“สธ.และรัฐบาล รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ได้หารือร่วมกันตลอดในการสร้างขวัญกำลังใจคนทำงาน พวกเราทุกคนทราบถึงความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ ผมเป็นคนหนึ่งที่ผลักดันการช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ และทุกครั้งที่เสนอไปนายกฯ จะรับไปพิจารณาทันที เพราะท่านเห็นคุณค่าความสำคัญของบุคลากรสาธารณสุข และยังเคยกล่าวอีกว่าจะต้องให้การดูแลแบบนี้ ไปจนถึงวันที่ไม่มีการระบาดของโควิด-19 แล้ว ส่วนตัวต้องขอขอบคุณท่านด้วย ที่ไม่ทอดทิ้งคนทำงาน”รองนายกฯ กล่าว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนายกฯ เห็นชอบให้มีการจ่ายค่าตอบแทนเพื่อเป็นการค่าเสี่ยงภัยให้ อสม. โดยมีข้อสั่งการให้ สธ.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่ง สธ.จะจัดทำรายละเอียดโครงการจ่ายค่าเสี่ยงภัยแก่ อสม. เดือนละ 500 บาท ระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม. ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า

เพิ่มเงิน อสม.อีก 6 เดือน

"การจ่ายค่าเสี่ยงภัยให้แก่ อสม.อีก 6 เดือนนี้ จะเพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้ อสม. ได้รับค่าตอบแทนพิเศษ เดือนละ 500 บาทแล้ว ระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งถือเป็นการมอบของขวัญปีใหม่แก่พี่น้อง อสม." รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยว่า ขณะนี้อัตราการฉีดวัคซีนทยอยเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้เข้ามารับวัคซีนจำนวนมากแล้ว ล่าสุด ข้อมูลที่รายงานผ่านระบบหมอพร้อมวันที่ 14 ธ.ค.2564 จนถึงเวลา 12.30 น. สามารถฉีดได้ 140,461 โดส สะสม 97,893,176 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 50,012,231 ราย ซึ่งเกิน 50 ล้านคนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ส่วนเข็มที่สอง 43,572,451 ราย, เข็มที่สาม 4,266,735 ราย และเข็มที่สี่ 41,759 ราย

นายอนุทินกล่าวว่า สธ.ยังเดินหน้าให้บริการวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม รวมถึงการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันตามช่วงเวลาที่กำหนด โดยร่นระยะเวลาให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม ทั้งวัคซีนชนิดเดียวกันหรือสูตรไขว้ ได้ฉีดเข็มกระตุ้นหลังฉีดเข็มสองแล้ว 3 เดือน ดังนั้น ผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. จะสามารถมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ในเดือนธันวาคมนี้

"ขอให้ประชาชนออกมารับวัคซีนโควิดให้ครบโดส เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ การจัดงานต่างๆ ศบค.กำหนดให้ผู้ประกอบการ พนักงาน และลูกค้าที่จะเข้าร่วมงาน ต้องฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม จึงจะสามารถเข้าร่วมงานได้อย่างปลอดภัย" นายอนุทินกล่าว

ถามถึงมีขบวนการออกใบรับรองการฉีดวัคซีนปลอม รองนายกฯ กล่าวว่า กรณีการออกใบรับรองวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง หรือใบวัคซีนปลอม นอกจากเป็นอันตรายต่อตนเองและคนรอบข้างแล้ว ยังมีความผิดทางอาญา เพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมายต้องติดคุก เราไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคติดตามสืบหาข้อเท็จจริง หากพบการกระทำความผิดจริงตามข่าวให้ดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด.