อุ้ม‘ทนายถุงขนม’ใช้งานทำเนียบฯ

"เศรษฐา” คุยฟุ้งปักหลักนอนทำเนียบฯ แน่นอน อ้างไม่อยากเป็นภาระทีม รปภ. เผย "บิ๊กตู่" เตือนแล้วเจอดีแน่ข้อหาสร้างภาพ "หมอมิ้งค์" ออกโรงตั้งที่ปรึกษานายกฯ ไม่มีเงินเดือน อุ้ม "พิชิต ทนายถุงขนม" เทียบชั้นกูรูกฎหมายไว้ใช้งาน หม้อข้าวไม่ทันดำศึก ก.เกษตรฯ ปะทุ “ไชยา-ธรรมนัส” คลองหลอดร้อนฉ่าจัดทัพยุค "สิงห์หนู” ปูนบำเหน็จมาเต็ม ผวจ.บุรีรัมย์นั่งกรมใหญ่ หึ่งจ่อขึ้นปลัด มท.ปีหน้า

เมื่อวันจันทร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง สวมชุดไทยเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุม ครม.เลื่อนมาในวันเดียวกันนี้ เนื่องจากนายกฯ มีกำหนดการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78  (UNGA 78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย. 66

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนอนที่ทำเนียบฯ เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ยังตกแต่งไม่เสร็จ เมื่อถามย้ำว่าแต่จะนอนที่ทำเนียบฯ ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวยืนยันว่าแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุม ครม.มีรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 2 คน ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายจักรพงษ์ แสงมณี  รมช.การต่างประเทศ

นายเศรษฐากล่าวถึงการพักที่ทำเนียบฯ อีกครั้ง ระหว่างการเสวนาในสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยระบุว่า เรื่องที่บอกว่าจะนอนทำเนียบรัฐบาลนั้นจริง เพราะบ้านที่ตนเองอยู่เล็ก ต้องมีตำรวจไปดูแลเพื่อนบ้านจะเดือดร้อน รวมถึงต้องใช้เวลาเดินทางเยอะ ไม่อยากเป็นภาระกับตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัย คนที่เป็นภาระคือฝ่ายเลขาฯ ระหว่างตนทานอาหารเช้า 06.30 น. ก็ต้องมีคนมาสั่งงานได้แล้ว ตนยอมเป็นภาระกับกลุ่มเลขาฯ 4-5 คนเท่านั้น โดยจะไปนอน 3-4 วันต่อสัปดาห์

 “ถ้ามีภารกิจตอนค่ำ ก่อนนอนก็สามารถสั่งงานก่อนนอนได้อีกครั้ง ยืนยันทำงานเต็มที่ เทหมดหน้าตักจริงๆ ก็ต้องทำงานหนักจริงๆ ตอนเจอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  อดีตนายกฯ ก็เตือนให้ระวังคนจะหาว่าสร้างภาพ ผมเข้าใจในความหวังดีเพราะโดนแน่นอน” นายเศรษฐาระบุ

นายเศรษฐาระบุถึงกรณีนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกฯ มาช่วยงานทางด้านไหนว่า มาช่วยเรื่องกฎหมาย

ด้าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกฯ ทั้ง 9 คนว่า นายกฯ ได้ตั้งคณะที่ปรึกษาของนายกฯ และไม่สามารถรับเงินเดือนได้ จึงสามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ มาทำงานได้ ซึ่งแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ซึ่งนายกฯ บรรจงเลือกมา

เมื่อถามว่า มีข้อกังวลที่นำบุคคลที่เป็นกรรมการอยู่ในบริษัทแสนสิริมาเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้วย นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า คนมีความสามารถมีอยู่ในหลายวงการ ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยเราก็ไม่เชิญมาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งเราได้จัดความสำคัญตรงนี้อย่างดี

เมื่อถามว่า ในส่วนของนายพิชิตสามารถดูเรื่องกฎหมายของรัฐบาลทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลมีที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ซึ่งคือคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่แล้ว ส่วนนายพิชิตคงจะมาช่วยดูในเรื่องของมิติทางกฎหมายอื่นๆ เพราะมีความเชี่ยวชาญ

เมื่อถามถึงกรณีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวกรณีของข้าวบูล็อก จะมีผลต่อการเป็นที่ปรึกษานายกฯ หรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า เรื่องของคดีก็ดำเนินการไป ส่วนที่เป็นความรู้ความสามารถความตั้งใจ เราก็ต้องเคารพในเรื่องนี้ ส่วนจะมีปัญหาเรื่องของความสง่างามหรือไม่ คิดว่าความสง่างามอยู่ที่ทำประโยชน์ให้ประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน

วันเดียวกัน นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่าไม่พอใจเรื่องการแบ่งงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ไม่ใช่ว่าตนเองไม่พอใจ แต่ว่าคำสั่งต้องมีความชัดเจน เพราะเปรียบเทียบกับกระทรวงอื่นเขาก็มีการมอบอำนาจชัดเจน ในแต่ละยุคก็มีคำสั่งที่มอบหมายไม่เหมือนกัน ซึ่งการมอบงานให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ เราไม่สามารถตอบสนองนโยบายได้เลย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมวลชนของเราส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสานและเหนือ ซึ่งตนต้องตอบคำถาม สส.ในพื้นที่ ตอนเราไปตรวจราชการ เรื่องดิน น้ำ สัตว์ ซึ่งสัตว์ก็มีหลายประเภทก็ไม่สามารถตอบประชาชนได้

 “ผมเองว่าท่านรัฐมนตรีว่าการจะงานหนัก ก็อยากจะแบ่งเบาภาระท่าน ซึ่งก็แล้วแต่ท่านจะมอบหมายจัดความสมดุลอย่างไร กลัวว่าท่านรัฐมนตรีว่าการจะหนักเกินไป ก็อยากแบ่งเบาท่านบ้าง เราอยากทำงาน อันนี้ไม่ได้เรียกร้องว่าเราได้กรมน้อยนะ" นายไชยากล่าว

เมื่อถามอีกว่า จะไม่เป็นจุดที่ทำให้เกิดรอยร้าวใช่หรือไม่ นายไชยากล่าวว่า ไม่มี ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ ก็มีความรู้สึกเหมือนกัน  ก็ไม่ได้ต่างจากตนเอง

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุม ครม.ว่า มีมติอนุมัติ/เห็นชอบในเรื่องการแต่งตั้ง อาทิ มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้ง นายอารี ไกรนรา เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

นายชัยระบุด้วยว่า ครม.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงและโยกย้ายข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย (มท.) รวม 24 ราย ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็นรองปลัดกระทรวง 1 ตำแหน่ง อธิบดี 3 ตำแหน่ง  และผู้ว่าราชการจังหวัด 20 ตำแหน่ง สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงและผู้ว่าราชการจังหวัด รวม 24 ตำแหน่ง มีอาทิ 1.นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน  เป็นอธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) 3.นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม  รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) 4.นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ มท.ครั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่กลุ่มสิงห์ดำ คณะรัฐศาสตร์  จุฬาฯ ที่มีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท.เป็นพี่ใหญ่ของสิงห์ดำ ยังคงผงาดอยู่ในแผงอำนาจของ มท.อีกครั้งหนึ่ง และถูกมองว่าเป็นการวางขุมกำลังให้อยู่ในแผงอำนาจ มท. แบบยาวนาน

อย่างเช่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่จะมาเป็นอธิบดีกรมการปกครองคนใหม่ พบว่าเป็นรุ่นน้องสิงห์ดำที่ใกล้ชิดกับนายสุทธิพงษ์ ที่สำคัญเหลืออายุราชการอีกยาวนานถึง 8 ปีเต็ม โดยจะเกษียณในปี 2574 แต่มานั่งเป็นอธิบดีกรมใหญ่ที่สุดของ มท. จนทำให้ถูกวิจารณ์กันว่าในอนาคต นายอรรษิษฐ์มีโอกาสได้เป็นปลัด มท.แน่นอน ซึ่งตอนที่นายสุทธิพงษ์  นำชื่อไปคุยกับนายอนุทิน ก็มีข่าวว่ามีการสอบถามถึงเรื่องอาวุโส เพราะนายอรรษิษฐ์เหลืออายุราชการอีกถึง 8 ปี จะเป็นการข้ามอาวุโสคนอื่นหรือไม่

แต่นายสุทธิพงษ์ยืนยันว่ามีความเหมาะสม มีผลงาน  โดยเฉพาะการต่อยอดและผลักดันโครงการด้านเศรษฐกิจพอเพียง เช่น โคกหนองนาโมเดล จึงทำให้นายอนุทินไม่ขัดข้องและสนับสนุนเต็มที่  

ส่วนนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัด มท.ที่มาเป็น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนคนใหม่ พบว่าก็เป็นสิงห์ดำ เช่นกัน และจะเกษียณในปี 2570 เคยเป็น ผวจ.ปทุมธานี,  เลย และราชบุรีมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งเคยเป็นหัวหน้าสำนักงาน รมว.มหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา มาก่อน

แต่ที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรก็คือ กรณีการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ขยับขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่เป็นอีกหนึ่งกรมใหญ่และมีงบประมาณเยอะของ มท. เพราะนายไชยวัฒน์เรียกได้ว่าเติบโตในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นฐานการเมืองใหญ่ของเนวิน ชิดชอบ และพรรคภูมิใจไทยมาตลอด ตั้งแต่เป็นนายอำเภอประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จนมาเป็นรอง ผวจ.บุรีรัมย์ และขึ้นเป็น ผวจ.บุรีรัมย์เมื่อปี 2565 และจะเกษียณในปี 2568 แต่กลับเข้ามาเป็นอธิบดีกรมป้องกันฯ ซึ่งดูแลโดยนายเกรียง  กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย จากพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ดูแลโดย 3 รัฐมนตรีมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย

จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไม่น้อยว่า เหตุใด นายเกรียงถึงยอมให้ ผวจ.บุรีรัมย์มาเป็นอธิบดีกรมที่ตัวเองดูแล หรือจะเป็นการวางตัวให้นายไชยวัฒน์เตรียมลุ้นเป็นปลัด มท.คนใหม่ในปีหน้า ส่วนนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ที่ย้ายจาก ผวจ.ตราด ที่เป็นจังหวัดเล็ก มาเป็นรองปลัด มท. พบว่าไม่ได้เป็นสิงห์ดำ เพราะจบนิติศาสตร์ ม.รามคำแหงเช่นกัน อีกทั้งเป็นน้องชายนายประชา เตรัตน์  อดีตรองปลัด มท.ที่เคยเป็นอดีตคณะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา มายาวนานร่วม 9 ปี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ อิ๊งค์บอกตำรวจอยากดูแล ปท.แบบคนรุ่นใหม่มีอะไรคุยกันได้

นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ ขอดูแลปชช.ช่วงปีใหม่ เชื่อ ตร.ภายใต้การนำ ”บิ๊กต่าย“ ทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข-ปลอดภัย บอกอยากดูแลประเทศแบบคนรุ่นใหม่ มีอะไรคุยกันได้