กลุ่ม คปท.บุก สตช.ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ทวงถามอาการ "น.ช.ทักษิณ” กังขาใช้อภิสิทธิ์ปกปิดความจริง ทำลายกระบวนการยุติธรรม จี้เปิดรายชื่อแพทย์ที่รักษา นัด 22 ก.ย.บุกราชทัณฑ์ 24 ก.ย.กลับมาทวงถาม รพ.ตำรวจอีกที "ผบ.ตร." โบ้ยให้ไปถามกรมคุก ด้านโฆษกราชทัณฑ์แจงทักษิณยังไม่ยื่นพักโทษเหตุไม่เข้าเกณฑ์ คาดพ้นโทษ ก.พ.67 "ปอท." รอ อสส.ประสานแจ้งข้อหา ม.112 หลัง คสช.ส่งตัวแทนแจ้งความเอาผิด
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 18 กันยายน นายพิชิต ไชยมงคล, นายนัสเซอร์ ยีหมะ, นายสอและ กูมุดา เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อสอบถามอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรายชื่อแพทย์ พร้อมขอให้นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจชี้แจงความจริง โดยมี พ.ต.อ.ถาวร มีขำ รอง ผบก.ทพ. นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายพิชิตกล่าวว่า ภายหลังที่นายทักษิณได้อ้างสิทธิ์ในการเป็นผู้ป่วยแล้วย้ายมารักษาตัวนอกเรือนจำ เมื่อคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน สังคมได้มีคำถามที่รอคำตอบจากคณะแพทย์จาก รพ.ตำรวจถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ว่ามีอาการป่วยจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ การอ้างการป่วยด้วยเอกสารการรักษาตัวจากต่างประเทศจึงไม่สามารถเอามาอ้างในการรักษาตัวนอกเรือนจำได้ การป่วยต้องเป็นการป่วยใหม่หลังจากเข้าสู่เรือนจำแล้ว และที่สำคัญการป่วยนั้นจำเป็นถึงขั้นต้องออกมารักษาตัวนอกเรือนจำหรือไม่
"สังคมมีคำถามถึงการใช้อภิสิทธิ์ และการปกปิดความจริงเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกแก่นายทักษิณเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งก็เท่ากับการทำลายกระบวนการยุติธรรม ที่เมื่อตกเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดแล้วจำเป็นต้องเข้าสู่การควบคุมตัวที่เรือนจำ ที่ผ่านมานายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีของการเป็นทั้งตำรวจและนายแพทย์ ยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยของสังคมได้อย่างชัดเจน"
คปท.จึงขอเรียกร้องไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในฐานะผู้บังคับบัญชาของแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ดังนี้ 1.ขอให้สั่งการให้เปิดเผยรายชื่อคณะแพทย์ที่ทำการรักษานายทักษิณว่ามีใครบ้าง และเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านไหน เพื่อสังคมจะได้รู้ว่ามีแพทย์เฉพาะทางที่ตรงกับการที่กล่าวอ้างว่ามีการป่วยหนัก และต้องใช้แพทย์เฉพาะด้านจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างลอยๆ โดยใช้เอกสารเก่าในการใช้อภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังคนอื่นๆ ในการออกมารักษาตัวนอกเรือนจํา
2.ขอให้สั่งการให้คณะแพทย์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้ถึงอาการป่วยของนายทักษิณ เฉกเช่นที่แพทย์ของ รพ.ราชทัณฑ์ยังสามารถอธิบายอาการป่วยของผู้ต้องขัง เอกชัย หงส์กังวาน ที่ป่วยหนักและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนที่ รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งสามารถออกมาชี้แจงแก่สังคมได้ แล้วทําไม รพ.ตำรวจจึงทําตัวเหมือนร่วมกันช่วยปกปิดความจริง
3.ขอให้สั่งการให้คณะแพทย์ได้ดำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณของแพทย์ และรักษาไว้ซึ่งเกียรติ ศักดิ์ศรีความเป็นตำรวจ ในการแสดงความเห็นต่ออาการป่วยของนายทักษิณ ที่จะต้องเสนอต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการรักษาตัวนอกเรือนจำ ซึ่งจะครบ 30 วันในวันที่ 21 ก.ย.นี้ อย่างตรงกับอาการป่วยจริง เนื่องจากสังคมมีข้อสงสัยว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริงตามกล่าวอ้าง การช่วยกันปกปิดเรื่องดังกล่าวเท่ากับเป็นการยัดเยียดอาการป่วยให้กับกระบวนการยุติธรรม
แกนนำ คปท.กล่าวว่า ในศุกร์ที่ 22 ก.ย.นี้ เครือข่ายจะไปพบอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อสอบถามประเด็นดังกล่าว ว่าอาการป่วยของนายทักษิณเพียงพอที่จะต้องรักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจหรือไม่ ถ้าตอบคำถามสังคมได้ว่าป่วยจริงก็ไม่เกิดความเคลือบแคลง และในวันที่ 24 ก.ย.จะมาทำกิจกรรมและทวงถามที่ รพ.ตำรวจอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีกลุ่ม คปท.ยื่นหนังสือถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ ต้องไปถามกรมราชทัณฑ์ ตำรวจแค่ MOU กัน และมาใช้สถานที่ถูกต้องตามระเบียบ
นายสิทธิ สุธีวงศ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณี นายทักษิณ ในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาด ดำเนินการยื่นเอกสารต่อเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขอเข้าโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปว่า นายทักษิณหรือครอบครัวยังไม่ได้มีการยื่นขอพักโทษ และกรมราชทัณฑ์ยังไม่ได้รับทราบการยื่นเอกสารดังกล่าว ส่วนกระบวนการขอพักโทษนั้นจะเป็นกระบวนการที่เรือนจำเป็นผู้พิจารณายื่นเรื่องให้กรมราชทัณฑ์พิจารณา ปัจจุบันนายทักษิณได้รับการอภัยลดโทษเหลือจำคุกเพียง 1 ปี ดังนั้น 1 ใน 3 ที่นี้ก็คือ 4 เดือน แต่ตามกฎหมายมีการระบุว่าหรือ 6 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่า ซึ่งหมายความว่านายทักษิณ จะต้องจำคุกมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน การยื่นมาก่อนก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะยังไม่เข้าเกณฑ์ จึงทำให้กรณีของนายทักษิณโทษจำคุกจะไปสิ้นสุดอยู่ที่ช่วงเดือน ก.พ.67
โฆษกกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า เมื่อใกล้ครบ 30 วัน รพ. ตำรวจจะต้องส่งผลประเมินเรื่องสุขภาพนายทักษิณมายังเรือนจำ และกรมราชทัณฑ์ก็จะพิจารณาจากความเห็นของแพทย์ หากยังคงมีอาการไม่ทุเลาดีขึ้น หรือแพทย์มีความเห็นให้มีความจำเป็นจะต้องรับการรักษาเฉพาะทางต่อเนื่อง เรือนจำฯ ก็จะพิจารณาจากความเห็นของแพทย์ดังกล่าว และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็จะอนุญาตให้พักรักษาตัวภายนอกเรือนจำต่อได้
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีรายงานความคืบหน้าคดีของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาอีก 1 คดี โดยคดีนี้อัยการสูงสุด (อสส.) ได้สั่งฟ้องไปแล้ว คือการกระทำความผิดตามกฎหมาย มาตรา 112 และเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งเป็นกรณีในช่วงปี 2558 ที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมพระธรรมนูญแจ้งความเอาผิดนายทักษิณ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้ ในลักษณะพาดพิงสถาบัน และได้มีการออกหมายจับนายทักษิณไปแล้วนั้น
ในส่วนของคดีดังกล่าว พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. เปิดเผยว่า ในคดีนี้พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้แจ้งความคืบหน้าไปยังอัยการสูงสุดทราบแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ส.ค. หลังจากนายทักษิณกลับถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย หลังจากนี้อัยการสูงสุดจะประสานกลับมายังพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อไปแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันระหว่างอัยการและพนักงานสอบสวนให้ผู้ต้องหาในคดีทราบ จากนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย ขณะนี้กำลังรอหนังสือนัดหมายจากอัยการสูงสุดอยู่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"