‘พี่ศรี’ยื่นตรวจสอบ ‘เศรษฐา-ปดิพัทธ์’ ผลาญงบฯไปตปท.

นายกฯ ยัน 30 ล้านเหมาลำประชุมยูเอ็น ถูกกว่าที่เขาบอกมา พูดหลายทีแล้วเอาตามนั้น ปฏิเสธไม่มีนักธุรกิจบินไปด้วย ด้าน "รองอ๋อง" อ้างระเบียบกระทรวงการคลังต้องนั่งชั้น business class อย่างเลี่ยงไม่ได้ ย้ำทุกอย่างถูกต้องหมด "พี่ศรี" ร้อง สตง.สอบ "เศรษฐา" ยืน ป.ป.ช.ฟันจริยธรรม "ปดิพัทธ์"

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการพูดถึงการเช่าเหมาลำเครื่องบินการบินไทย เพื่อเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA 78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย.นี้ วงเงิน 30 ล้านบาทว่า เคยแถลงไปหลายหนแล้ว ก็เอาตามคำแถลงแล้วกัน ว่ามันถูกกว่าที่เขาบอกมา

เมื่อถามย้ำว่า มีกระแสข่าวว่านักธุรกิจไปด้วย นายกฯ ปฏิเสธว่าไม่มี

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐาจะออกเดินทางไปร่วมประชุมยูเอ็น  โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เดินทางไปด้วย มีกำหนดเดินทางถึงนครนิวยอร์กช่วงเช้ามืดวันที่ 19 ก.ย. และจะเริ่มภารกิจในวันที่ 19 ก.ย. โดยภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการประชุม UNGA 78 ได้แก่ การเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Summit) และจะร่วมกล่าวถ้อยแถลงในช่วง Leaders’ dialogue 6 “Mobilizing finance and investments and the means of implementation for SDGs achievement” และในช่วงค่ำ นายกฯ จะร่วมงานเลี้ยงรับรองเพื่อเป็นเกียรติแก่ประมุขและหัวหน้ารัฐบาลที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 และคู่สมรส

เมื่อถามว่า การร่วมประชุมครั้งนี้นายกฯ จะเน้นเรื่องอะไร นายชัยตอบว่า มีการเน้นสองเรื่องใหญ่คือ การพบผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อแสวงหาเรื่องการค้าขาย การลงทุน และเน้นพบผู้นำทางเศรษฐกิจ ภาคเอกชนรายใหญ่ของโลก เพื่อให้บริษัทเหล่านี้สนใจมาใช้ฐานการผลิตสินค้าและบริการในประเทศไทย อีกทั้งนายกฯ จะใช้โอกาสนี้แสดงวิสัยทัศน์เพื่อให้นานาชาติเห็นภาพพจน์ของไทยผ่านวิสัยทัศน์ผู้นำประเทศ

ถามว่า จะมีการหารือแบบทวิภาคีกับประเทศใดบ้าง นายชัยแจงว่ามีอยู่ 3-4 ประเทศ แต่กระทรวงการต่างประเทศขอให้ตนยังไม่เอ่ยชื่อ เพราะอาจจะเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกันกับประเทศที่ไม่ได้พบ เมื่อถามว่าจะได้พบกับประเทศเยอรมนีหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า "บอกไม่ได้ แต่เดี๋ยวคงเป็นข่าว"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิจารณ์กันว่าการเดินทางไปครั้งนี้ใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ ที่มีนักธุรกิจร่วมเดินทางไปด้วย โดยใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท นายชัยกล่าวว่า ไม่กังวลและนายกฯ เป็นนักธุรกิจมาก่อน ท่านเน้นมากการใช้งบประมาณของประเทศของประชาชน ต้องสมเหตุสมผล โดยมีทางเลือกที่เสนอมาและแพงกว่านี้ ซึ่งนายกฯ เลือกตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุด พอสมควร เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยไป พอดีๆ

อีกคนที่ถูกตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสมในการไปดูงานต่างประเทศคือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้งบประมาณเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ 1,379,250 บาท พร้อมเดินทางด้วยที่นั่้งชั้น business class ระหว่างวันที่ 21-24 ก.ย. นี้

นายปดิพัทธ์เผยว่า เคยถูกถามก่อนหน้านี้ว่าจะยกเลิกการดูงานทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งตนบอกว่าไม่ยกเลิก แต่จะดูเท่าที่จำเป็นและให้มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ต้องไปดูว่ากระบวนการของราชการมีขั้นตอนของกระทรวงการคลัง ที่ระบุว่าบุคคลระดับต่างๆ ต้องได้รับการดูแลให้เดินทางอย่างปลอดภัยและสมฐานะของประเทศอย่างไร

เขากล่าวว่า ตอนที่ยังไม่ทราบระเบียบเหล่านี้ก็เรียกเจ้าหน้าที่มา บอกว่าเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่งจะบินด้วยสายการบินต้นทุนต่ำได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ไปทำการบ้านมาปรากฏว่าไม่ได้เพราะมีระเบียบกระทรวงการคลังล็อกไว้ว่า บุคคลเช่น รัฐมนตรี, ผบ.เหล่าทัพ, ประธานวุฒิสภา, ประธานรัฐสภา จะได้รับการดูแลให้เดินทางโดยสายการบินประจำชาติ เป็นการเบิกแบบสูงสุด ตั้งเรื่องไว้ก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าถ้าใช้จริงจะเป็นเท่าไรแน่ จึงให้นโยบายไปเลยว่าใช้ให้ถูกที่สุด เพราะสัมภาระไม่เยอะ

นายปดิพัทธ์​ยังกล่าว​อีกว่า​ ส่วนการนอนโรงแรมก็อย่าให้ถึงงบสูงสุดคือ 12,000 บาท เอาแค่ 7,000-8,000 ก็พอ เจ้าหน้าที่ไปทำการบ้านมา ได้โรงแรมที่เหมาะสมแล้ว อย่างไรก็ตาม เอกสารการเบิกเป็นการเบิกแบบเต็มที่ ตามสิทธิ์ที่บรรจุในระเบียบกระทรวงการคลัง ดังนั้นทั้งหมดมีเงื่อนไขอยู่ ต้องมีการพูดคุยให้ถูกต้องตามระเบียบ ส่วนเรื่องสายการบินเชื่อว่าเจ้าหน้าที่การคลังของสภาได้ทำการบ้านดีที่สุดแล้ว สรุปเป็นชั้นธุรกิจของการบินไทย

รองประธานสภาฯ อ้างว่า สส.พรรคก้าวไกลที่ร่วมเดินทางไปด้วยนั้นล้วนมีภารกิจทั้งสิ้น เช่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับ Smart Parliament โดยตรง เก่งที่สุดในเรื่องเทคโนโลยี ส่วนนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เป็นประธานของอนุกรรมการเกี่ยวกับ Young Parliament ดังนั้นยืนยันว่าทั้งหมดมีที่มาที่ไปและเหตุผล

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เผยว่า ตนอนุมัติไปแล้ว และได้มีการสอบถามฝ่ายกฎหมาย รวมถึงไปดูข้อบังคับก็พบว่าสามารถทำได้ และก็ใช้งบประมาณของรองประธานคนที่ 1 เป็นการใช้ไปตามระเบียบ และตนก็มองแล้วว่าการเดินทางไปครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มงานที่เขารับผิดชอบดูแลอยู่

เมื่อถามว่า เมื่อมีข่าวแพร่ออกไปมันไม่ใช่เรื่องของการถูกเชิญ แต่เป็นการตั้งงบไปศึกษาดูงาน นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า มันมีงบอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะใช้ตอนไหน เวลาไหน ตนมองเรื่องของประโยชน์ที่จะได้รับมากกว่า และหากเขากลับมาก็ต้องมีการเขียนรายงาน และสามารถนำ สส.ไปได้ด้วยหากเป็นประโยชน์ต่องานที่ทำอยู่

มีรายงานว่า ในการขออนุมัติงบประมาณพบว่า 7 สส.ที่ร่วมคณะเลือกใช้สิทธิ์บินชั้นธุรกิจทั้งหมด ทั้งที่เป็นเส้นทางบินระยะสั้นใช้เวลาราว 2.20 ชั่วโมง โดยค่าบัตรโดยสารอยู่ที่คนละ 51,250 บาท ขณะที่ข้าราชการร่วมคณะได้สิทธิ์บินชั้นประหยัด ค่าบัตรโดยสารไป-กลับอยู่ที่คนละ 20,000 บาท ต่างกันถึงคนละ 31,250 บาท จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายปดิพัทธ์และคณะไม่ประหยัดงบประมาณตามนโยบายที่ตนเองได้เคยประกาศไว้ เมื่อครั้งรับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้ยื่นคำร้องไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขอให้สอบการจ้างเหมาเครื่องบินการบินไทย 30 ล้านบาท เพื่อนำนายกรัฐมนตรีและคณะไปเข้าร่วมประชุมยูเอ็น เป็นการขัดหรือแย้งต่อ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560” ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 หรือไม่อย่างไร

มีประเด็นที่สังคมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเพื่อความชัดเจนของกฎหมาย การใช้อำนาจในการกระทำดังกล่าว มีข้อสงสัยที่ต้องพิสูจน์ให้สิ้นสงสัย คือ 1.เหตุใดจึงไม่มีการเปรียบเทียบราคากลาง เพราะเป็นการสืบราคาเพียงรายเดียวคือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น ในขณะที่มีสายการบินอีกมากมายที่ใช้กำหนดราคากลางได้ การกระทำดังกล่าวชอบด้วยระเบียบหรือกฎหมายหรือไม่ 2.เหตุใดราคาที่มาจากการเสนอของการบินไทยรายเดียวนั้น ไม่มีราคาต้นทุนเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของเครื่องบินกองทัพอากาศ ที่มีเครื่องบินซึ่งเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้เคยออกมาระบุว่า การที่นายกฯ เศรษฐาไม่ใช้เครื่องบิน Airbus 340 ของกองทัพอากาศ เนื่องจากค่าใช้จ่ายเครื่องบิน ทอ.สูงกว่าอย่างไร

 ที่สำคัญ ไม่ปรากฏว่ามีการเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่ร่วมเดินทางไปกับนายกรัฐมนตรี 50 คน ว่าเป็นใครบ้าง เป็นการปกปิดข้อมูลที่ควรต้องแจ้งให้ประชาชนทราบตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 41 (1) ประกอบ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ 2540 หรือไม่ เพราะมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าอาจมีนักธุรกิจร่วมเดินทางไปด้วยจำนวนหนึ่ง หากใช้งบประมาณของรัฐเพื่อสนับสนุนนักธุรกิจเหล่านั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

นายศรีสุวรรณยังบอกว่า จะไปร้องให้มีการตรวจสอบจริยธรรมนายปดิพัทธ์​ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ เพราะจะอ้างว่าเป็นการขอไปตามระเบียบการขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว แต่ประเด็นคือการใช้เงินภาษีประชาชนจำนวนมากไปใช้อาจจะไม่คุ้มค่า ซึ่งการไปดูงานแค่นี้ไม่มีผลดีมากเมื่อเทียบกับเงินนับล้านบาท และการนำ สส.พรรคตัวเองเกือบทั้งหมด และมี สส.พรรคเพื่อไทย 1 คน ร่วมขบวนไปด้วย ทั้งที่ สส.เหล่านั้นไม่ได้มีอำนาจในเชิงบริหาร ไม่มีหน้าที่ใดๆ ในการบริหารของรัฐสภา แม้จะดูงานได้ แต่ไม่สามารถนำมาปรับปรุงการบริหารของรัฐสภาได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอมิ้ง' แจงยังไม่นำรายชื่อ 'ครม.อิ๊งค์ 1' ขึ้นทูลเกล้าฯ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติ คุณสมบัติ ในลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

สุดสับสน! ปรากฏการณ์การเมืองไทย ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะกลุ่ม สส. แต่หัวหน้าพรรคกลับถูกไล่ออกไม่ให้ร่วมด้วย

'เรืองไกร' ท้า 'นายกฯอิ๊งค์' โชว์ใบลาออก พ้นกรรมการ 20 บริษัท

ายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท

'นายกฯอิ๊งค์' อยู่ได้เกิน 6 เดือนไหม! ขึ้นอยู่กับ 2 ทางรอด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊งจะอยู่เกิน 6 เดือนไหม