‘ชาดา’เดิมพันเก้าอี้ ขอ6เดือนขจัดมาเฟีย/เศรษฐาสั่ง1ปีปราบยาเสพติด

“เศรษฐา” เป็นประธานเผาของกลางยาเสพติดกว่า 2.5 หมื่นกิโล  ลั่นเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องด่วนที่ต้องทำให้เห็นผลใน 1 ปี และจะทำให้ยาบ้าหมดไป แต่ “อนุทิน” บอกตีเส้นเวลาไม่ได้ “ชาดา” ขอเวลา 6 เดือนปราบมาเฟีย ชี้หากทำไม่ได้ไม่นั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย เตือนพวกบ้านใหญ่ยุคนี้ห้ามเป็นผู้มีอิทธิพลหรืออยู่เบื้องหลัง โพลระบุชัดคนส่วนใหญ่เชื่อตำรวจเป็นเบ๊ให้มาเฟีย 60% รับไม่กล้าแหยมหากมีเรื่องกัน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย.2566 ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายเศรษฐากล่าวในที่ประชุมว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นวาระแห่งชาติ โดยตนจะนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานในการทำให้ปัญหาเหล่านี้ลดน้อยลง หรือหมดไปในระยะอันใกล้ ทั้งเรื่องผู้เสพเป็นผู้ป่วยรักษาดูแล และส่งคืนเขากลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว รวมไปถึงการป้องกันที่ต้นน้ำ ไม่ให้ไปเสพ ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่เมื่อยึดยาเสพติดมาแล้วต้องเร่งในการเผาทำลายเพื่อตอบสังคมให้ได้   รวมถึงการยึดทรัพย์ที่ต้องเร่งทำอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเวลา 14.30 น. นายเศรษฐา และคณะเดินทางต่อมายังบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นประธานพิธีทำลายยาเสพติดของกลาง  ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งเป็นของกลางจากคดียาเสพติด 100 คดี ประกอบด้วย ยาบ้า 12,522 กก., ไอซ์ 11,656 กก., เฮโรอีน 418 กก., ฝิ่น 179 กก., คีตามีน 704 กก. และสารเสพติดอื่นๆ น้ำหนักรวม 25,517 กก.

โดยนายเศรษฐากล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรัง ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ประชาชนเข้ามาร้องเรียนตลอด รัฐบาลเอาจริงกับเรื่องนี้ปัญหายาเสพติด ต้องลดลงให้ได้ใน 1 ปี รัฐบาลนี้ต้องทำให้ยาบ้าหมดไปให้ได้ เหมือนที่ทุกท่านได้เห็นการทำลายในวันนี้

เมื่อถามว่า การตั้งเป้าแก้ปัญหายาเสพติด 1 ปี จะเห็นผลเมื่อไหร่ นายเศรษฐากล่าวว่า ขอให้มีการประชุมหนแรกก่อน วันนี้เพิ่งตั้งคณะทำงาน

ถามว่า จะดึงทหารเข้ามาช่วยแก้ปัญหายาเสพติดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า แน่นอน เพราะต้องมีเรื่องการควบคุมชายแดน ตรงนี้เป็นส่วนสำคัญ เพราะการลักลอบนำสารตั้งต้นและยาเสพติดไปประเทศอื่นถือเป็นส่วนสำคัญ

เมื่อถามว่า ในส่วนของพืชกัญชา ที่ยังมีปัญหาอยู่ในกลุ่มโรงเรียนหรือเยาวชน จะแก้ปัญหาอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า เรายืนยันกัญชาเพื่อการแพทย์

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า มท.จะเดินหน้าทำงานเชิงรุก หลังจากนายกฯ ได้สั่งการให้เร่งรัดปราบปราม เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับจังหวัด โดยจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพราะปัญหายาเสพติดไม่มีวันจบสิ้น ไม่สามารถกะช่วงเวลาได้ว่าจะให้ยาเสพติดหมดไปภายใน  3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี เพราะหากตั้งเป้าแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง แต่จะทำให้เกิดความลำบากและอุปสรรคมากที่สุดกับผู้ที่ค้ายาเสพติด และผู้เสพ

วันเดียวกัน นายชาดา ไทยเศรษฐ์   รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการชั่วโมงข่าว เสาร์-อาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ย้ำภารกิจในการเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า ได้ตั้งคณะกรรมการและสั่งการไปแล้ว  ซึ่งแนวทางคือจัดทำข้อมูลบัญชีผู้มีอิทธิพลชุดใหม่ ทั้งกลุ่มอิทธิพลในอดีต และกลุ่มที่เพิ่มขึ้นใหม่ โดยอำเภอและตำรวจร่วมกันจัดทำ

 “กรณีกำนันนกเป็นตัวอย่าง หลังจากนี้นายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดต้องพูดคุย ประสานการทำงานกันมากขึ้น ต้องทำงานเข้มข้นขึ้น ถ้าปล่อยปละละเลยจะต้องมีบทลงโทษ เพราะถือว่าบกพร่อง นายอำเภอต้องไม่ให้มีผู้มีอิทธิพล ต้องคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องประสานตำรวจ รายงานเข้ามา ไม่ใช่นั่งดูเฉยๆ ต่อไปต้องจัดการของเก่าให้หมดไป ของใหม่ต้องไม่เกิด” นายชาดากล่าว

นายชาดาเชื่อมั่นว่า การขับเคลื่อนงานจะไม่มีปัญหา เพราะถือว่าเป็นกูรู เป็นผู้มีอิทธิพลมาก่อน แต่เป็นผู้มีอิทธิพลด้านดี และเคยถูกขึ้นบัญชีมาก่อน ถือว่ามีความเข้าใจงาน ใช้คนตรงงาน ถูกฝาถูกตัว โดย 6 เดือนหลังจากนี้น่าจะได้เห็นผลของการขับเคลื่อนแก้ปัญหา และพร้อมจะพิจารณาตัวเองถ้าภารกิจไม่สำเร็จ

"ถ้าทำเรื่องนี้ไม่ได้ ผมก็ไม่อยู่เหมือนกัน มันถูกใจผม ถูกฝาถูกตัว น่าจะมีประโยชน์กับบ้านเมือง" นายชาดา กล่าว และว่า นับจากนี้นักการเมืองที่เป็นบ้านใหญ่ของแต่ละจังหวัดจะต้องไม่วางตัวเป็นผู้มีอิทธิพล หรือให้การสนับสนุนกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน นายชาดายังโชว์ฟิล์มเอกซเรย์เพื่อยืนยันว่ามีปัญหากระดูกคอเอียง ส่งผลต่อบุคลิกส่วนตัว ซึ่งเป็นผลจากการประสบอุบัติเหตุ และจะแสดงอาการเมื่อมีภาวะเครียดหรืออดนอน  และย้ำว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยพร้อมให้มีการตรวจปัสสาวะทุกเมื่อเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

“อาการนี้ถ้าเครียดหรืออดนอนจะเป็น เป็นคนป่วยคนหนึ่ง คุณมายุ่งอะไรกับอาการป่วยผม มาชกใต้เข็มขัดทำไม  ผมไม่สนใจ ผมยังท้ามาตรวจฉี่กัน ถ้าไม่ม่วงคุณกินฉี่ผมนะ เรื่องนี้เชื่อใจได้อาการจะดีขึ้น เพราะตอนนี้ก็ทำกายภาพ” นายชาดากล่าว

ขณะที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง ผู้มีอิทธิพลกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยสอบถามประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ 1,310 หน่วยตัวอย่าง ซึ่งเมื่อถามประชาชนถึงกลุ่มของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัด พบว่า 49.54% ระบุว่าในเขตพื้นที่ไม่มีผู้ใดเป็นผู้มีอิทธิพล,  26.34% นักการเมืองท้องถิ่น, 15.95% กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน, 15.80% ตำรวจ, 13.21% ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น, 12.14% พ่อค้า นักธุรกิจ นายทุนสีเทา, 6.03% พ่อค้า นักธุรกิจ นายทุนทั่วไป, 5.95% นักการเมืองระดับชาติ, 5.04% นักเลงหัวไม้ มือปืน, 4.81% ทหาร, 2.44% ประธาน กรรมการชุมชน, 0.76% สื่อมวลชน คนวงการบันเทิง และ 0.38% ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความกล้าของประชาชนที่จะมีปัญหาหรือมีข้อขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพล พบว่า 60.30% บอกไม่กล้าเลย,  16.34% ไม่ค่อยกล้า, 12.75% กล้าอยู่แล้ว, 9.08% ค่อนข้างกล้า และ 1.53% ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ และเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปกป้องคุ้มครองและให้ความยุติธรรมของตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ  เมื่อประชาชนมีปัญหาหรือมีข้อขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพล พบว่า 38.93% ไม่มั่นใจเลย, 37.10% ไม่ค่อยมั่นใจ, 13.51% ค่อนข้างมั่นใจ, 9.92% มั่นใจมาก และ 0.54% ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการที่มีตำรวจ  เจ้าหน้าที่รัฐบางคนทำตัวเป็นลูกน้อง ผู้ปกป้องคุ้มครองผู้มีอิทธิพล พบว่า 59.77% เชื่อมาก, 26.49% ค่อนข้างเชื่อ, 8.32% ไม่ค่อยเชื่อ, 4.35% ไม่เชื่อเลย และ 1.07% ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอมิ้ง' แจงยังไม่นำรายชื่อ 'ครม.อิ๊งค์ 1' ขึ้นทูลเกล้าฯ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติ คุณสมบัติ ในลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

สุดสับสน! ปรากฏการณ์การเมืองไทย ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเฉพาะกลุ่ม สส. แต่หัวหน้าพรรคกลับถูกไล่ออกไม่ให้ร่วมด้วย

'เรืองไกร' ท้า 'นายกฯอิ๊งค์' โชว์ใบลาออก พ้นกรรมการ 20 บริษัท

ายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แสดงหลักฐานต่อสาธารณะเกี่ยวกับการลาออกจากกรรมการบริษัทต่างๆ รวม 20 บริษัท

'นายกฯอิ๊งค์' อยู่ได้เกิน 6 เดือนไหม! ขึ้นอยู่กับ 2 ทางรอด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊งจะอยู่เกิน 6 เดือนไหม