“บิ๊กโจ๊ก” เผยกู้ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิด 15 ตัวได้ครบแล้ว ชี้มีมือดีดึงปลั๊กกล้อง 2 ตัวสำคัญตอนยิงออก เชื่อตำรวจร่วมงานโกหกทั้งหมด คาด 16 ก.ย.มีออกหมายจับเพิ่ม สภ.นครปฐมหิ้ว รปภ.ฝากขังผัดแรก แต่ศาลตีราคา 50,000 บาทให้ประกันตัว
เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ย.2566 ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ สว.ทล.1 กก.2 บช.ก. ภายในบ้านพักของนายปวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านของกำนันนกว่า ได้ตรวจสอบเสร็จสิ้นไปแล้ว 13 ตัว โดยยังเหลืออีก 2 ตัวที่กำลังให้เจ้าหน้าที่โคลนนิงไฟล์ภาพเพื่อตรวจสอบ โดยกล้องวงจรปิด 2 ตัวที่ตรวจสอบนี้เป็นวงจรปิดบริเวณจุดที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร และเป็นจุดที่กำนันนกนั่งอยู่บริเวณโต๊ะจีน
“เจ้าหน้าที่สามารถกู้ไฟล์ภาพวงจรปิด 2 ตัวนี้ได้แล้วเมื่อเวลา 08.00 น. ซึ่งกำลังให้เจ้าหน้าที่นำไฟล์ภาพวงจรปิด 2 ตัวนี้ส่งให้พนักงานสอบสวน โดยคาดว่าจะถึงที่ บช.ภ.7 ในเวลา 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะมาตรวจสอบว่าสุดท้ายแล้วมีผู้เกี่ยวข้องรายได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า ส่วนการจะออกหมายจับอีกหรือไม่นั้น วันนี้คาดว่าจะยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม เพราะพนักงานสอบสวนต้องสอบพยานและบุคคลเพิ่มเติม แต่ในวันที่ 16 ก.ย. มีความเป็นไปได้ที่จะออกหมายจับเพิ่มเติมได้แม้เป็นวันหยุด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังกู้ไฟล์กล้องวงจรปิด 2 จุดสำคัญ ว่าจากการตรวจสอบภาพ ยืนยันได้ว่ามีการตระเตรียมการไว้แล้วที่จะยิง และเมื่อมีการเตรียมการไว้ก่อนลงมือยิง มีคนมาถอดปลั๊กออกเพื่อไม่ให้เห็นตอนที่ยิง โดยดึงปลั๊กออกแค่ 2 ตัวที่สำคัญ เพราะไม่สามารถดึง 15 ตัวได้ทัน จึงเลือกดึงเฉพาะจุดสำคัญคือเพื่อไม่ให้เห็นตอนยิง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำทั้งหมดที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยจะสอบทั้งตำรวจและพลเรือน ซึ่งพลเรือนรู้อยู่แล้วว่ามีการเตรียมการมายิง
ขณะที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุ พบว่าโกหกหมดทุกคน
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าภาพวงจรปิดที่กู้มาได้เห็นการเตรียมการแม้กระทั่งเตรียมรถให้กำนันนกหลบหนี นอกจากนี้ยังพบเห็นรถกระบะสีดำ 4 ประตู ขับออกจากที่เกิดเหตุสำนักงานกำนันนก ในวันที่ 6 ก.ย. หลังเกิดเหตุยิง แล้วนำขบวนรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวซึ่งเป็นรถของกำนันนกขณะหลบหนี ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าคนขับรถคันดังกล่าวคือรองสารวัตรจราจรสังกัดหนึ่งในจังหวัดนครปฐม โดยตำรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำแล้ว ให้การอ้างว่าหลังเกิดเหตุขับรถเพื่อกลับบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านกำนันที่ ต.ตาก้อง จึงใช้เส้นทางเดียวกัน และยังบอกอีกว่าเป็นญาติกับกำนันนก โดยรองสารวัตรคนดังกล่าวให้การเป็นประโยชน์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นใครทำอะไรบ้าง ส่วนจะมีความผิดฐานร่วมกันในการพาหลบหนีหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะข้อมูลดังกล่าวที่ได้จากรองสารวัตรเป็นข้อมูลใหม่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน ในช่วงเช้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม คุมตัวนายประสงค์ ไทรไกรกระ ญาติกำนันนก และเป็น รปภ.ในบ้านที่เกิดเหตุ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม หลังจากที่ถูกนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยทันทีที่ออกมาจากห้องสอบสวน นายประสงค์เดินตรงไปที่รถส่งตัวผู้ต้องหา ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใดๆ โดยมีท่าทีเครียดและน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้เรียกนายประโยชน์ หรือผู้ใหญ่โยชน์ และภรรยา ลูกสะใภ้ที่เป็นภรรยาของกำนันนก พร้อมทนายความของกำนันนก มาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อมาสอบปากคำอีกครั้ง หลังกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดได้ ซึ่งเมื่อสื่อพยายามสอบถามกับทางครอบครัวกำนันนกว่าได้ไปเยี่ยมกำนันนกหรือไม่ และกำนันนกได้ร้องขออะไร หรือกังวลอะไรหรือไม่ ทางครอบครัวและทนายไม่ได้ตอบอะไร รีบเข้าห้องสอบสวนไปทันที
ต่อมาที่ศาลจังหวัดนครปฐม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้นำตัวนายประสงค์ รปภ.บ้านนายปวีณผู้ต้องหากระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยานอีก 4 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรผู้ต้องหา อาวุธปืนของกลาง และอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.-26 ก.ย.นี้ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาญาติของนายประสงค์ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายประสงค์ โดยตีราคาประกัน 50,000 บาท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"