พิธาไขก๊อกหึ่ง!หวังฟัน2เก้าอี้

“พิธา” ฟุ้งเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ไขก๊อกพ้นเก้าอี้หัวหน้าพรรค เปิดทางหาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ   ลั่นเตรียมเจอกันบ่อยขึ้นทั้งในประเทศและนอกประเทศ “ปดิพัทธ์” บอกพร้อมทำตามมติพรรค ไม่ปัดแนวคิดบีบไปซบพรรคอื่น สุดท้ายได้ทั้งรองประธานสภาฯ-ผู้นำฝ่ายค้าน “ชัยธวัช” ระบุ 23 ก.ย.เคาะหาผู้นำใหม่

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2566 เวลา 10.59  น. นายพิธา ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล ​(ก.ก.) โพสต์เฟซ​บุ๊กระบุว่า เรียนสมาชิกพรรคก้าวไกลทุกท่าน และพี่น้องประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศ วันนี้ชัดเจนแล้วว่าพรรคต้องเดินหน้าสู่การทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในฐานะฝ่ายค้านที่มีเสียงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 แต่เมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็น สส.ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของพรรคฝ่ายค้านอันดับ 1 แต่ปัจจุบันตนเองยังอยู่ภายใต้คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่   สส. จึงยังไม่สามารถเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษราษฎร และไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ในระยะเวลาอันใกล้ จึงได้หารือกับคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) และ สส. ของพรรคก้าวไกลแล้วเห็นว่า บทบาทผู้นำฝ่ายค้าน มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อระบบรัฐสภา เปรียบเสมือนหัวเรือที่กำกับทิศทางการทำหน้าที่ในสภาของฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลและผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงที่ยังตกหล่นจากนโยบายของรัฐบาล จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก.ก. เพื่อเปิดทางให้พรรคเลือก สส.ที่ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน

 “ไม่ว่าสถานะของผมจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้หายไปไหน แต่จะยังคงทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลและพี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังและสุดความสามารถ เพื่อขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงที่เราปรารถนาร่วมกัน” นายพิธาระบุ

ต่อมานายพิธาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก.ก.ว่า การเห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวคือสำนึกของนักการเมือง ซึ่งในบริบทการเมืองปัจจุบัน ฝ่ายค้านต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในเชิงทั้งมหภาคและจุลภาค ซึ่งส่วนตัวนั้นยังยึดคำเดิมว่าไม่ยึดติดกับหัวโขนหรือตำแหน่ง และปัจจุบันยังทำงานได้แม้ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย จิตใจยังเต็มร้อย และยังเดินหน้าทำงานในช่วงที่รอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงนี้อาจเจอมากกว่าเดิม และจะเดินหน้าเขย่าการเมืองไทย เขย่าปัญหาของประชาชน ผ่านตะแกรงร่อนเพื่อส่งต่อให้กับ สส.พรรคก้าวไกลและฝ่ายค้านที่ยังอยู่ในสภา รวมถึงเตรียมเดินทางไปทั่วประเทศและต่างประเทศ

 “ตามกฎหมายขณะนี้ผมเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล กระทั่งวันที่ 23 ก.ย.นี้ ที่จะมีการประชุมวิสามัญพรรค ที่จะเลือก กก.บห.และหัวหน้าพรรคคนใหม่” นายพิธากล่าว

เมื่อถามถึงคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ก.ก.คนใหม่ นายพิธากล่าวว่า มีบุคคลที่เหมาะสมที่จะนำพรรคกว่า 4-5 คน ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาคนบู๊หรือบุ๋น ซึ่งพรรค ก.ก.ไม่ได้เป็นพรรคที่มีเจ้าของที่ไม่สามารถสืบทอดอำนาจได้ ซึ่งเรื่องนี้มีระบบมีกฎหมาย มีข้อบังคับรับรอง เชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีความพร้อม

ถามต่อว่า น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ก.ก. มีความเหมาะสมหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า มีเหมาะสม 4-5 คน ซึ่ง น.ส.ศิริกัญญาเป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรค ก.ก.จะขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯ นายพิธากล่าวว่า หลังจากประชุมวิสามัญพรรคเป็นหน้าที่ของ กก.บห.พรรคชุดใหม่ที่จะหารือกับนายปดิพัทธ์ ฉะนั้นต้องรอเวลา และฟังความเห็นของนายปดิพัทธ์ด้วยตัวเขาเอง 

  เมื่อถามว่า หากอนาคตศาลรัฐธรรมนูญคืนสถานะให้ จะมีโอกาสกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต และเป็นเรื่องของข้อบังคับพรรค สมาชิกพรรค แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ถามว่า การประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคไว้ก่อน สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องของรูปคดี ฝ่ายกฎหมายของเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ คาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

ถามต่อว่า มีการมองการลาออกเพื่อเดินเกมนอกสภาเต็มรูปแบบ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการเดินเกมแต่อย่างใด ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ รัฐธรรมนูญที่เราต้องการเปลี่ยนเป็นมาแบบนี้ ก็ต้องเอาส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว ส่วนด้อมส้มที่เสียขวัญนั้น ก็ขอฝากว่า เจอกันทั่วประเทศ เจอกันทั่วโลก และจนกว่าเราจะกลับมาเจอกันใหม่

ขณะที่นายปดิพัทธ์กล่าวว่า หลังจากที่มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือก กก.บห.ชุดใหม่ ก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรณีพรรค ก.ก.จะตนเองออกให้ไปสังกัดพรรคอื่น เพื่อให้พรรค ก.ก.ได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภาฯ ว่าเราเรียกสิ่งนั้นว่าข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญ ไม่มีประเทศไหนมีทริกเช่นนี้ ซึ่งตนเองได้รับการโปรดเกล้าฯ มา ซึ่งไม่ควรได้รับข้อจำกัดเช่นนี้มาบีบให้เราต้องทำอะไรที่ไม่ตรงไปตรงมา แต่เมื่อข้อจำกัดเป็นเช่นนี้ แล้วพรรคเห็นสมควรเช่นไรก็เป็นเรื่องของพรรค  แต่ก็จะทำงานให้เต็มที่

เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคมีมติอะไรออกมา ยินดีที่จะทำตามใช่หรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ยังไม่รู้มตินะ ขอดูมติก่อน ซึ่งยืนยันว่าสิ่งที่พรรคตัดสินใจ ไม่ใช่ว่าจะเป็นประโยชน์กับพรรคเท่านั้น แต่เราคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และการที่เราได้เสียงข้างมากในสภาด้วย ฉะนั้นคิดว่าให้นำปัจจัยต่างๆ พวกนี้มาคิดรวมกัน แล้วมุ่งหน้าทำงานให้เต็มที่

นายชัยธวัช ตุลาธน รักษาการเลขาธิการพรรค ก.ก. กล่าวว่า ในวันที่ 23 ก.ย. จะมีการประชุมวิสามัญ ซึ่งวาระสำคัญคือการเลือก กก.บห.ชุดใหม่ ส่วนกรณีนายปดิพัทธ์นั้น ความชัดเจนต้องรอ กก.บห.ชุดใหม่ เมื่อได้ชุดใหม่แล้วก็คงหารือกับนายปดิพัทธ์ แต่ตอนนี้พรรคคิดว่าการทำงานในรัฐสภาจะมีประสิทธิภาพได้นั้น เราก็ควรมีสถานะเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ และควรมีผู้นำฝ่ายค้านที่มาจากพรรคฝ่ายค้านหลัก เพราะตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็มีบทบาทสำคัญ เป็นหัวเรือใหญ่ที่กำหนดทิศทางของฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า ยุทธศาสตร์ของพรรค ก.ก. คือมีทั้งตำแหน่งรองประธานสภาฯ และผู้นำฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพูดคุย กก.บห.ชุดใหม่ หลังวันที่ 23 ก.ย. จะมีความชัดเจนเรื่องต่างๆ มากขึ้น

 “นายพิธาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งและเป็นผู้นำของพรรคอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคก็ตาม ส่วนโอกาสที่นายพิธาจะได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น คิดว่าทุกองคาพยพในพรรคยอมรับในความเป็นผู้นำของนายพิธาอยู่แล้ว” นายชัยธวัชกล่าว

เมื่อถามว่า หากนายพิธาพ้นข้อสงสัยเรื่องคดีหุ้นไอทีวี ก็พร้อมกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายธวัชกล่าวว่า “ก็เป็นไปได้ครับ”

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายพิธาและสมาชิกพรรคก้าวไกลหลายคนต่างเคยให้สัมภาษณ์ระบุว่า ผู้นำพรรคฝ่ายค้านไม่มีความสำคัญเท่าใดนัก

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องภายในของพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรค ปชป.ได้แสดงความเห็นไปแล้วว่าตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเป็นสิทธิของพรรค ก.ก. เพราะมี สส.มากที่สุด ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯ ของนายปดิพัทธ์ เชื่อว่าจะมีการลาออกในอีกไม่นานนี้ เพื่อให้พรรคก้าวไกลมีหัวหน้าพรรคที่มีหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อนายพิธาลาออก ยังมี กก.บห.รักษาการอยู่ ซึ่งที่ประชุมร่วม สส. กับ กก.บห.ลงมติไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ลงมติขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรค เนื่องจากขัดมติที่ขอให้ลาออกจากรองประธานสภาฯ ทำให้นายปดิพัทธ์ต้องหาพรรคใหม่ใน 30 วัน เช่น ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม ทำให้ยังคงมีสมาชิกภาพเป็น สส. และคงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลก็เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ สรุปได้ทั้งรองประธานสภาฯ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ  จำนวน ส.ส.ฝ่ายค้านเท่าเดิม พรรคเป็นธรรมมี สส.เพิ่มขึ้นอีกคน ใครวางแผนให้มือยิ่งกว่าชั้นเซียนเหยียบเมฆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รทสช. หวั่นซ้ำรอย 'ยาดองมรณะ' จ่อชง กม. 'สุรารวมไทย' ประกบ 'สุราก้าวหน้า'

'ธนกร' เผย 'รทสช.' จ่อชงร่างกฎหมาย 'สุรารวมไทย' ต่อสภา ประกบ 'สุราก้าวหน้า' พรรคประชาชน ชี้ต้องยึดหลักไม่สุดโต่ง ชูอัตลักษณ์ชุมชน-ท้องถิ่น ผู้บริโภคปลอดภัย หวั่นซ้ำรอยเคสยาดองมรณะ

ช่วยนักโทษติดคุกหมด เสรีพิศุทธ์ถอนตัวงัดหลักฐานมัดแก๊งชั้น14/ปชป.มีมติร่วมรบ.

"นายกฯ อิ๊งค์" อารมณ์ดีนัดสื่อให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง 30 ส.ค. "ภูมิธรรม" มั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล หลังดึง